ถ้าพูดถึงแฟชั่นที่เกิดขึ้นในโลก เรียกว่ามาเร็วไปเร็วสุด ๆ นั่นเป็นเพราะกระแสและความนิยมของคนที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
อย่างช่วงก่อนหน้านี้หากทุกคนยังจำได้กับ ‘Falling star Challenge’🌟 เทรนด์ถ่ายรูปตัวเองล้มหน้าคว่ำบนกองของใช้ราคาแพงมากมาย ถือว่าเป็นเทรนด์ยอดฮิตมาก โดยเหล่าคนดังก็ได้ออกมาร่วมทำกันอย่างแพร่หลาย
แต่เมื่อเวลาผ่านไปจากรวยแบบตะโกน ก็กลายมาเป็นเทรนด์รวยเงียบ ๆ หรือ ‘Quiet Luxury’ ที่ดูเหมือนน้อยแต่ก็มาก และล่าสุดที่กำลังนิยมกันอยู่ตอนนี้คือประหยัดแบบตะโกน หรือ ‘Loud Budgeting’ นั่นเอง
จากความเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ทั้งหมดที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็นชัดว่าตอนนี้ผู้คนเริ่มให้ความสำคัญกับ ‘การใช้จ่าย’ ของตัวเองมากขึ้นแล้ว และวันนี้ AFTERKLASS ก็จะพาไปรู้จักกับ 2 เทรนด์ล่าสุด คือ ‘Loud Budgeting’ และ ‘Quiet Luxury’ ที่บอกได้เลยว่าน้อง ๆ สามารถนำไปปรับใช้กับไลฟ์สไตล์การออมเงินของตัวเองได้เลย
ทำความรู้จัก ‘Loud Budgeting’ และ ‘Quiet Luxury’
🔊Loud Budgeting
เป็นเทรนด์ที่ตะโกนให้โลกรู้ว่า “ฉันคือคนประหยัด” ใช้ชีวิตแบบมีความสุขได้โดยไม่ต้องใช้เงินเยอะ โดยเทรนด์นี้จะให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายที่สุด การหยิบจับของใช้ทุกอย่างต้องราคาไม่แพง ไม่ไหลตามเทรนด์มาก และจะใช้เงินไปกับสิ่งที่ขาดหรือจำเป็นในชีวิตเท่านั้น
ความเป็น Loud Budgeting ไม่เพียงแค่ทำให้เราได้ประหยัด แต่ยังทำให้เรารู้สึกดีที่สามารถคุมงบประมาณได้ แถมยังทำให้รู้สึกมั่นใจ เพราะสามารถเผยความเป็นตัวเองได้อย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าจะใช้ของราคาไม่สูงก็ตาม นอกจากนี้ยังทำให้แยกระหว่าง ‘ความจำเป็น’ และ ‘ความต้องการ’ ออกได้เป็นอย่างดี ซึ่งมันทำให้เราเลือกซื้อของแต่ละชนิดได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าเห็นแก่ของถูกมากเพียงอย่างเดียว เพราะเราต้องพิจารณาถึงคุณภาพ และการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
สำหรับน้อง ๆ ที่อยากลองใช้ชีวิตแบบ Loud Budgeting ดู สามารถนำแนวทางนี้มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น เลือกใช้เสื้อผ้ามือสอง เลือกเครื่องแต่งกายที่มีอยู่แล้วนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ใหม่ เลือกกินอาหารในร้านราคาไม่แรงแต่จัดว่าเด็ด หรือทำอาหารกินเอง แทนการออกไปกินนอกบ้าน ส่วนการซื้อของแบรนด์เนมที่มีราคาสูงเกินไป อาจเปลี่ยนมาเป็นออมเงินเพื่อทริปต่างประเทศในงบประมาณที่น่ารักราคาเอื้อมถึงก็ได้เหมือนกัน เพื่อซื้อประสบการณ์และอาจจะต่อยอดจากประสบการณ์นั้นต่อไปได้ด้วย
🔇Quiet Luxury
ดูเหมือนเป็นเทรนด์ที่ชวนให้คนซื้อของราคาแพง แต่ความจริงแล้วเป็นเทรนด์ที่ให้ความสำคัญกับ ‘คุณภาพ’ มากที่สุด ถึงแม้ว่าสินค้านั้นจะมีราคาสูง แต่หลายคนก็ไม่ได้ป่าวประกาศออกไปว่า “ฉันใช้ของแพง ฉันใช้แบรนด์หรู ฉันรวย”
“ถ้าไม่บอกให้รู้ว่าเป็นแบรนด์อะไร จะซื้อมาทำไม เพราะมันก็เหมือนของทั่วไป” ประโยคนี้คนตามเทรนด์ Quiet Luxury อาจจะได้ยินบ่อย แต่อย่างที่บอกว่าแก่นหลักของเทรนด์นี้ไม่ได้อยู่ที่การโอ้อวด แต่เป็นความต้องการใช้ของที่มีคุณภาพ ทนทาน และใช้ได้ยาวเท่านั้น ยิ่งถ้าได้รู้ว่าสินค้าชิ้นนั้นมีกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน แถมมีเรื่องราวน่าสนใจ ยิ่งดึงดูดให้คนตามเทรนด์นี้ชอบกว่าเดิม เพราะนอกจากจะรู้สึกมั่นใจในการใช้แล้ว ยังสบายใจที่ได้สนับสนุนแบรนด์เหล่านั้นให้เติบโตขึ้น
น้อง ๆ คนไหนที่อินกับเทรนด์ Quiet Luxury สามารถเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ที่ชอบได้นะ แต่อยากให้เพิ่มเรื่องของการวางแผนเก็บเงินเพื่อเป้าหมาย หรืออาจจะทำชาเลนจ์อื่น ควบคู่ไปด้วย เช่น ชาเลนจ์แบ่งเงินออมตามราคาของ หรือ ‘Price is Goal’ นับเป็นวิธีที่ช่วยให้น้อง ๆ ได้ฝึกความอดทนและรู้จักวางแผนการเงินซื้อของได้มากขึ้น แต่ต้องดูข้อจำกัดของตัวเองด้วยนะว่าไหวแค่ไหน เพื่อไม่ให้เดือดร้อนตัวเองจนเกินไป
แม้ว่า Loud Budgeting😮 และ Quiet Luxury🤫 จะเป็นเทรนด์ที่อยู่ตรงกันข้ามกัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องเลือกยึดติดอยู่กับวิธีใดวิธีหนึ่งในการดำเนินชีวิต เพราะเรื่องแบบนี้อาจขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความสะดวกในการใช้จ่ายของแต่ละคน
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการนำทุกเทรนด์มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์และช่วงเวลา รวมทั้งต้องรู้จักแบ่งเงินเก็บออมเพื่ออนาคตร่วมด้วย
#AFTERKLASS #LoudBudgeting #QuietLuxury #เก็บเงิน #เทรนด์
เขียนบทความโดย : พี่ ๆ ทีมงาน AFTERKLASS
