ฮันโหลววววว.. สวัสดีจ้าน้องๆ ทุกคน หลังจากที่ พี่ฟิวส์ ห่างหายมานาน ก็กลับมาเจอกันอีกครั้งใน “แคมป์รีวิว” ซึ่งในครั้งนี้เราขอเปลี่ยนแนวจากการพาน้องๆ ไปเที่ยวค่าย มาเที่ยวงานนี้กัน..!! OPEN WORLD “เปิดโลกสายอาชีพ” เผยหมดเปลือก ตอบทุกข้อสงสัยที่เด็กมัธยมอยากรู้จากคนทำงานจริง โดยจัดขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม และ 5 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ที่ซีอาเซียน ชั้น 10 อาคารไซเบอร์เวิร์ล โดยงานนี้ก็เป็นอีกงานดีๆ ที่ทาง a-chieve (อาชีฟ) จัดขึ้นเพื่อให้น้องๆ สามารถตอบตัวเองได้ดียิ่งขึ้นว่า “งานในสายอาชีพนี้” คืออาชีพที่เราอยากจะเป็นในอนาคต นั้นเราไปดูกันก่อนดีกว่า ว่างาน OPEN WORLD นี้ มีอะไรให้เราทำกันบ้าง
OPEN WORLD คืออะไร..?
OPEN WORLD คืองานสัมมนาแนะแนวอาชีพที่พี่ๆ a-chieve ได้รวบรวมคนทำงานจากสาขาต่างๆ มากมายในสายอาชีพหนึ่งมาให้ข้อมูลอาชีพ แชร์ประสบการณ์ทำงาน และตอบทุกข้อสงสัยของน้องๆ มัธยมเพื่อช่วยให้น้องๆ สามารถตอบตัวเองได้ดียิ่งขึ้นว่า “งานในสายอาชีพนี้” คืออาชีพที่เราอยากจะเป็นในอนาคต
โดย OPEN WOLRD จะแบ่งเป็น 4 รอบด้วยกัน ทั้ง ธุรกิจและการเงิน นิเทศและออกแบบ แพทย์และวิทย์สุขภาพ และ วิศวกร โดยในแต่ละรอบก็จะมีพี่ๆ จากสายอาชีพต่างๆ และรุ่นพี่ที่กำลังเรียนในคณะในสายอาชีพนั้นๆ มาให้คำแนะนำว่า ต้องเตรียมตัวยังไง อยากรู้ว่าอาชีพนี้ใช่เรามั้ย อาชีพนี้ต้องทำอะไร แต่ละสาขาของสายอาชีพนี้เลือกอันไหนดี จบมาแล้วทำอะไรได้บ้าง และอีกมากมายที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้น้องๆ โดย OPEN WORLD ในแต่ละรอบก็จะแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ๆ ดังนั้น
Workshop
กระบวนการค้นหาตัวเอง โดยพี่ๆ a-chieve ที่จะทำให้น้องๆ รู้จักวิธีในการค้นหาตัวเองและอาชีพที่อยากทำในอนาคต
Talk Session
พี่ต้นแบบอาชีพ ที่ทำงานในด้านนั้นจริงๆ จะมาบอกเล่าเรื่องราวของอาชีพในทุกด้านที่น้องอยากรู้ ผ่านมุมมองที่ได้เจอจากการทำงานจริงของพี่ต้นแบบเอง
Q&A
ช่วงเวลาที่ น้องๆ จะได้เป็นคนตั้งคำถามกับพี่ต้นแบบอาชีพด้วยตัวเอง ถามทุกปัญหาคาใจที่ไม่รู้จะไปถามใคร ถามไปก็ไม่มีใครตอบได้ แต่งานนี้เรามีคำตอบให้จากคำตอบจริง!
พี่ฟิวส์ก็เล่ามาประมาณนึงแล้วว่า OPEN WORLD คืออะไร แต่พี่ฟิวส์จะพาน้องๆ ไปรู้จักกับงาน OPEN WORLD ให้มากขึ้นกว่านี้ กับ พี่วิน ผู้จัดงาน OPEN WORLD และผู้ก่อตั้ง a-chieve นั้นอย่ารอช้ากัน ไปพบกับพี่เค้ากันเล้ย..
พี่วิน a-chieve
พี่ฟิวส์ – สวัสดีพี่วินครับผม แนะนำตัวให้น้องๆ ทางบ้านรู้จักกันหน่อยครับผม
พี่วิน – สวัสดีครับ พี่ชื่อวิน นรินทร์ จิตต์ปราณีชัย เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคม a-chieve “อาชีพที่ใช่ ชีวิตที่ชอบ” ที่ทำเกี่ยวกับการแนะแนวอาชีพและชีวิตให้แก่น้องๆ มัธยมครับ
พี่ฟิวส์ – a-chieve เกิดขึ้นมาได้ยังไง
พี่วิน – เราเริ่มต้นทำธุรกิจเพื่อสังคม a-chieve หลังจากที่เราเรียนจบ เพราะเราใช้เวลาเกือบ 1 ปีในการหาประเด็นทางสังคมที่เราต้องการจะแก้ไข ซึ่งเราก็มีไปหาหมู่บ้านขุนสมุทรจีน หมู่บ้านที่โดนน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งมากที่สุดในประเทศ มีไปหาคนไร้บ้าน เพื่อดูว่าเราสามารถช่วยอะไรเค้าได้บ้าง
ซึ่งขณะที่ตามหาประเด็นต่างๆ ก็มาพบปัญหาหนึ่งจากคนใกล้ตัว ซึ่งก็คือ น้องชายของเพื่อนในทีม กำลังขึ้น ม.4 แต่เลือกไม่ได้ว่า ตัวเองอยากจะเรียนสายการเรียนอะไร เพราะไม่รู้เลยว่า การเลือกนี้จะนำไปสู่อะไรบ้าง และหากเลือกผิดจะมีผลอย่างไร ดังนั้นพอเราเห็นปัญหาของน้องชายคนนี้ เราเลยมาวิเคราะห์และพบว่า มันไม่ใช่ปัญหาที่เล็กๆ เลย เพราะว่าเด็กส่วนใหญ่ของประเทศนี้ก็เลือกสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนไม่ได้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นปัญหานี้มันเกิดมานานแล้วตั้งแต่รุ่นพ่อ รุ่นพี่ รุ่นเรา และกำลังเกิดขึ้นกับรุ่นน้องของเราทั่วประเทศอีก ซึ่งเราคิดว่า ปัญหานี้ยังไม่เคยมีใครสนใจและไม่ลงมือแก้ไข ทั้งๆ ที่ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใหญ่มากๆ และมีผลกระทบต่อสังคมไทยมากๆ พวกเราจึงไม่ลังเลเลยที่จะหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวพวกเราเอง
สิ่งที่เราทำคือ การทำให้เด็กมัธยมเริ่มต้นตั้งเป้าหมายระยะยาว “อาชีพที่เค้าอยากจะเป็นในอนาคต” เพราะเราคิดว่า หากเด็กรู้อาชีพที่เค้าอยากจะเป็นในอนาคต เค้าจะรู้ด้วยตัวเองเค้าเองว่า จะเรียนอะไร ไปเพื่ออะไร ซึ่งการมีเป้าหมายจะช่วยให้น้องๆ เหล่านี้ เกิดความรู้สึกอยากพัฒนาตัวเอง อยากค้นหาตัวเอง และอยากที่จะตั้งใจเรียนเพื่อเป้าหมายด้วยตัวของเค้าเอง โดยเราจะมีกิจกรรมและสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ทั้งเวิร์คชอปกระบวนการค้นหาตัวเอง การไป Job Shadow คือ 2 สัปดาห์ที่เด็กมัธยมจะได้ไปเรียนรู้อาชีพกับคนทำงานจริงในที่ทำงานจริง คล้ายๆ การฝึกงานจริงช่วงปิดเทอม หรือจะเป็นงานสัมมนาที่เชิญคนทำงานจริงมาให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพ และเว็บไซด์ฐานข้อมูลอาชีพที่รวบรวมอาชีพไว้ให้ได้มากที่สุดเพื่อให้น้องๆ มัธยมทั่วประเทศสามารถมาใช้ได้
ภาพของสังคมสุดท้ายที่เราเห็น เราอยากเห็นเด็กในรุ่นนี้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความสุขจากการได้พบ และ ได้ทำในอาชีพที่พวกเค้ารัก ซึ่งเราเชื่อว่า หากคนๆ หนึ่งได้ทำในสิ่งที่เค้ารัก เค้าจะเห็นคุณค่าของตนเองและพร้อมแบ่งปันสิ่งดีๆ แก่สังคมด้วย
พี่ฟิวส์ – OPEN WORLD มีที่มาที่ไปยังไงถึงเกิดงานนี้ขึ้น
พี่วิน – OPEN WORLD เกิดขึ้นจากการที่เราเห็นว่า มีเด็กจำนวนมากที่มีความสนใจในคณะ หรือสายอาชีพหนึ่งแต่ยังไม่รู้ว่าในคณะหรือสายอาชีพนี้มันมีอาชีพอะไรบ้าง และแต่ละอาชีพทำงานอะไรบ้าง เราจึงชวนคนที่ทำงานนั้นในอาชีพจริงๆ มาให้ความรู้ เห็นความหลากหลาย และเข้าใจว่าแต่อาชีพมีวิธีการทำงานและลักษณะของคนที่ทำงานแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งไม่ได้รับแค่เด็กมัธยม เรารับผู้ปกครองด้วย เพื่อให้เค้ามาเข้าใจไปพร้อมๆ กันว่า สิ่งที่ลูกสนใจเป็นอย่างไร
พี่ฟิวส์ – พี่ต้นแบบอาชีพหลายๆ ท่านที่พี่วินและทีมงานหามา พี่มีวิธียังไงหรือครับ ในการเลือกมา
พี่วิน – เราจะต้องหาคนที่มีประสบการณ์ทำงานมาพอสมควร ที่สามารถถอดตัวข้อมูลอาชีพของตนเองมาสื่อสารและถ่ายทอดให้น้องๆ เข้าใจได้ โดยที่แต่ละคนที่เราเชิญมาเราจะต้องเข้าไปเพื่อสัมภาษณ์พี่ๆ แต่ละคนก่อนเพื่อรู้ว่า พี่แต่ละคนสามารถมาถ่ายทอดข้อมูลที่งานของเราต้องการให้แก่เด็กๆ ได้ครับ
พี่ฟิวส์ – ฟีดแบคงานนี้เป็นยังไงบ้างเอ่ย
พี่วิน – ฟีดแบคงานนี้ดีครับ เพราะว่าเด็กๆ แต่ละคนก็จะบอกว่าเค้าได้รับข้อมูลอาชีพที่สามารถนำไปตัดสินใจเลือกคณะที่เค้าอยากจะเรียนได้ดีขึ้น ส่วนผู้ปกครองก็มีเข้ามาพูดคุยกับเราว่าอยากจะให้มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ลูกของเขาว่า “จะเลือกเรียนอะไร” และอยากให้ลองไปจัดที่โรงเรียนด้วย เพราะโรงเรียนยังไม่สามารถให้ข้อมูลและวิธีคิดแบบนี้แก่เด็กๆ ได้ครับ
พี่ฟิวส์ – น้องๆ ได้รู้จักอาชีพมากขึ้นมั้ยเอ่ย เพราะอย่างหลายๆ อาชีพ ในสายนิเทศ ก็มีหลายอาชีพเกิดใหม่ที่น้องๆ ยังไม่รู้จักกัน
พี่วิน – ก็ต้องบอกก่อนว่า เราคิดว่าน้องๆ พอจะรู้จักอาชีพที่เราพามาบ้างแล้วแหละว่า เค้าทำอะไรยังไง แต่ยังไม่รู้แบบลึกๆ หรือเห็นภาพว่า ถ้าแต่ละวันจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับอาชีพนี้น้องๆ จะต้องเจอกับอะไรบ้าง ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ซึ่งพี่ๆ ที่เราเชิญมาหลายๆ ท่านก็สามารถให้ภาพเหล่านี้กับน้องๆ ได้อย่างดี เพราะจากการประเมินก็มีน้องๆ ส่วนใหญ่เลยที่ บอกเราว่า เข้าใจในอาชีพแต่ละอาชีพที่เรานำมาให้ความรู้เค้าเพิ่มขึ้นมาก
พี่ฟิวส์ – ฝากถึงน้องๆ ที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่
พี่วิน – อยากจะฝากไว้อย่างหนึ่งครับว่า น้องๆ ส่วนใหญ่มักจะตั้งคำถามว่า “อนาคตอยากจะเรียนอะไร” ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะสั้น แต่ยังไม่เคยตั้งคำถามให้ไกลกว่านั้น คือ “อนาคตหลังเรียนจบเราอยากที่จะทำอาชีพอะไร?”
ที่เราอยากฝากไว้และชวนให้ลองคิดใหม่ เพราะว่า “อาชีพ” คือ เป้าหมายของการเรียน เพราะเราต้องอยู่กับมันไปมากกว่าครึ่งชีวิตที่เหลือ ดังนั้นถ้าเรารู้ว่าเราอยากที่จะทำ “อาชีพ” อะไรตั้งแต่ตอนนี้ ทุกๆ วันที่เราเรียนอยู่ตอนนี้ เราจะรู้ว่า เราเรียนไปเพื่ออะไร
ซึ่งแน่นอนครับ การหาอาชีพที่ใช่ ไม่ได้หากกันง่ายๆ ถ้าน้องยังนั่งอยู่ในห้องเรียน ตลอด 7 วัน โดยไม่ออกไปค้นหาตัวเอง หาข้อมูลของสิ่งที่เราอยากจะทำ หากิจกรรมและไปมีประสบการณ์กับอาชีพที่เราอยากจะเป็นให้มากที่สุด มันก็ยากที่เราจะหาสิ่งนี้เจอ
ดังนั้น อยากชวนให้ใช้เวลาในการค้นหาตัวเองเยอะๆ โดยเราสามารถหาได้ทุกทางแหละครับ ทั้งการออกไปทำกิจกรรม เซิร์ชจากกูเกิล ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ไปพูดคุยกับคนทำงานที่เราสนใจ หรือถ้าคิดว่างานของ a-chieve จะเป็นประโยชน์ต่อน้องก็ลองมาสมัครดูได้ครับ
เชื่อเถอะครับ ถ้าน้องได้เจอสิ่งที่น้องอยากจะทำ ได้พบอาชีพและชีวิตที่น้องอยากจะให้มันเป็นเมื่อไร น้องจะกลายเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะเราจะตื่นขึ้นมาในทุกๆ วัน โดยเรารู้ว่า เราเรียน เราทำงาน เราใช้ชีวิตไปเพื่อ “ความสุข” ของเราครับ
ฟังจาก พี่วิน ผู้จัดงานกันไปแล้ว นั้นเราไปฟังพี่ต้นแบบกันบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่แคนดี้ พี่ต้นแบบทัตแพทย์ ใน OPEN WORLD รอบแพทย์นี่เอง นั้นไปเจอกับพี่แคนดี้กันเลยจ้า
พี่แคนดี้ พี่ต้นแบบอาชีพ
พี่ฟิวส์ – สวัสดีครับ แนะนำตัวให้น้องๆ ทางบ้านรู้จักหน่อยครับผม
พี่แคนดี้ – สวัสดีค่ะ พี่ชื่อแคนดี้ ทพญ. ปารีนารถ พุ่มประกอบศรี ตอนนี้ทำงานอยู่คลินิกเอกชน และคลินิกของตัวเอง ทั้งปารินาตเดนทัลคลินิก แฮปปี้สไมล์เดนทัลคลินิก เนเชอรัลสไมล์เดนทัลคลินิก และก็แอลดีซีค่ะ
พี่ฟิวส์ – พี่แคนดี้จบทันตแพทย์มาจากที่ไหนหรือครับ
พี่แคนดี้ – จบจากมหาวิทยาลัยมหิดลค่ะ
พี่ฟิวส์ – จากที่ฟังพี่แคนดี้เล่าบนเวที พี่แคนดี้ชอบเรียนศิลป์แล้วทำไมถึงมาเรียนทันตะอ่าครับผม
พี่แคนดี้ – พี่มีความประทับใจที่อยู่กับหมอฟันมาตั้งแต่เด็กๆ พี่ชอบทางด้านวิทยาศาสตร์ ภาษา และศิลปะ คือถ้าไปเรียนด้านศิลป์เลย ก็รู้สึกเสียดายความรู้ทางวิทย์ คือทันตแพทย์จะประกอบไปด้วย วิทยาศาสตร์ด้านต่างๆ ศิลปะ แล้วก็ภาษาด้วย มันก็เลยตรงกับทันตแพทย์พอดี
พี่ฟิวส์ – ทำไมศิลปะถึงมาเกี่ยวกับทันตแพทย์ได้อย่างไรอะครับ
พี่แคนดี้ – เพราะว่างานฝีมือค่อนข้างเยอะ อย่างเช่น ถ้าคนไข้ฟันแหว่งหรือฟันห่างมาหาเรา เราจะอุดฟันยังไงให้สวย ถ้าเราไม่มีฝีมือด้านศิลปะ แค่เลือกสีก็ยากแล้ว ต้องอุดให้สวย มีแสงเงา มีเฉด มีมุมที่พอดี เพราะฉะนั้น ฟันของคนไข้ก็จะดูออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่ใหญ่เกินไป ถ้าทำได้สวย คนไข้ก็แฮปปี้
พี่ฟิวส์ – พี่แคนดี้รู้สึกยังไงครับรู้สึกไงที่มาเจอน้องวันนี้
พี่แคนดี้ – น้องๆ น่ารักมาก น้องๆ ให้ความสนใจ และก็มีคำถามที่ไม่คิดว่าน้องๆ จะคิดคำถามแบบนี้มาได้ แปลว่าน้องๆ มีความสนใจจริงๆ มีการหาข้อมูลมาก่อน
พี่ฟิวส์ – ฝากถึงน้องๆ ที่อยากเป็นทันตแพทย์ หรือถึงสาขาอื่นๆ ในสายอาชีพแพทย์หน่อยครับผม
พี่แคนดี้ – อยากให้น้องๆ สู้ๆ ละก็ลองหาตัวเองให้เจอ เราชอบอะไร พี่อยากให้เราตั้งเป้าเลยว่า ถ้าเราอยากเป็นอะไร ก็พยายามตั้งเป้าไว้ และทำคะแนนให้ได้ เพื่อที่จะได้สอบได้ ถ้าสอบไม่ได้ก็อย่าเพิ่งท้อ ก็ลองหาทางเรียนต่อที่ต่างประเทศ และกลับมาสอบใบประกอบก็ได้ สู้ๆ ไม่มีอะไรยากเกินกว่าที่เราตั้งใจจะทำได้
พี่ฟิวส์ – ขอบคุณพี่แคนดี้มากๆ ครับผม
พี่แคนดี้ – ขอบคุณเช่นกันค่ะ
ฟังทั้งพี่วิน และพี่แคนดี้ไปแล้ว อยากไปงาน OPEN WORLD กันแล้วล่ะสิ อย่าเพิ่งๆ ยังมีอีกคนให้น้องๆ รอเจออยู่ กับ น้องมิ้งค์ ผู้ร่วมงาน OPEN WORLD ในรอบแพทย์มา ถ้าอย่างนั้นไปเจอน้องมิงค์กันเลยจ้า..
น้องมิ้งค์
พี่ฟิวส์ – สวัสดีจ้าน้องมิงค์ แนะนำตัวให้เพื่อนๆ ทางบ้านรู้จักหน่อย
น้องมิ้งค์ – น้องมิงค์ – สวัสดีค่ะ หนูชื่อมิงค์ วีราวัลย์ รักธรรมวาที ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นม.4 โรงเรียนโยธินบูรณะค่ะ
พี่ฟิวส์ – น้องมิ้งค์รู้จักงาน OPEN WORLD มาจากไหนเอ่ย
น้องมิ้งค์ – พอดีเพื่อนเจอในทวิตเตอร์ค่ะ ก็เลยชวนมิ้งค์มาด้วย
พี่ฟิวส์ – น้องมิ้งค์ฝันว่าอยากเป็นอะไรเอ่ย
น้องมิ้งค์ – ตอนนี้ยังไม่แน่ใจค่ะ แต่คงมุ่งไปที่หมอมากกว่า
พี่ฟิวส์ – น้องมิ้งค์มางานนี้ หวังว่าจะได้อะไรจากงานนี้บ้างเอ่ย
น้องมิ้งค์ – หวังว่าจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้นว่าชอบทางไหนกันแน่ เห็นมุมมองหลายๆ ด้าน ความจริงที่ไม่เคยมีใครมานำเสนอให้เรารู้ค่ะ
พี่ฟิวส์ – น้องมิงค์ชอบอะไรในงานนี้มากที่สุด..?
น้องมิ้งค์ – ชอบที่ได้รู้ข้อเท็จจริงจากพี่ต้นแบบที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ค่ะ เหมือนได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เข้ามาด้วย
พี่ฟิวส์ – สำหรับน้องมิ้งค์เอง งานนี้ช่วยให้เราเตรียมตัวในการสอบเข้าเรียนต่อยังไงบ้างเอ่ย
น้องมิ้งค์ – ช่วยอย่างมากเลยค่ะ ในการเลือกคณะที่เหมาะกับเรา แล้วก็จะได้เตรียมตัวตั้งแต่เนื่นๆ จะได้ไม่มีเสียใจภายหลัง
พี่ฟิวส์ – พอได้มางานนี้ เรามั่นใจมากขึ้นมั้ย ว่ายังไงเราก็มาสายนี้แน่ๆ
น้องมิ้งค์ – มั่นใจขึ้นมากๆ เลยค่ะ มั่นใจว่าเราชอบทางนี้แล้วอยากมีชีวิตประมาณนี้ค่ะ
พี่ฟิวส์ – สุดท้าย ให้น้องมิ้งค์ฝากถึงเพื่อนๆ ที่สนใจมางาน OPEN WORLD ในปีหน้าหน่อยจ้า
น้องมิ้งค์ – ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่ามาสายนี้แล้วใช่หรือเปล่า เหมาะกับเรามั้ย มางานนี้รับรองว่าได้รับประโยชน์มากมายแน่น่อนค่า
พี่ฟิวส์ – ขอบคุณน้องมิ้งค์มากๆ ครับผม :D
น้องมิ้งค์ – ขอบคุณเช่นกันค่ะ
ก่อนจากกัน
งาน OPEN WORLD หนึ่งในงานดีๆ ที่พี่ๆ ทีมงาน a-chieve ตั้งใจทำออกมา เพื่อให้น้องๆ ได้รู้ว่าอาชีพต่างๆ ที่เราฝัน ที่เราอยากเป็น นั้นใช่เรารึเปล่า ค่ายที่จัดโดยพี่ๆ มหาลัย ให้น้องๆ ได้สัมผัสกับสิ่งที่น้องต้องเจอในตอนเรียนมหาลัย แต่ OPEN WORLD ให้น้องๆ มาเจอกับพี่อาชีพต้นแบบหลากหลายสาขามากมาย ถ้าอย่างงั้น ก็เข้าทั้งสองอย่างเลย เย่!! น้องๆ ก็จะได้สัมผัสทั้งที่เรียนที่เราอยากเรียน และอาชีพที่เราอยากเป็น ออกมาเปิดโลกกว้างนอกห้องเรียนกัน จะได้มั่นใจในสิ่งที่เราอยากเป็น :D สำหรับน้องๆ คนไหนที่พลาดงานนี้ ก็อย่าเสียใจไป เมื่องาน OPEN WORLD ครั้งต่อไปเปิดเมื่อ ทาง แคมป์ฮับ จะรีบมาบอกน้องๆ เลยน้า
แต่ถ้ารองานนี้กันไม่ไหว ถ้าอย่างนั้นมางานนี้กันดีกว่า “a-chieve shadow โตแล้วไปไหน? 11” ชวนน้องๆ ม.3 – ม.6 เข้าร่วมปฏิบัติการค้นหาตัวเอง โดย 50 คนที่ผ่านคัดเลือกจะได้มาร่วมเวิร์คชอปค้นหาตนเอง และได้เข้าไปเรียนรู้อาชีพที่น้องอยากเป็น เสมือนฝึกงานจริงๆ กับพี่ๆ ที่ประกอบอาชีพนั้นจริงๆ ทั้งหมอ ทนาย สถาปนิก นักพัฒนาเกม อาจารย์มหาวิทยาลัย บรรณาธิการนิตยสาร และอีกมากมาย ยังไงก็ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติม >>ที่นี่<< น้า สำหรับ “แคมป์รีวิว” EP. หน้า ยังอยู่กับพี่ฟิวส์ต่อ ส่วนจะเป็นค่ายไหนกัน ต้องรอติดตามกันน้า สำหรับวันนี้ “พี่ฟิวส์” และ “แคมป์รีวิว” ต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีจ้า บ๊ายบาย.. ฟิ่ววววววววววว ~~~
เขียนโดย : พี่ฟิวส์ แคมป์ฮับ
รูปโดย : พี่เนม อารียา อ่อยอารีย์