กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
บทความ

แอบส่อง! Power Green Camp #13 ค่ายที่พาเยาวชนไปตะลุยเรียนรู้ในห้องเรียนธรรมชาติ

บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)

สวัสดีฮะน้องๆ ชาวค่าย พบกับบทความพิเศษจาก พี่ช้าง ที่จะพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกับค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม หรือ Power Green Camp 13 ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล

พร้อมกับพูดคุยกับพี่สันทนาการในค่ายฯ และเยาวชนคนรุ่นใหม่หัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้สร้างสรรค์โครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม “Tannin-Banana Peel” ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากกิจกรรมการประกวดโครงงานฯ ภายในค่ายฯ โดยมีแนวคิดนำเปลือกกล้วยที่เหลือจากการบริโภคมาเพิ่มมูลค่าและพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่

ถ้าพร้อมแล้วก็เลื่อนไปอ่านกันได้เลยจ้า :)

ทำความรู้จักค่ายเพาเวอร์กรีน

Power Green Camp เป็นค่ายที่ถูกจัดขึ้นสำหรับน้องๆ ม.4 – 5 สายวิทย์ที่สนใจในทรัพยากรธรรมชาติและการนำวิทยาศาสตร์มาแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม: เรียนรู้สู่การปฏิบัติ”

ซึ่งมุ่งเน้นให้เยาวชนได้เรียนรู้การพัฒนากระบวนการคิด ได้ฝึกฝนทักษะผ่านการเรียนรู้ภาคทฤษฎี และปฏิบัติในห้อง Lab ทางวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนร่วมทัศนศึกษาในพื้นที่จริง ตลอดระยะเวลา 8 วันเต็ม

นอกจากนี้ เยาวชนชาวค่ายฯ ยังมีโอกาสได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำ ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม และนำองค์ความรู้ที่ได้รับหลอมรวมกับแนวคิดของตนเองถ่ายทอดสู่สาธารณชน ผ่านการ Present โครงงานกลุ่มฯ ของน้องๆ เพื่อชิงทุนการศึกษารวมกว่า 30,000 บาท

ซึ่งธีมของค่ายฯ ปีที่ 13 นี้ก็คือ การบริหารจัดการความหลากหลายทางชีวภาพกับการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยมีกิจกรรมไฮไลท์ คือ การลงพื้นที่ชุมชนและพูดคุยกับชาวบ้าน เพื่อเรียนรู้วิถีของชุมชนต้นแบบในจังหวัดนครปฐมและกาญจนบุรี ที่นำความหลากหลายทางชีวภาพมาใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจได้อย่างสมดุลไปพร้อมกับการอนุรักษ์ ดังนี้

  • เรียนรู้การใช้ทรัพยากรทางชีวภาพในเชิงพาณิชย์กับเจ้าของแนวคิด “สามพรานโมเดล” โมเดลเพื่อพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน
  • เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์แบบเจาะลึก กับชาวสวน ณ ตลาดสุขใจ และโรงเรียนชาวสวน อ.สามพราน จ.นครปฐม
  • เรียนรู้การแปรรูปไม้ไผ่เพื่อทำผลิตภัณฑ์ กับวิสาหกิจชุมชนป่าชุมชนตำบลลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

นอกจากนี้น้องๆ ยังได้ลงมือปฏิบัติในเวิร์คชอปสุดพิเศษ จากการเรียนรู้วิทยาศาสตร์รูปแบบใหม่อย่างสร้างสรรค์ที่ผสมผสานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเข้ากับทักษะด้านศิลปะ คือ

  • การบันทึกภาพความหลากหลายทางชีวภาพของพืชและสัตว์ในเชิงวิทยาศาสตร์เพื่อการสื่อสาร โดย คุณโดม ประทุมทอง นักธรรมชาติวิทยา นักเขียนและช่างภาพด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
  • หลักการวาดภาพเชิงวิทยาศาสตร์ (Scientific Illustration) และ การบันทึกธรรมชาติ (Nature Drawing) โดย คุณอุเทน ภุมรินทร์ นักสื่อสารธรรมชาติ

อ่านบทความการบันทึกภาพความหลากหลายทางชีวภาพ

สัมภาษณ์น้องค่ายฯ ตัวแทนกลุ่มผู้ชนะการประกวดโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม

ส่วนตัวพี่ช้างได้มีโอกาสไปฟังการนำเสนอผลงานหลากหลายไอเดียจากน้องๆ ค่าย Power Green ในนิทรรศการโครงงานกลุ่มวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่ม.มหิดลมาด้วย

ในโอกาสนี้ก็เลยขอติดต่อสัมภาษณ์น้องแพรวและน้องมด ตัวแทนกลุ่มสีม่วงผู้ชนะ กับโครงการ Tannin-Banana Peel ที่จะนำเปลือกกล้วยที่เหลือจากการบริโภคมาเพิ่มมูลค่าและพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ มาฝากชาว CampHUB กัน

สวัสดีฮะ แนะนำตัวกันหน่อย

น้องแพรว – สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวนภัสวรรณ เหมาะตัว ชื่อเล่นแพรว กำลังศึกษาอยู่ชั้นม.5 โรงเรียนโคกยางวิทยาค่ะ

น้องมด – สวัสดีค่าาาา ชื่อนางสาววรรณ์วิสา ผู้ช่วย ชื่อเล่นมด อยู่โรงเรียนเคียนซาพิทยาคม ม.4 ค่ะ

ทำไมถึงเลือกเข้าค่ายนี้ครับ

น้องแพรว – โดยส่วนตัวแล้วชอบอะไรเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ต้นไม้ ป่าไม้สีเขียว เพราะว่าโตมากับธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ และยังอยากเปิดประสบการณ์ดีๆ จากการศึกษานอกสถานที่ รับรู้โลกทัศน์ใหม่ๆ เพื่อที่จะได้เปิดมุมมองของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติให้กว้างไกลมากยิ่งขึ้น และอยากเข้าเรียนที่มหาลัยมหิดลมากๆ เลยค่ะ

น้องมด – เคยมีรุ่นพี่ได้เข้าค่ายนี้ค่ะ และได้มาแบ่งปันประสบการณ์และความประทับใจจากค่ายฯ ให้ฟัง เลยสนใจมาก ต้องมาให้ได้ แล้วที่สำคัญเป็นคนชอบเที่ยว ชอบธรรมชาติ พอได้มาค่ายก็ยิ่งหลงรักม.มหิดล ค่ายนี้ทำให้หนูอยากเรียนคณะสิ่งแวดล้อมค่ะ

ตอนรู้ตัวว่าเราติดค่ายนี้รู้สึกยังไงบ้าง เตรียมตัวอะไรกันยังไงเอ่ย

น้องแพรว – รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ เลยค่ะ ไม่คิดว่าจะได้รับโอกาสนี้ พอรู้ว่าตัวเองติดค่ายนี้ปุ๊บ เตรียมเสื้อผ้าไว้ก่อนเป็นเดือนๆ เลย แล้วก็ไปโหลดแบบฟอร์มมาดู ยังไม่พอค่ะ ด้วยความดีใจเลยนำข่าวนี้ไปบอกเพื่อนๆ อีก เพื่อนๆ ต่างก็ดีใจกับเราด้วย

น้องมด – ตื่นเต้นมาก กลับมาถึงบ้าน เห็นแชทครูทักมาบอกว่า “เธอได้ไปต่อ” หัวใจแทบวาย พอดึงสติกลับมาได้ก็ค่อยๆ เตรียมตัว โดยดูข้อมูลจากเพจค่ายฯ ค่ะ

ชอบกิจกรรมอะไรในค่ายฯ มากที่สุด

น้องแพรว – ชอบกิจกรรมในค่ายฯ แทบทุกกิจกรรมเลย แต่ที่ชอบที่สุดคือการไปทัศนศึกษาในที่ต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรธรรมชาติ การศึกษาความรู้จากการลงสัมภาษณ์ชุมชนโดยตรง การได้ลองสัมผัสกับสถานที่จริงๆ การศึกษาระบบนิเวศจากการเดินป่า ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นค่ะ

น้องมด – ชอบกิจกรรมทุกอย่างในค่ายฯ นะคะ ทุกอย่างทั้งสนุก ทั้งมีความรู้ แต่สำหรับหนู หนูชอบที่ได้ออกไปหาความรู้นอกสถานที่ค่ะ หนูชอบที่ตลาดสุขใจ ได้เรียนรู้กับเกษตรกรตัวจริง ได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า (ได้กินอาหารออร์แกนิคด้วยค่ะ อร่อยและปลอดภัย)

โครงงาน “Tannin-Banana Peel”

เนื่องจากชุมชนท้องถิ่นนิยมบริโภคกล้วยเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีเปลือกกล้วยที่เหลือจากการบริโภค ซึ่งมักจะถูกนำไปแปรรูปใช้เป็นอาหารสัตว์ น้ำหมักชีวภาพ หรือปล่อยทิ้งไว้จนเน่าเปื่อย

น้องๆ กลุ่มสีม่วงจึงมีไอเดียที่จะนำสาร Tannin ในเปลือกกล้วยมาสกัดเป็นผง เพื่อเพิ่มมูลค่าและพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ใช้ในการบำบัดน้ำเสีย อุตสาหกรรมฟอกย้อม และป้องกันศัตรูพืช เป็นต้น

ที่มาที่ไปของโครงงานนี้

น้องแพรว – มาจากแนวคิดการนำเปลือกกล้วยที่เหลือทิ้งมาเพิ่มมูลค่าค่ะ แต่ก็พากันคิดอยู่นานกว่าจะได้ เพราะว่ากลัวจะไม่ตรงกับประเด็นหัวข้อที่กำหนด จากนั้นเพื่อนๆ ในกลุ่มก็ตกลงกันว่าจะทำโครงงานนี้ค่ะ

พวกเราเล็งเห็นว่าคนไทยบริโภคกล้วยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชุมชนที่ปลูกกล้วยเป็นจำนวนมาก สิ่งที่เหลือจากการบริโภคก็คือเปลือก ส่วนใหญ่แล้วคนในชุมชุมนิยมนำไปทำน้ำหมักชีวภาพและอาหารสัตว์ แต่พอศึกษาคุณสมบัติของเปลือกกล้วยก็พบว่ามีสารชนิดหนึ่งอยู่ที่สามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างมากกว่าการนำไปทำปุ๋ยหรืออาหารสัตว์อีก

การทำโครงงานของพวกเราจะเน้นไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่มจากที่สิ่งที่มีอยู่แล้ว ภายใต้ความสร้างสรรค์เพื่อให้เกิดความสมดุลของทรัพยากร และเน้นไปที่การพัฒนาคนในชุมชนค่ะ

น้องมด – โครงงานที่เกิดขึ้นมันเกิดจากการที่เราเข้าใจปัญหาของชาวบ้านจริงๆ ค่ะ

พวกเราใช้ใจในการรับฟังปัญหา พวกเรามีความคิดที่จะแก้ไขและพัฒนาในส่วนนั้นจริงๆ ไม่ได้คิดแค่จะทำโครงงานเพื่อส่งแข่งขัน เราอยากนำความรู้ที่เราได้รับจากค่ายฯ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุดค่ะ ??

ขอแสดงความยินดีที่ได้รางวัลชนะเลิศด้วยนะครับ ว่าแต่มีเหตุการณ์ประทับใจอะไรที่อยากเล่าให้ฟังมั้ยเอ่ย

น้องแพรว – รอยยิ้มแห่งมิตรภาพภาพค่ะ ถึงจะมาจากคนละจังหวัด ถึงจะเพิ่งรู้จักกัน แต่ก็เหมือนรู้จักกันมาเป็นปี

น้องมด – เพื่อนๆ ค่ะ ส่วนนี้เป็นส่วนนี้หนูประทับใจมาก ก่อนไปค่ายฯ หนูไม่เคยคิดเลยว่าหนูจะมีเพื่อน เพราะต่างคนต่างก็มาจากต่างที่กันหมด แต่เพราะหลายกิจกรรมของค่ายนี้ ทำให้พวกเราได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น พวกเราได้เปิดใจคุยกัน ทำให้พวกเราอยู่ด้วยกันได้ และรักกันจนถึงทุกวันนี้ค่ะ

ฝากถึงเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจในค่าย Power Green Camp

คิดว่าค่ายนี้ให้อะไรกับเราบ้าง

น้องแพรว – สิ่งที่ได้รับจากการเข้าค่ายครั้งนี้ คือ แนวคิดการบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างสร้างสรรค์ การอยู่ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้โดยไม่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน รู้จักการสร้างสมดุลให้ทั้งมนุษย์และทรัพยากรต่างๆ และอีกมากมายหลายอย่าง

ค่ายนี้ไม่เพียงแต่ให้ความรู้เพียงอย่างเดียวค่ะ ยังให้ประสบการณ์กับเราด้วย ทั้งมิตรภาพจากเพื่อนๆ ทั่วประเทศแต่มีหัวใจเดียวกัน มีความรัก ความสามัคคีกลมเกลียว ความอบอุ่น ความอ่อนโยน และความใจดี ของพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทุกคนในค่ายฯ ที่มีให้กัน ร่วมสร้างความทรงจำที่มีค่าร่วมกันค่ะ

น้องมด – ให้ความรู้เยอะมาก ให้ประสบการณ์ที่หาจากที่อื่นไม่ได้ ให้มิตรภาพ ปลูกจิตสำนึกให้เรารักธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ทำให้เราเห็นว่า ถึงเราจะเป็นนักเรียนคนนึง เราก็สามารถที่จะเป็นกำลังที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศ ให้เคลื่อนไปข้างหน้าได้

พอจบค่ายฯ ไปแล้ว เราคิดว่า จะเลือกเรียนต่อในเส้นทางนี้มั้ย

น้องแพรว – อยากเรียนต่อสายนี้ค่ะ เพราะจากการเข้าค่ายฯ ทำให้เราเข้าใจอะไรๆ ในหลายๆ อย่าง

ทราบถึงความคงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติ การอนุรักษ์ผืนป่าและระบบนิเวศ การดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในหลายๆ สายพันธุ์ ค่ายนี้ทำให้เราเข้าใจอย่างแท้จริงว่า ทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่บนโลกนี้ล้วนมีการพึ่งพาซึ่งกันและกัน เช่น มนุษย์อนุรักษ์ป่าไม้และระบบนิเวศ ป่าไม้และระบบนิเวศก็ให้คุณประโยชน์กับมนุษย์ในหลายๆ ด้านเช่นกัน สองสิ่งนี้จะคงอยู่คู่กัน

น้องมด – ค่ายนี้ทำให้รู้ว่าเราชอบอะไร เราชอบและรักในสิ่งนี้มากๆ คณะสิ่งแวดล้อมจะเป็นอีกตัวเลือกสำคัญในการศึกษาต่อของหนูค่ะ

สุดท้ายแล้ว ขอ 3 คำกับค่ายนี้ครับ

น้องแพรว – ต้อง ลอง ไป

น้องมด – อยาก เข้า อีก

พูดคุยกับพี่สันทนาการในค่ายฯ

สวัสดีฮะ แนะนำตัวกันหน่อย

พี่เป๊ะ – สวัสดีค่า ชื่อเป๊ะ ผกามาศ องค์ศิริมงคล เป็นพี่สันทนาการค่า

สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจเลือกเรียนที่คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์

พี่เป๊ะ – จริงๆ ต้องบอกก่อนว่า ตอนนั้นค่อนข้างลังเลระหว่างคณะสิ่งแวดล้อมฯ กับสาขาวิชาด้านอาหารและโภชนาการ แต่ก็เลือกคณะสิ่งแวดล้อมฯ เพราะไปหาข้อมูลการเรียนเเล้วรู้สึกว่า เออ ที่นี่มันใช่ น่าสนใจ แล้วอีกอย่างชอบธรรมชาติด้วย ก็เลยเรียนเลย 5555

ถามว่าเรียนที่ม.มหิดลดีกว่าที่อื่นยังไง อันนี้เราก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องการเรียนของมหาวิทยาลัยอื่น แต่จากที่ไปฝึกงานมาในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ได้เจอเพื่อนที่เรียนคณะสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน แต่คนละมหาวิทยาลัย ก็บอกได้เลยว่า ม.มหิดลสอนเราครอบคลุมมาก ปูพื้นฐานเราแน่น ครบเกือบทุกด้าน สามารถใช้ในการทำงานได้เลย ถ้าเทียบกับที่อื่น

คณะนี้เรียนอะไรกันบ้าง

พี่เป๊ะ – คณะนี้จะเป็นเหมือนการเอาวิทยาศาสตร์มาประยุกต์เข้ากับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยี

คือเราจะเรียนเรื่องสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ทั้งดิน น้ำ อากาศ แร่ธาตุ พลังงาน รวมไปถึงการจัดการทรัพยากรและเศรษฐศาสตร์ เพื่อให้ทุกอย่างอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล เหมาะกับน้องที่มีใจรักเลย แล้วก็ต้องบอกเลยว่าคณะนี้ช่วงปีแรกๆ จะเน้นเรียนเคมีเยอะมากกก น้องที่สนใจก็อาจจะต้องเตรียมตัวนิดนึง ?

จบไปทำงานอะไรได้บ้าง

พี่เป๊ะ – ทำงานได้ทั้งราชการแล้วก็เอกชนเลย เช่น เป็นนักสิ่งแวดล้อมประจำโรงงาน เป็นที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ผู้ประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามกรมควบคุมมลพิษ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากร การไฟฟ้า การประปา และอื่นๆ อีกเยอะแยะมากมาย ตามที่ว่าเราชอบงานประเภทไหน ?

รู้สึกยังไงกับน้องค่ายฯ และคิดว่าการมาทำค่ายฯ นี้พี่ๆ ได้อะไร

พี่เป๊ะ – น้องน่ารักกตามสไตล์ 5555

การมาทำค่ายฯ นี้ได้อะไรหลายๆ อย่างเลย โดยเฉพาะการเป็นสีสันให้น้องคลายเครียดจากการคุยงานหรือทำโครงงานส่ง แค่นี้ก็รู้สึกดีใจแล้ววว

ฝากบอกน้องๆ ที่กำลังสนใจเข้าค่ายหรือเรียนต่อด้านสิ่งแวดล้อม

พี่เป๊ะ – ก็บอกว่า ต้องลองมา ไม่งั้นไม่รู้น้า อิอิ

Power Green ต่อ ไม่รอแล้วน้า ?

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย กับบทสัมภาษณ์ความประทับใจและค่าย Power Green Camp ตอนนี้ ~

และสำหรับน้องๆ ที่สนใจค่ายนี้คงต้องอดใจรอกันนิดนึง เพราะปกติค่าย Power Green จะจัดขึ้นทุกปี โดยจะเปิดรับสมัครช่วงเดือนกรกฎาคม และจัดค่ายในช่วงเดือนตุลาคม ถ้าค่าย Power Green Camp 14 เปิดรับสมัครเมื่อไหร่ แคมป์ฮับ จะรีบมารายงานให้น้องๆ รู้กันให้เร็วที่สุดเลย !!

คลิกที่รูปเพื่ออ่านบทความการบันทึกภาพความหลากหลายทางชีวภาพ

ติดตามค่าย Power Green Camp

เว็บไซต์ค่าย

เขียนโดย: พี่ช้าง แคมป์ฮับ
ขอขอบคุณรูปภาพ: บมจ.บ้านปูฯ และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

พี่ช้าง

พี่ช้าง ทีมงานแคมป์ฮับสุดคิ้วท์ นักศึกษาคณะ ICT มหิดลที่มีใจรักในค่าย :)