กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
ข่าวประชาสัมพันธ์ บทความ

เรียนรู้การทำธุรกิจให้เป็นจริงใน 66 วันไปกับเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์

ปิดเทอมนี้น้องๆ ทำอะไรกันบ้าง? ไปเที่ยว ดูหนัง พักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่น้อง ๆ รู้ไหมว่ามีน้อง ๆ กลุ่มหนึ่งในจังหวัดน่าน ที่เลือกที่จะค้นหาตัวเองโดยสัมผัสประสบการณ์การเป็นผู้ประกอบการ กับ “โครงการเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์” ที่จัดขึ้นปีนี้เป็นครั้งแรก

ด้วยคอนเซ็ปต์  “66 วัน เรียนรู้ชีวิต ทำธุรกิจให้เป็นจริง”  น้องๆ จะได้เรียนรู้การทำธุรกิจผ่านการลงมือทำจริง ด้วยเงินทุนสนับสนุนเริ่มต้นจากทางมูลนิธิเพาะพันธุ์ปัญญา ที่ไม่ว่าตัวผลิตภัณฑ์หรือผลกำไรจะมากหรือน้อยเท่าไร ก็ไม่สำคัญเท่าการที่น้อง ๆ ได้พัฒนาทักษะชีวิต ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เมื่อจบจากค่ายแล้วพวกเขาจะมีความภูมิใจ มีความกล้าและมั่นใจในตัวเอง พร้อมที่จะก้าวออกไปเผชิญกับโลกความเป็นจริงในอนาคต

วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าเมื่อน้อง ๆ เข้าร่วมแคมป์นี้จนจบค่าย น้อง ๆ แต่ละทีมจะได้พัฒนาตัวเองและก้าวผ่านอุปสรรคอะไรไปบ้าง ไปดูกันเลย

กิจกรรมที่เต็มไปด้วยสาระและความสนุกสนาน

กิจกรรมของเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ เป็นกิจกรรมที่ถูกออกแบบมาให้มีสาระของการสร้างธุรกิจแบบเข้มข้น มีวัตถุประสงค์หลักคือการ “ให้” เป็นการให้องค์ความรู้ใหม่ ให้ทักษะใหม่ และให้โอกาสในการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองแก่เยาวชนที่เข้าร่วม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีเกมสันทนาการเพื่อให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้เรื่องธุรกิจกันได้อย่างสนุกสนานและไม่เครียด โดยแบ่งออกเป็น 3 แคมป์หลัก คือ

  1. แคมป์กล้าเรียน เป็นช่วงที่น้องๆ จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำธุรกิจแบบเน้น ๆ 
  2. แคมป์กล้าลุย คือช่วงเวลาที่น้องๆ จะได้ลงมือปฏิบัติด้วยการขายของจริง
  3. แคมป์กล้าก้าว เป็นช่วงที่น้อง ๆ จะได้สรุปผลธุรกิจตลอดช่วงเวลาที่ดำเนินธุรกิจมารวมถึงกระบวนการปิดบริษัท

นอกจากนี้ยังมีช่วงเวลานอกแคมป์ ที่น้อง ๆ ในแต่ละทีมจะได้ดำเนินธุรกิจตามแผนที่กำหนดไว้อีกด้วย

8 ทีม จาก 8 โรงเรียนทั่วจังหวัดน่าน ที่มาพัฒนาตัวเองกับเพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์

เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์ รุ่นที่ 1 มีน้อง ๆ มาเข้าร่วมมากถึง 8 ทีม จาก 8 โรงเรียนทั่วจังหวัดน่าน ประกอบไปด้วย น้องๆ จากโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร อ.เมืองน่าน โรงเรียนสา อ.เวียงสา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 อ.เวียงสา โรงเรียนปัว อ.ปัว โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม อ.ท่าวังผา โรงเรียนเชียงกลางประชาพัฒนา อ.เชียงกลาง โรงเรียนพระธาตุพิทยาคม อ.เชียงกลาง และ โรงเรียนเมืองลีประชาสามัคคี อ.นาหมื่น

น้อง ๆ แต่ละทีมจะเก่งกันขนาดไหน และมีอะไรน่าสนใจที่เปลี่ยนไปจากวันแรกบ้าง มาดูกันได้เลย!

สาวน้อยใจแกร่ง “กล้าล้มกล้าลุก”

5 สาวจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 ก่อนที่จะมาร่วมแคมป์น้องๆ แอบไม่กล้าแสดงออกเท่าไร แต่เพราะใจสู้ ทำให้สาวน้อยทั้ง 5 รวบรวมความกล้านำเสนอได้สำเร็จ และเมื่อต้องลุยตลาดครั้งแรก น้อง ๆ สามารถแนะนำสินค้าได้ฉะฉานมากขึ้นและชวนลูกค้ามาซื้อผลิตภัณฑ์กันได้อย่างน่ารักและคล่องแคล่ว เหมือนความไม่มั่นใจถูกโยนทิ้งไปทั้งหมด ซึ่งทุกคนในทีมเห็นตรงกันว่าทุกคนในทีมสามารถร่วมมือกันได้เป็นอย่างดี เปิดรับและปรับตัวเพื่อให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่างเต็มที่

จับมือเพื่อไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

ทีมโรงเรียนพระธาตุพิทยาคม แม้จะต่างคนต่างที่มา แต่น้องๆ ทั้ง 5 คนต่างเชื่อว่าความตั้งใจจะพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จ โดยน้องๆ ได้ฝึกที่จะกล้าเผชิญหน้ากับปัญหาใหม่ ๆ และน้อง ๆ ยังมีความกระตือรือร้นในการทำธุรกิจเพื่อไปสู่จุดหมายอีกด้วย ที่สำคัญ น้อง ๆ ทีมนี้สามารถทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดี แบ่งหน้าที่กันชัดเจน และมีความรับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้จึงถือเป็นหัวใจแห่งความสำเร็จที่ทำให้น้อง ๆ ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มาได้จนจบค่าย

แม้บ้านจะไกลแต่ใจต้องมาก่อน

ต่อมากับทีมโรงเรียนเมืองลีประชาสามัคคี โรงเรียนขนาดเล็กในอำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน ในช่วงแรกการทำงานของน้อง ๆ อาจมีการติดขัดบ้าง แต่น้อง ๆ ก็ผ่านมาได้ด้วยการเล็งเห็นถึงความสำคัญต่อการทำงานเป็นงานเป็นทีม จึงได้มีการแบ่งบทบาทกันอย่างชัดเจน ทำให้ทุกคนได้ใช้ศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ นอกจากนี้น้อง ๆ ยังรู้จักยอมรับและไม่วิ่งหนีความจริงทำให้สามารถแก้ปัญหาเชิงธุรกิจได้อย่างตรงจุด

ใจสู้เท่านั้นทลายทุกอุปสรรค

ทีมใจเด็ดต้องยกให้ทีมโรงเรียนเชียงกลางประชาพัฒนา เป็นหนึ่งอีกทีมที่เจอกับปัญหาอยู่บ่อยครั้ง แต่น้องๆ ทุกคนใจสู้และไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคง่าย ๆ ที่สำคัญน้อง ๆ ยังเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ในทีม รวมถึงยังแบ่งหน้าที่ตามความถนัดของแต่ละคนด้วยความเหมาะสม ทำให้ทีมนี้แข็งแกร่งและเหนียวแน่นจนผ่านอุปสรรคสุดหินต่าง ๆ มาได้ มากไปกว่านั้นน้อง ๆ ในทีมนี้ยังได้รับความสนุกสนาน ประสบการณ์ที่แสนประทับใจ และแรงบันดาลใจที่จะเรียนรู้ด้านธุรกิจให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

เล็กพริกขี้หนูและสามัคคีคือพลัง

ทีมโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร กับสาว ๆ 5 คน ที่โดดเด่นในเรื่องการวางแผนธุรกิจ เพราะน้อง ๆ สามารถทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดี ทำตามแผนได้อย่างราบรื่นและพร้อมรับมือกับปัญหาที่เข้ามาเสมอ นอกจากนี้ น้อง ๆ ยังมองปัญหาได้อย่างรอบด้านพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนมุมมองและคิดแก้ปัญหาด้วยหนทางใหม่ ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทำให้น้อง ๆ รู้จักแก้ปัญหา ปรับเปลี่ยนวิธีการขายและพัฒนาสินค้าให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

สนุกสนานและเก็บเกี่ยวมิตรภาพ

ทีมโรงเรียนสา เป็นอีกทีมที่ได้เรียนรู้ว่าการวางแผนเป็นสิ่งสำคัญ แม้จะเจอปัญหาอยู่บ่อยครั้งแต่น้อง ๆ ก็เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา และปรับเปลี่ยนแผนให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ที่สำคัญน้องๆ ยังเชื่อมั่นต่อเพื่อน ๆ ในทีม ขณะเดียวกัน ความเป็นมิตรของพวกเธอก็ทำให้ได้มิตรภาพใหม่ ๆ จากเพื่อนร่วมค่ายที่นำไปสู่ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่ยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย

วางแผนมาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

ทีมโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม เป็นทีมที่วางแผนได้เป็นอย่างดีและสามารถทำตามแผนนั้นอย่างเป็นระบบ ซึ่งการทำงานอย่างเป็นระบบนี้ทำให้น้อง ๆ สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตรงจุดและรวดเร็ว นอกจากนี้การมาเข้าค่ายยังทำให้น้อง ๆ กล้าแสดงออกและมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ที่สำคัญน้อง ๆ ยังแบ่งปันความรู้ที่ได้รับจากค่ายด้วยการชวนเพื่อนนอกค่ายมาร่วมกันทำงานโดยแบ่งหน้าที่ตามความถนัดเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมผลิต ทีมขาย ทีมการตลาด และทีมบัญชีอีกด้วย

มิตรภาพเกิดเมื่อร่วมแรงร่วมใจ

อีกทีมที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือสาว ๆ จากทีมโรงเรียนปัว ซึ่งเป็นอีกทีมที่สู้สุดพลัง โดยน้องๆ สามารถนำวัตถุดิบท้องถิ่นมายกระดับให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างได้มากขึ้น โดยผลิตภัณฑ์นั้นได้ผ่านกระบวนการทดลองและพัฒนาผลิตภัณฑ์กันเองก่อนที่จะผลิตออกเพื่อจัดจำหน่าย นอกจากนี้มิตรภาพก็เป็นส่วนสำคัญในการทำงาน ด้วยความที่น้อง ๆ ในทีมสนิทสนมและเข้ากันได้เป็นอย่างดีทำให้น้อง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและยังได้มิตรภาพดี ๆ และเก็บเกี่ยวทุกคุณค่าที่เกิดขึ้นก่อนจะไปสู่เป้าหมายกลับบ้านอีกด้วย

เมื่อโอกาสดี ๆ จากค่าย รวมกับความทุ่มเท ความพยายาม การคิดสร้างสรรค์ และความกล้าเผชิญกับปัญหาของน้องๆ สิ่งนี้จึงนำไปสู่การเดินไปถึงจุดหมายได้ แม้จะเจออุปสรรคมากเท่าไรก็ตาม

ไม่ว่าธุรกิจนั้นจะได้กำไรหรือขาดทุน แต่ประสบการณ์ในครั้งนี้ก็ทำให้น้องๆ ได้ประสบการณ์และความทรงจำดีๆ กลับไป ทั้งความสนุกสนานที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ หรือความกังวลที่ทำให้มีคราบน้ำตา แต่สุดท้ายน้องๆ ทุกคนก็จับมือเดินหน้าก้าวผ่านสิ่งเหล่านั้นมาได้

แม้การอยู่ในค่าย “เพาะพันธุ์ปัญญาแคมป์” จะเป็นเพียนช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ทำให้น้อง ๆ ได้รับประสบการณ์ที่สามารถนำกลับไปจะช่วยเตรียมพร้อมในการรับมือกับความท้าทายที่จะเข้ามาในชีวิตน้องๆ ได้ในอนาคต

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

กล้วยหอม

เด็กสาวผู้ชอบดื่มชาเขียว อ่านหนังสือ ฟังเพลง และท่องเที่ยวใต้แสงตะวัน