สวัสดีจ้าน้องๆ นักล่าค่ายทุกคน วันนี้ พี่ฟิวส์ และ พี่จ๊อบ กลับมาพบกับน้องๆ อีกเช่นเคย สำหรับวันนี้พี่ๆ แคมป์ฮับไม่ได้เป็นคนพาน้องๆ ไปเที่ยวค่ายซะเอง แต่เป็น น้องไนซ์ น้องค่ายจากทางบ้านที่ส่งแคมป์รีวิวเข้ามา ซึ่งแคมป์รีวิวใน EP. นี้ เราไปกันที่ Junior Programmer Camp #12 ค่ายวิทยาการคอมพิวเตอร์สุดมันส์ ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 16-19 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ณ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (หลักสูตรนานาชาติ) คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี อ๊ะๆๆ นั้นก่อนเราจะไปพบกับรีวิวของน้องไนซ์ เรามีรู้จักกับสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์กันก่อน
วิทยาการคอมฯ เรียนอะไร เป็นยังไงบ้าง?
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
พี่จ๊อบขอยกตัวอย่างง่ายๆ ด้วย 3 สาขาที่เรียนด้านคอมพิวเตอร์เหมือนกันละกัน ได้แก่
วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ (CPE)
CPE จะเน้นไปทางการพัฒนาหรือสร้างฮาร์ดแวร์มากกว่าซอร์ตแวร์ และส่วนอื่นๆ จะมีการเรียนในส่วนของระบบไฟฟ้า การทำงานของวงจรต่างๆ
วิทยาการคอมพิวเตอร์ (CS)
CS จะเน้นไปทางการพัฒนาซอร์ฟแวร์ เจาะลึกไปในส่วนนี้มากกว่าภาควิชาอื่นๆ อย่างเช่น สร้างระบบปฎิบัติการ (OS) วิเคราะข้อมูล ออกแบบระบบ ที่เน้นไปด้านของวิทยาศาสตร์มากขึ้น แต่ยังมีการเรียนในส่วนของระบบไฟฟ้าหรือการทำงานของคอมพิวเตอร์อยู่เช่นกันคล้ายกับ CPE
เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)
IT นั้นจะเน้นการใช้งานโปรแกรม รวมถึงฮาร์ดแวร์ต่างๆ และระบบเน็ตเวิร์ก ที่ได้จากการพัฒนาโดย CS และ CPE ให้เกิดประโยชน์ และประสิทธิภาพสูงสุด และยังมีบทบาทในการพัฒนาหรือสร้างซอร์ฟแวร์และฮาร์ดแวร์เช่นกัน
น้องๆ เรียนอะไรกันอยู่เอ่ย..??
สุดท้ายแล้วทุกภาควิชาจะเน้นการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน สำหรับวิชาที่เรียนถึงแม้จะมีวิชาหรือการเรียนการสอนในส่วนที่คล้ายกัน แต่ก็ไม่ลึกเทียมเท่าภาควิชาที่เน้นโดยตรง เช่น
- CS อาจจะมีการเรียนในส่วนของไฟฟ้าเหมือนกับ CPE แต่ก็ไม่ลึกหรือมีรายละเอียดเท่าอยู่ดี
- CPE และ IT อาจจะมีวิชาที่สอนในส่วนของอัลกรอลิทึมหรือรูปแบบข้อมูล แต่ก็ไม่ลึกเท่า CS อยู่ดี
- CPE และ CS อาจจะมีวิชาที่สอนการใช้งานโปรแกรมหรือออกแบบในส่วนของโปรแกรม หรือออกแบบเน็ตเวิร์ก ก็ไม่ลึกเท่า IT ได้
ดังนั้นในส่วนของวิชาการเรียนการสอนของแต่ละภาควิชา จึงอาจไม่สามารถแทนกันได้ แต่สุดท้ายแล้วสำหรับสายคอมพิวเตอร์ มันสำคัญที่สุดในเรื่องของการศึกษาค้นคว้าเอาเองมากกว่า ถ้าน้องศึกษาในด้านที่ชอบซึ่งอยู่ในอีกสาขามากๆ น้องก็สามารถเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ ได้เช่นกัน ดังนั้น…
วิชาที่เรียนในห้องอาจไม่สำคัญเท่าคุณหามันด้วยตัวน้องเอง แต่ก็ต้องเลือกในสาขาที่น้องชอบวิชาที่อยากจะเน้นมากกว่า
ใช่เลย!!
ไปๆ มาๆ ไม่ได้รู้จักแค่วิทยาการคอมนะเนี่ย แต่ได้ไปรู้จักถึงสาขาเพื่อนบ้านอย่างไอทีและวิศวะคอมกันอีกด้วย อ๊ะๆๆ รู้จักกับวิทยาการคอมกันไปพอสมควรแล้ว นั้นเราไปพบกับแคมป์รีวิวจากน้องไนซ์กันได้เลยจ้า
รีวิวค่ายสุดมันส์ จากมุมมองของน้องไนซ์
มาเช็คชื่อกันหน่อย
สวัสดีค่า ไม่ได้จับอะไรเขียนยาวๆ มานานแล้ว วันนี้ว่างๆ เลยมาเขียนรีวิวส่งแคมป์ฮับดีกว่า ซึ่งค่ายที่จะพูดถึงก็คือ ค่าย Junior Programmer Camp หรือ JPC นั่นเองค่ะ ซึ่งครั้งล่าสุดก็ครั้งที่ 12 แล้ววว
เนื่องจากช่วงจัดค่ายเป็นช่วงสอบกลางภาคของพวกเราวัยมัธยมค่ะ (16 – 19 กรกฏาคม) เลยทำให้ลังเลอยู่นานว่าจะไปมั้ย แต่สุดท้ายก็ได้ไป เป็นฟีลที่ดีใจมากๆ เลยค่ะ 555 กลับเข้าเรื่องดีกว่า .. เมื่อถึงวันเข้าค่าย เราต้องตื่นเช้ามากๆ เพื่อมายังที่นัดหมายกับพี่ๆ เขาไว้ค่ะ ซึ่งก็คือที่อนุสาวรีย์ฯ พอมาถึงพี่ๆ ก็พาไปที่มหาลัย ซึ่งพี่ๆ ที่รออยู่แล้วก็ให้การต้อนรับดีมาก ถึงขั้นมาช่วยขนกระเป๋าตั้งแต่ลงจากแท็กซี่เลย
ถุงนี้นี่มีอะไรกันน้า
หลังจากที่เราลงทะเบียนอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ ถุงมาใบนึง ซึ่งมันคือไฮไลต์หนึ่งในค่ายนี้ก็ว่าได้เลย เพราะในถุงนี้จะไม่มีป้ายชื่อของเรา แต่เป็นป้ายชื่อของเพื่อนแทน ! โดยที่เราต้องคืนให้กับเจ้าของตอนกิจกรรมละลายพฤติกรรมในช่วงบ่ายวันแรกนั่นเอง ซึ่งวันแรกทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่เยอะแยะเลย ถือว่าเป็นวันสบายๆ มีกิจกรรมให้เล่น มีสันทนาการ การแนะนำเพื่อนในกลุ่ม รวมถึงมีการบรรยายพิเศษจาก อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ด้วยค่ะ :D
อาจารย์เจษฎ์จากคณะวิทยาฯ จุฬาฯ ก็มาร่วมบรรยายในค่ายนี้ด้วยนะ !!
พอวันที่ 2 และ 3 ก็จะเป็นวันที่มีการแนะแนวเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม Python ซึ่งเราไม่มีพื้นฐานด้านการเขียนโค้ดอะไรพวกนี้เลย แต่เพื่อนๆ พี่ๆ ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี โดยวันที่ 2 ช่วงเช้าจะเป็นภาคทฤษฎี และช่วงบ่ายจะเป็นภาคปฏิบัติค่ะ ซึ่งทำให้เข้าใจและสนใจขึ้นมาเยอะเลย (ถึงขนาดที่พี่ๆ สามารถสอนน้องเขียน Python ให้กลายเป็น slither.io ได้ #อะหยอกก) พอวันที่ 3 จะมี Challenge ให้แต่ละกลุ่มแก้โดยจะให้เลือกว่าจะเอาเชาว์หรือจะวาดรูป เป็นอะไรที่ท้าทายมาก เพราะฉะนั้นเรื่องสาระความรู้ ค่ายนี้จัดเต็มจริงๆ ค่ะ ได้อะไรที่ไม่เคยรู้กลับมาเพียบเลยแหละ !
พี่เค้าจัดเต็มจริงๆ !!
แต่ถึงตารางกิจกรรมจะอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาสาระ แต่ก็มีกิจกรรมสันทนาการมาคั่นให้ตลอด ทั้ง Mayer’s fashion Week ที่ทุกคนจะต้องช่วยกันออกแบบชุดมาเพื่อให้หัวหน้าทีมใส่เดินประชันกัน การเต้นสัน (กลองที่นี่เป็นไฮไลต์เด็ดมากกก ตีมันมากกก) การเข้าฐาน หรือจะเป็น Night Hunter ที่จะต้องไปขโมยไก่คุณปู่ (พี่ๆ ถึงขนาดมีคลิปวีดีโอเป็นทีเซอร์ในการเล่นเกมนี้เลยทีเดียวค่ะ) รวมไปถึงการเล่น เกมเศรษฐี ซึ่งเป็นธีมหลักของค่ายครั้งนี้ โดยที่เราจะต้องเป็นหมาก และเล่นเกมเพื่อซื้อเมืองเอง เป็นอะไรที่สนุกและหาจากที่อื่นไม่ได้จริงๆ
รับมงไปค่ะลูก !!
อา นึง ส่อง ซั่ม !!
พูดเรื่องกิจกรรมเสร็จแล้ว เราก็อยากจะรีวิวถึงห้องน้ำห้องนอนและอาหารการกินด้วย สำหรับเรา ครั้งนี้มันดีมากๆ เลย สำหรับห้องนอนจะนอนในหอค่ะ แยกชายหญิง โดยห้องหนึ่งๆ จะมีประมาณแปดคน คละกลุ่มกันไป เป็นห้องแอร์ มีเตียงสองชั้นด้วย (เราจองชั้น 2 อย่างรวดเร็วเพราะไม่เคยนอนเตียงแบบนี้เลย ฮ่า ><) ส่วนห้องน้ำ เป็นห้องน้ำในหอค่ะ แยกห้องเดี่ยวเรียบร้อย ถือว่าสะดวกสบายมากๆ ส่วนเรื่องอาหารการกิน อยากจะบอกทุกคนว่าอยู่บ้านไม่เคยได้เลือกกินแบบคุณหนูอย่างนี้มาก่อน ในแต่ละวันพี่ๆ จะมีเมนูมาให้ประมาณ 3 – 5 เมนูค่ะ อยากกินอะไรก็บอกพี่กลุ่ม พี่กลุ่มจะไปหยิบมาให้ เติมได้ไม่อั้น สมชื่อโค้ดค่ายว่า JPC รวยเฟร่อจริงๆ (กลับบ้านมานั่งกินมาม่าเหมือนเดิม ..)
หอใน อยู่สบ๊ายสบาย..
สำหรับค่ายนี้จัดขึ้นเป็นเวลา 4 วัน สำหรับเรามันเร็วมากๆ จนใจหายเลยล่ะ พูดถึง 4 วันแล้ว ก็ต้องพูดถึง พิธีบายศรี เน้อะ ก็เป็นอย่างที่รู้ๆ กันค่ะ สันทนาการกันจนเหนื่อย นัดนั่งเป็นแถว หลับตา เดินจับมือกัน แล้วก็ไปนั่งอีกที่ ตามสเต็ปเน้อะ แต่ไฮไลต์ของงานนี้ คือพี่ๆ เอารูปพวกเรามาร้อยเรียงติดกับหลอดไฟแล้วทำเป็นโดม ซึ่งพอเปิดตามาแล้วเห็นมันสวยมากๆ เลยอะ พี่ๆ ให้จิ๊กรูปกันไปตามใจชอบด้วย เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นและมีค่าสำหรับเรามาก ถือเป็นการจบความทรงจำในการเข้าค่ายครั้งสุดท้ายของเราได้อย่างดีเยี่ยมเลย
มานั่งรอพี่ๆ กัน
เห้ย..!! มุมนี้คือสวยมากกกก.. (ก.ล้านๆ ตัว)
ก่อนจากกันเราก็ทำพิธีปิดกันตามระเบียบค่ะ มีการทำ Post-test ด้วย หลังจากที่ทำ Pre-test ในวันแรกไป นอกจากนี้ พี่ๆ ยังแจกหนังสือและของฝากจากผู้สนับสนุนให้อีกคนละ 1 ถุงค่ะ แถมได้กระเป๋ามาอีกใบด้วย รวมๆ มูลค่าแล้วน่าจะมากกว่าค่าค่ายอีก ถือว่าคุ้ม ได้กำไรมากกว่าที่คาดไว้อีก นอกจากนี้ก็มีของแจกของแถมจากการตอบรางวัลของแต่ละคนๆ ไป (เราได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านเยอะแยะเลย)
หลังจากเสร็จพิธี ก็ถ่ายรูปก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ ตอนกลับบ้านเราโชคดีที่มีเพื่อนค่ายบ้านอยู่ใกล้ เลยขอติดรถเขามาลงหน้าซอยเฉยเลย ฮ่าๆ ก็ถือว่าจบกันไปสำหรับค่าย JPC 12 ค่ะ
พร็อปใหญ่ได้ใจ
แชะๆ
ก่อนจากกันเราอยากฝากถึงพี่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับค่ายนี้ทั้งหมด “ขอบคุณพี่ๆ จริงๆ นะคะ ทั้งพี่ๆ ที่คอยดูแลอยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ขอบคุณที่ทุ่มเทให้ มันเป็นความทรงจำที่ดีความทรงจำหนึ่ง รักพวกพี่นะคะ ~”
บรรยากาศสุดมันส์..!!
ก่อนจากกัน
บ๊ายบาย
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย กับ แคมป์รีวิว Junior Programmer Camp #12 ที่เล่าโดย น้องไนซ์ เล่าสนุกมากเลยทีเดียว สำหรับน้องๆ คนไหนที่สนใจค่าย JPC นี้ กลางปีหน้ามาแน่นอน !! เมื่อค่ายเปิดรับสมัครเมื่อไหร่ แคมป์ฮับจะรีบมารายงานให้น้องๆ กันอย่างท่วงทีเลยน้าาา..
และสำหรับน้องๆ คนไหนที่ไปค่ายมาแล้วมีความประทับใจที่อยากมาเล่าสู่กันฟังแบบน้องไนซ์ ก็สามารถส่งบทความรีวิวค่ายและความประทับใจจากการไปค่าย มาให้พี่ๆ ทีมงานได้ที่ [email protected] หรือพูดคุยกันมาทางแมสเสจของ แฟนเพจแคมป์ฮับ ก็ได้น้าาา.. ผลงานใครเข้าตาพี่ๆ จะได้นำมาขึ้นบนเว็บไซต์แบบน้องไนซ์กันด้วย!! สำหรับวันนี้ พี่ฟิวส์ พี่จ๊อบ และ น้องไนซ์ ต้องไปแล้ว แล้วเจอใหม่ บ้ายบายจ้า ฟิ่ววววว ~~~~~
เขียนโดย : พี่ฟิวส์ พี่จ๊อบ แคมป์ฮับ และน้องไนซ์ ธันยธีรินทร์ สีเงิน
ขอขอบคุณรูปภาพ : SIT KMUTT Facebook fanpage และพี่ๆ ตากล้อง JPC ทุกคน
