กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB up level

ชวนรู้จักที่มาของ “ชาไทย” สุดปัง!

ใครชอบดื่มชาไทย ยกมือขึ้น! 🙋🏻‍♀️❣️ เชื่อว่าน้องๆ หลายๆ คนคงเป็นสาวกชาไทยเหมือนกัน และยิ่งมีกระแสดังในตอนนี้บอกเลยว่าชาไทยมาแรงไม่แพ้ชาติใดแน่นอน🧡 แต่ เอ๊ะ น้องๆ สงสัยกันไปมว่าชาไทยมีประวัติมายังไง วันนี้เราจะพาน้องๆ มารู้จักความเป็นมาของชาไทยกัน! 🍹💖

ในประวัติศาสตร์จากจดหมายเหตุของ “ลาลูแบร์” โดยในช่วงอยุธยา คนไทยมีการดื่มชากันเฉพาะในกลุ่มชนชั้นสูงเท่านั้น โดยนิยมดื่มสดๆ ไม่ใส่นมและน้ำตาล ต่อมาคนไทยได้รับอิทธิพลวิธีดื่มชาแบบ “อินเดีย” จึงมีการดื่มชาแบบใส่นมและน้ำตาล แต่ยังดื่มแบบร้อนเป็นหลัก

ต่อมาเริ่มมีผู้ประกอบการวางขาย “นมข้นหวานตราแหม่มทูนหัว” ทำให้วัฒนธรรมการดื่มชาแบบใส่นมยิ่งเพิ่มขึ้น และคนทั่วไปก็ดื่มกันอย่างแพร่หลาย และเมื่อปี พ.ศ. 2446 มีการจัดตั้งโรงน้ำแข็งเป็นแห่งแรก ทำให้น้ำแข็งถูกใช้เข้าไปเพิ่มความสดชื่นจึงเกิดเมนู “ชาไทย” นั่นเอง!! ประกอบกับช่วงปลายร. 6 มีร้านกาแฟโบราณเพิ่มขึ้นในพระนครเยอะ ถือว่ายุคนี้เป็นยุคที่คนทั่วไปเข้าถึงการดื่มชาไทยอย่างทั่วถึงอีกด้วย ✨

แต่ยุคที่ถือเป็นต้นกำเนิดสำคัญคือตอนที่ “ชาตรามือ” กำเนิดขึ้นมาในไทย โดยเจ้าของทำธุรกิจนำเข้าใบชาจากเมืองจีนจึงได้นำเข้า “ชาแดง” เข้ามาขายเป็นครั้งแรก โดยนำมาชงเป็นชาไทยใส่นม ซึ่งกลายเป็นเครื่องดื่มสุดโปรดของคนไทยและคนทั่วโลกมาจนถึงวันนี้เลย! 🤩

เป็นยังไงกันบ้าง สนุกมากเลยใช่ไหมกับการเรียนรู้ประวัติของชาไทย ใครที่สนใจอยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับอาหารมากขึ้น ขอแนะนำ

📍The World of Food Science and Technology (เทคโนโลยีทางอาหาร) camphub.in.th/the-world-of-food-science-and-tech-oct2023/

แต่ถ้ายังไม่จุใจ เข้าไปดูเพิ่มเติมที่ https://www.camphub.in.th/science/ ได้เลยนะหรือถ้ามีค่าย food science น่าสนุกเมื่อไรจะรีบมาบอกน้องๆ เลย!

อ้างอิง 

silpa-mag.com/culture/article_45267 

urbancreature.co/thai-tea/

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

กล้วยหอม

เด็กสาวผู้ชอบดื่มชาเขียว อ่านหนังสือ ฟังเพลง และท่องเที่ยวใต้แสงตะวัน