กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB review

รีวิวค่าย Born to be a Pharmacist#18 เภสัชศาสตร์ มศว [EP.67]

สิ่งที่น้องๆ จะได้รู้จากรีวิวนี้

  • ตะลุยโลกหมอยาในค่าย Born to be a Pharmacist ครั้งที่ 18
  • อยากเป็นหมอยาโบราณ แบบในเรื่องทองเอก หมอยาท่าโฉลง เรียนที่คณะเภสัชศาสตร์ได้มั้ย?
  • เปิดบ้านเภสัชศาสตร์ มศว. มาดูกันว่าพี่ๆ เขาเรียนอะไรกันบ้าง

สวัสดีค่า น้องๆ ชาวแคมป์ฮับทุกคน ช่วงนี้พี่มนก็จะอินๆ กับละครทองเอก หมอยาท่าโฉลง นิดหน่อยก็เลยเห็นทีว่าถึงเวลาที่เราจะมาพูดถึงคณะที่เรียนเกี่ยวกับหยูกยาต่างๆ กันบ้าง นั่นคือคณะเภสัชศาสตร์นั่นเอง ซึ่งแคมป์รีวิว Ep. นี้จะพาน้องๆ ไปตะลุยค่าย Born to be a Pharmacist  ครั้งที่ 18 ตอน PHARMCODE ที่จัดโดยพี่ๆ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) และเพิ่งจะจบค่ายไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง เอาล่ะ! ใครพร้อมแล้ว ลงไปดูกันต่อโลดดด!

เปิดบ้านเภสัชศาสตร์

ขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์คณะเภสัชศาสตร์ มศว.

“เภสัชศาสตร์” หรือที่เราเรียกกันในภาษาบ้านๆ ว่า “หมอยา” ศิลปะในแขนงวิทยาศาสตร์ ทำหน้าที่ปรุงผสม ผลิตและจ่ายยา รวมทั้งการเลือกสรรคุณภาพของยา เวชภัณฑ์ต่างๆ และยังเป็นวิชาชีพที่ให้บริการ ให้คำปรึกษาที่เหมาะสม ตรวจสอบการใช้ยา และติดตามดูแลการใช้ยาของผู้ป่วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของการใช้ยาที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่คน แต่ยังรวมไปถึงสัตว์ด้วย

คณะเภสัช มศว. เขาเรียนอะไรกันนะ?

ในหลักสูตรเภสัชศาสตร์บัณฑิตของมหาวิทยาลัยศรีนคริวิโรฒ จะเรียนทั้งหมด 6 ปีด้วยกัน และแบ่งออกเป็น 2 วิชาเอกที่เลือกตั้งแต่ตอนสอบเข้าคณะเลย ได้แก่

  • วิชาเอกวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม เรียนเกี่ยวกับการทำแลป การใช้เครื่องมือต่างๆ ตั้งแต่ใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณยา ตรวจสอบหาสิ่งปนเปื้อนในยา ตรวจสอบเอกลักษณ์ของยา รวมไปถึงการผลิตยาออกมาในรูปแบบต่างๆ เช่น ยาน้ำ ยาเม็ด
  • วิชาเอกการบริบาลทางเภสัชกรรม เรียนเกี่ยวกับการดูแลการใช้ยาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับผู้ป่วย ซึ่งอาจจะทำงานในโรงพยาบาล คลินิก ร้านยา สถานบริการสุขภาพ

และในแต่ละปีจะมีเรียนวิชาแบบคร่าวๆ ดังนี้

  • ปี 1 เรียนวิชาคณิต เคมี ชีววิทยา และความรู้เภสัชศาสตร์แบบพื้นฐาน 
  • ปี 2 เรียนพื้นฐานเพิ่มเติมจากปี 1 และเรียนวิชาที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเภสัชศาสตร์มากขึ้น เช่น ชีวเคมีสำหรับเภสัชกร สถิติทางเภสัชศาสตร์ เคมีเชิงฟิสิกส์ เภสัชเวท เป็นต้น และยังรวมถึงการเริ่มต้นเรียนวิชาที่แยกเอกด้วย เช่น ฝึกปฏิบัติงานเภสัชกรรมคลินิกของเอกการบริบาลฯ  
  • ปี 3 เรียนวิชาหลักๆ ของเภสัชศาสตร์มากขึ้น และบางวิชาเป็นการเรียนเพิ่มเติมจากที่เรียนในปี 2 เอกการบริบาลฯ มีเรียนฝึกปฏิบัติงานเพิ่มเติมจากตารางปกติ
  • ปี 4 เริ่มมีความแตกต่างของการเรียนในแต่ละวิชาเอกมากขึ้น ให้สอดคล้องกับวิชาชีพเภสัชศาสตร์ เช่น ทักษะทางคลินิกสำหรับการบริบาลทางเภสัชกรรม และ เภสัชบำบัดประยุกต์สำหรับวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม เป็นต้น
  • ปี 5 มีการฝึกงานวิชาชีพสำหรับเทอมแรกควบคู่กับการเรียนวิชาเอกต่างๆ ทั้งสองเทอม และสำหรับเอกวิทยาศาสตร์เภสัชกรรมจะเริ่มทำโครงงานวิจัยร่วมด้วย 
  • ปี 6 เอกวิชาบริบาลฯ มีการทำโครงงานวิจัย และฝึกปฏิบัติงานเภสัชกรรมคลินิกตามประเภทของผู้ป่วย ในส่วนของเอกวิทยาศาสตร์เภสัชกรรมก็จะมีการฝึกปฏิบัติงานเช่นกัน

จบไปแล้วทำงานตำแหน่งอะไรได้บ้าง

  • เภสัชกรโรงพยาบาล
  • เภสัชกรชุมชน (ร้านยา)
  • เภสัชกรด้านการวิจัยและพัฒนายา
  • เภสัชกรด้านการผลิตยา
  • เภสัชกรด้านการประกันคุณภาพและควบคุมคุณภาพยา
  • เภสัชกรด้านการประสานงานการทดลองทางคลินิก
  • เภสัชกรด้านการขึ้นทะเบียนยา
  • เภสัชกรด้านการตลาดยา
  • เภสัชกรด้านการคุ้มครองผู้บริโภค
  • เภสัชกรด้านการศึกษา (อาจารย์)
  • เภสัชกรด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเภสัชกรรม

อยากเรียนหมอยาโบราณ เรียนที่คณะเภสัชฯ ได้มั้ย?

พี่จูน (พี่ค่าย) – ในหลักสูตรเภสัชศาสตร์ของที่ มศว. จะมีหนึ่งวิชาที่เรียนเกี่ยวกับสมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบของยาโบราณหลายชนิด คือ “วิชาเภสัชเวท” ซึ่งจะเรียนเกี่ยวกับพืชต่างๆ ที่สามารถใช้เป็นสมุนไพรได้ ตลอดจนวิธีการสกัดสารสำคัญต่างๆ ที่เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีอยู่ในพืชสมุนไพรนั้นๆ ออกมาเพื่อที่จะนำมาตั้งตำรับต่อไป และมีการเรียนเกี่ยวกับการควบคุมคุณภาพของสมุนไพรที่นำมาใช้เป็นสารตั้งต้นและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ได้จากสมุนไพร ซึ่งสำหรับพี่คิดว่าก็พอจะเป็นพื้นฐานได้ประมาณนึง ถ้าแบบสนใจด้านนี้อาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมต่อไปค่ะ

สำหรับน้องๆ ที่สนใจทางด้านศาสตร์ยาแผนโบราณของไทย จริงๆ มีอีกคณะหนึ่งที่เรียนด้านนี้โดยเฉพาะคือคณะแพทย์แผนไทย หรือเป็นสาขาการแพทย์แผนไทย/แพทย์แผนไทยประยุกต์ ในหลายๆ มหาวิทยาลัย

ส่วนของคณะเภสัชศาสตร์ มศว. ถ้ายังอ่านได้ไม่จุใจพอ ตามไปอ่านกันต่อได้ที่ เว็บไซต์ของคณะ ได้เลยยย

เข้าค่าย Born มีอะไรน่าสนุกบ้าง?

ค่ายหมอยา 2 วัน 1 คืน ที่จะพาน้องๆ ไปเปิดโลกเภสัช เพื่อแนะแนวเส้นทางของสายอาชีพนี้ ให้ลบล้างภาพเก่าๆ ที่เคยคิดว่าเภสัชฯ มีหน้าที่แค่จ่ายยาไปได้เลย! และให้น้องๆ ได้มาสัมผัสบรรยากาศจำลองห้องเรียนแบบที่พี่ๆ เขาได้เรียนจริงๆ ทั้งทดลองเรียนแลปเคมี ฝึกคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ พร้อมทั้งมีกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมายเลยทีเดียว โดยจะมีกิจกรรมคร่าวๆ ในแต่ละวันประมาณนี้เลยจ้า

Day 1

  • บรรยายแนะแนวอาชีพของชาวเภสัชว่ามีอะไรบ้าง โดยรุ่นพี่ศิษย์เก่าคณะเภสัชฯ มศว.
  • กิจกรรม Ice Breaking สันทนาการ
  • กิจกรรมฐานแฝงความรู้ 1 (จำลองเนื้อหาที่พี่ๆ เรียนกันในคณะ) เช่น การนับเม็ดยา ทำยาลูกกลอน เป็นต้น

Day 2

  • นั่งรถชมบรรยากาศรอบมหาวิทยาลัยของเรา
  • กิจกรรมฐานแฝงความรู้ 2 เช่น ฐานงานฝ่ายผลิตของเภสัชกร เรียนรู้เทคนิคการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการเตรียมยา เป็นต้น
  • พิธีปิด มอบรางวัลสำหรับรูปภาพประทับใจในค่าย และเกียรติบัตร

เริ่มต้นบทสัมภาษณ์ที่เหล่าพี่ค่าย

พี่ต้น – พี่ชื่อต้นครับ ตอนนี้อยู่ปี 3 คณะเภสัชศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม มศว. เป็นประธานค่ายครับ หน้าที่หลักๆ อย่างแรกเลยเราก็วางแผนการดำเนินงาน ทำปฏิทินว่าวันนี้เราจะทำอะไรบ้าง คิดหัวข้อการประชุมและสิ่งที่เราต้องการจากเพื่อน แจกแจงงานหรือหน้าที่ให้เพื่อนทุกฝ่าย ดูแลค่ายโดยรวมและแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินงาน
พี่สมายด์ – ชื่อสมายด์ อยู่ปี 3 คณะเภสัชศาสตร์ สาขาการบริบาลทางเภสัชกรรม มศว.ค่ะ ในค่ายทำหน้าที่หลักเป็นพี่ค่ายค่ะ คอยดูแลด้านการเดินทางของน้องๆ ติดต่อกับน้องๆ ในเรื่องเกี่ยวกับการเดินทางทั้งวันมาค่ายและวันที่ส่งน้องกลับบ้าน รวมถึงยังมีหน้าที่ไปรับน้องและส่งน้องในจุดที่เราจัดเตรียมไว้ แล้วก็ยังเป็นพี่ประจำฐาน ซึ่งในฐานที่เราดูแลก็จะเป็นฐานที่เกี่ยวข้องกับงานฝ่ายผลิตของเภสัชกร น้องๆ ที่ได้มาฐานนี้ก็จะได้เรียนรู้เทคนิคการใช้อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการเตรียมยา ได้ลงมือทำเจลล้างมือด้วยตัวเองโดยที่จะมีพี่ๆ คอยดูแลน้องๆ อย่างใกล้ชิดแบบตัวต่อตัวเลย

ทำไมถึงมาเป็นประธานค่ายนี้ได้คะ

พี่ต้น – ค่าย Born to be a Pharmacist ของเราจะมีพี่ๆ ปี 3 เป็นตัวหลักในการทำค่าย ด้วยความที่เราอยากลองและมันท้าทายตัวเองว่าเราจะสามารถทำได้มั้ย จะทำได้ดีแค่ไหน ก่อนหน้านี้เคยเป็นประธานโครงการนึงแต่ผลออกมาไม่ดีเลยและผิดหวังมาก เราเลยสมัครเข้ามาทำหน้าที่ในส่วนนี้ เพื่อแก้ไขในสิ่งที่เราเคยทำพลาด แต่พอได้ทำงานนี้แล้ว โดยรวมถือว่าดีกว่าที่เราคาดไว้มากเลย ปลาบปลื้มสุดๆ ? แต่ยังไงการทำงานก็ต้องมีปัญหาแหละ รู้สึกว่ามีอีกหลายเรื่องที่อยากพัฒนามากกว่านี้

ทำไมถึงอยากเรียนเภสัชคะ

พี่ต้น – จริงๆ มีความฝันตั้งแต่เด็กครับ ว่าอยากผลิตยาที่รักษาผู้ป่วยได้ทุกโรค พอโตมาก็เลยอยากเข้าคณะเภสัชครับ แต่พอเรียนแล้วรู้เลยว่าเป็นไปไม่ได้ 5555555 ?
พี่สมายด์ – เป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ เหมือนกันค่ะ เพราะตอนนั้นเป็นคนที่ป่วยง่ายมากเลยมีโอกาสได้ไปโรงพยาบาลบ่อยๆ แล้วพอได้เห็นเวลาที่เภสัชกรจ่ายยาก็รู้สึกว่าน่าสนใจดีและเราเองก็ยังได้มีโอกาสพูดคุยกับคนไข้ด้วย ตั้งแต่นั้นมาก็เลยคิดมาตลอดเลยว่าอยากเรียนเภสัช แล้วก็ไม่มีคณะอื่นอยู่ในใจเลยด้วย 55555 พอตอนม.ปลายก็ได้มีโอกาสมาค่าย Born to be a Pharmacist ครั้งที่ 14 ก็ทำให้เรารู้ว่าจริงๆ แล้วเภสัชกรเนี่ย ไม่ได้มีหน้าที่แค่จ่ายยาแบบที่ทุกคนเข้าใจ การได้มาค่ายยิ่งทำให้เรามองเห็นตัวเองชัดขึ้น เลยตัดสินใจเลือกเรียนคณะนี้ค่ะ

ระหว่างการเป็นพี่ค่ายกับน้องค่าย รู้สึกต่างกันยังไงบ้างคะ

พี่สมายด์ – ตอนเป็นน้องก็รู้สึกสนุกมากที่ได้มาค่ายนี้ เพราะเป็นค่ายแรกของเราด้วย ประทับใจทุกอย่างเลย พี่ๆน่ารัก คอยดูแลเราตลอด กิจกรรมต่างๆ ที่พี่ๆ จัดให้ก็ถือว่าครบเลยทั้งความรู้และความสนุก ส่วนตอนที่มาเป็นพี่ค่ายก็รู้สึกเหนื่อยค่ะ 5555 ล้อเล่นนะ เอาจริงๆ ก็เหมือนเราได้มองเห็นตัวเองนะ เราสามารถเข้าใจความรู้สึกของน้องค่ายได้มากขึ้น เวลาที่มีน้องมาถามหรือเวลาที่เราได้มีโอกาสพูดคุยกับน้อง แล้วทำให้น้องๆ มองเห็นบทบาทความเป็นเภสัชกรมากขึ้นเราก็ดีใจ แค่ได้เห็นรอยยิ้มของน้องๆ จากกิจกรรมที่เราได้จัดให้แค่นี้พี่ค่ายทุกคนก็ดีใจมากแล้ว

มีกิจกรรมในค่ายอันไหนที่อยากจะแนะนำน้องๆ เป็นพิเศษมั้ยคะ

พี่ต้น – ฐานระดมความคิดครับ จะเป็นสถานการณ์จำลอง แล้วคิดหาวิธีแก้ไขโดยการรวบรวมเอาความรู้ที่ได้มาจากฐานวิชาต่างๆ มาใช้ครับ ยกตัวอย่างเช่น จะมีคนเสียชีวิตด้วยยา แต่น้องๆ จะยังไม่รู้ว่าคือยาตัวไหน (มีช้อยส์ให้ 3 ชนิด) น้องจะต้องนำตัวอย่างยาไปตรวจสอบว่ายาไหนคือยาพิษ ซึ่งฐานระดมความคิดนี้จะเปลี่ยนไปทุกๆ ปีตามธีมของค่ายนะครับ
พี่สมายด์ – ถ้าพูดถึงสันทนาการ เภสัชฯ มศว. เราก็ไม่เบาเหมือนกันนะ 5555 เพราะตั้งแต่ตอนที่เป็นน้องค่าย ครั้งแรกที่ได้เห็นสันทนาการของที่นี่ คือไม่คิดมาก่อนเลยว่าคนเรียนเภสัชฯ เขาจะทำอะไรแบบนี้กันด้วย (ถ้าน้องๆ อยากรู้ว่าสันเราเด็ดแค่ไหนก็ ลองสมัครมาค่ายนี้ดูนะ 55555) ไหนๆ มาค่ายแล้วเราจะมาสนุกอย่างเดียวก็ไม่ได้ ความรู้วิชาการค่ายนี้ก็แน่นเหมือนกัน โดยกิจกรรมที่จัดให้น้องๆ ในแต่ละฐาน ก็จะเป็นการเปิดมุมมองของน้องๆ ให้มองเห็นเภสัชกรในบทบาทหน้าที่ต่างๆ มีกิจกรรมมากมายให้น้องๆ ได้ลองลงมือทำอีกด้วย รับรองถ้าใครได้มาค่ายนี้บอกเลยว่ามีแต่คุ้มกับคุ้ม

เล่าเหตุการณ์ประทับใจในค่ายให้ฟังหน่อยค่า

พี่ต้น – ตอนที่ได้เห็นน้องๆ ครับ เวลาเห็นเค้าสนใจ มีความสุขหรือสนุกไปกับกิจกรรมต่างๆ ในฐานะผู้จัด เรารู้สึกดีใจ ตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก มองไปแล้วแอบไปยิ้มก็มี มันทำให้จากที่เราเครียดกับปัญหาต่างๆ ก่อนวันงาน พอเห็นเด็กๆ สนุกความเครียดที่สะสมอยู่มันก็หายไปเฉยเลย 555
พี่สมายด์ – เป็นคำถามที่ยากมาก แต่ถ้าจะต้องเลือกสิ่งที่ประทับใจที่สุดในค่ายก็น่าจะเป็นกิจกรรมช่วงที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับน้อง ได้ตอบคำถามน้องๆ เพราะน้องบางคนอาจจะไม่ค่อยกล้ายกมือถามพี่ๆ ในแต่ละฐาน (เพราะเราเองตอนเป็นน้องก็ไม่กล้าเหมือนกัน) ซึ่งมันอบอุ่นและน่ารักมากๆ เลย

สุดท้ายย ฝากค่ายนี้ให้กับน้องๆ หน่อยค่า

พี่ต้น – อยากฝากถึงน้องๆ สายวิทย์ที่ชอบในวิทยาศาสตร์สายสุขภาพ หรือน้องๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกคณะไหน ได้ลองมาสมัครค่าย Born to be a Pharmacist แล้วคุณจะรู้ว่าเภสัชกรไม่ได้มีหน้าที่แค่จ่ายยา
พี่สมายด์ – สำหรับน้องๆ ที่กำลังมองหาคณะที่ใช่สำหรับตัวเอง หรืออาจจะกำลังลังเลอยู่ คณะเภสัชศาสตร์เป็นอีกคณะหนึ่งที่น่าสนใจมาก อย่างที่พี่ได้บอกไปเภสัชกรไม่ได้มีหน้าที่แค่จ่ายตาตามโรงพยาบาลหรือร้านยาตามที่น้องๆ เข้าใจกัน ถ้าน้องๆ อยากรู้ว่าคณะเภสัชศาสตร์เมื่อเข้าไปแล้วต้องเรียนอะไรบ้าง เรียนจบไปแล้วสามารถทำงานอะไรได้บ้าง มาค่ายนี้ แล้วน้องๆ จะได้คำตอบทุกอย่างที่น้องๆ สงสัย รับรองเลยว่าน้องจะไม่ผิดหวังเลยที่ได้มาค่ายนี้ เพราะพี่เองก็รู้สึกประทับใจตั้งแต่ตอนที่เป็นน้องค่ายจนได้มาเป็นพี่ค่ายที่จัดกิจกรรมให้กับน้องๆ พี่ค่ายน่ารักมากกกกก ถ้าน้องๆอยากพิสูจน์ก็รีบส่งใบสมัครมาเลย พี่ๆ ทุกคนรอเจอน้องๆ อยู่น้าาาา

มาต่อที่คิวของน้องค่ายกันต่อ

น้องจูน – สวัสดีค่ะ ชื่อจูน เรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ค่ะ
น้องบุ๊ค – สวัสดีครับ ชื่อ บุ๊ค ครับ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนวัดสุทธิวราราม กรุงเทพมหานครครับ

รู้จักค่ายนี้ได้ยังไงเอ่ย

น้องจูน – คุณครูที่โรงเรียนแนะนำค่ะให้เข้าดูค่ายต่างๆ ใน CampHUB แล้วก็มีพี่ที่รู้จักแนะนำค่ายเภสัชฯ ที่ มศว. มาค่ะ
น้องบุ๊ค – ผ่านทางแคมป์ฮับเหมือนกันครับ

ทำไมเราถึงอยากมาเข้าค่ายนี้

น้องบุ๊ค – จริงๆ ผมสมัครเกือบทุกค่ายที่เป็นเภสัช ผมสมัครค่ายนี้ตั้งแต่ตอนผมอยู่ ม.5 แล้วครับ แล้วก็ติดด้วย แต่ต้องสละสิทธิ์เพราะติดค่ายเหมือนกันแต่ว่าเป็นค่ายเขาชนไก่นะครับ 5555 ปีนี้เลยลองอีกที

คำถามเข้าค่ายเป็นยังไงบ้าง ยากมั้ย

น้องจูน – สำหรับหนูเป็นคำถามยากมากเลยค่ะ จะมีให้ถอดรหัสจากตัวเลขค่ะว่าตัวเลขพวกมีความหมายว่าอะไร เเล้วก็มียกตัวอย่างสมุนไพร ให้บอกสรรพคุณต่างๆ ด้วยค่ะ

รู้ได้ยังไงว่าอยากเรียนด้านนี้

น้องจูน – มันเป็นความฝันที่อยากจะเรียนเภสัชค่ะคือตอนเด็กๆ ที่ไปโรงพยาบาลอ่ะค่ะ แล้วเห็นพี่เภสัชฯ คอยจ่ายยาหนูก็เลยชอบแล้วก็เลยอยากจะทำงานแบบนี้อ่ะค่ะ
น้องบุ๊ค – ผมเรียนสายวิทย์มาชอบเรียนชีวะกับเคมี ก็เลยอยากไปทางสายวิทย์สุขภาพอ่ะครับ จริงๆ หมอ สัตวแพทย์ เภสัช ผมชอบทั้ง 3 เลย แต่ค่ายหมอ กับ สัตวะ ผมสมัครค่ายไม่เคยติดเลยอ่ะครับ 5555

มีกิจกรรมไหนในค่ายที่เราชอบมากที่สุดเอ่ย

น้องจูน – ชอบกิจกรรมฐานที่เป็นฐานนับเม็ดยาค่ะ เป็นฐานที่หนูชอบมากที่สุดเลย พี่เขาก็จะสอนอ่านเกี่ยวกับตัวย่อของยาต่างๆ ค่ะ แล้วก็มีการสอนนับเม็ดยา มีเกมให้เล่นเป็นกลุ่มๆ ด้วย สนุกมากๆ
น้องบุ๊ค – ถ้าเป็นตัวผมเองก็ชอบฐานกิจกรรม Pharm cog มากๆ เลยครับ เขาจะมีให้ทำยาลูกกลอน ชอบเพราะได้ขยำตอนผสมยา เหมือนปั้นดินน้ำมันเลย แล้วก็ Bullet Billet เป็นการไทรเทรตวัดความเข้มข้นของสาร ก็สนุกเหมือนกันครับเพราะผมก็ชอบทำแลปอยู่แล้วด้วยครับ เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ก็ชอบ Bullet Billet เพราะชอบทำแลปเหมือนกันครับ

มีความคิดอะไรที่เปลี่ยนไปหลังจากเข้าค่ายนี้แล้วบ้าง

น้องจูน – ตอนแรกไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเภสัชมากมายค่ะ แต่พอได้ลองมาเข้าค่ายนี้แล้วได้เรียนรู้อะไรเพิ่มมากขึ้นเยอะเลยค่ะ ได้เห็นว่าคณะนี้เรียนอะไร จบไปแล้วทำงานอะไรได้

เหตุการณ์ประทับใจในค่าย

น้องบุ๊ค – รุ่นน้องในค่ายมาขอ IG ครับ 5555 เพราะรู้สึกว่าได้เพื่อนเพิ่ม คือก็ในค่ายจะแบ่งน้องๆ เป็น 4 กลุ่ม เรียกแทนเป็นบ้าน ในบ้านของบุ๊ค มี ม.6 อยู่แค่ 2 คนเองอ่ะครับ เลยกลัวว่าน้องๆ จะไม่กล้าเล่นด้วยเพราะเกรงใจ แต่สรุปว่าไม่มีใครคิดว่าบุ๊คอยู่ ม.6 เลย 55555555 บุ๊คก็เอ๊ะ? เพราะสมองเราหรืออะไรนะทำให้น้องๆ คิดแบบนั้น 55555 แต่คือตอนกลับจากค่ายก็มีน้องมาบอกว่าบุ๊คดู keep look มาก แต่บุ๊คก็ดีใจที่แบบ ขนาดดู keep look ก็ยังมีน้องๆ หลายคน (ทุกคนเลยดีกว่า) มาคุยเล่นมาชวนคุยมาขอ IG มาถามชื่ออะไรแบบนี้อ่ะครับ เพราะบุ๊คก็เป็นคนชวนคุยไม่เก่ง แต่ถ้ามาชวนบุ๊คคุย บุ๊คก็คุยไม่หยุดเหมือนกัน 555555 แล้วก็พี่ค่ายให้มาเป็นตัวแทนรีวิวค่ายด้วยครับ 55555555

ที่ประทับใจมากอีกอย่างนึงคือ พี่บ้านของผม (พี่เลี้ยงประจำแต่ละกลุ่ม) ตั้งแต่จบค่ายจนถึงวันนี้เค้าก็ยังทักมาให้กำลังใจบุ๊คทั้งเรื่องสอบปลายภาคที่ รร. เรื่องสอบแอดมิชชั่นที่จะเริ่มวันเสาร์หน้า ยิ่งทำให้บุ๊คแน่ใจว่า รองจากหมอ 2 อันดับแรกแล้ว อันดับ 3 ที่บุ๊คจะเลือกคือ เภสัชฯ มศว. ครับ

ค่ายนี้ให้อะไรกับเราบ้าง

น้องจูน – ได้รู้จักคณะนี้เพิ่มมากขึ้น ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ รู้จักเพื่อนใหม่และก็รุ่นพี่ค่ะ
น้องบุ๊ค – หลายอย่างเลยครับ มีทั้งความรู้ ทุกๆ ฐานกิจกรรมให้ความรู้หมดเลยครับ บุ๊คชอบมากมีทั้งเรื่องที่รู้แล้วทั้งเรื่องที่ยังไม่รู้ แล้วก็ได้มิตรภาพจากพี่ค่าย แล้วก็เพื่อนๆ น้องๆ ในค่าย บุ๊ครู้สึกว่าค่ายอบอุ่นมากครับ พี่ทุกคนดูเป็นกันเอง เพื่อนๆ น้องๆ ในค่ายก็ดูใส่ใจกันรักกันดีถึงจะพึ่งรู้จักกันได้แค่ 2 วันเองก็ต้องแยกกันแล้ว

สุดท้ายนี้ฝากค่ายกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หน่อยจ้า

น้องจูน – อยากให้ลองมาเข้าค่ายนี้กันเยอะๆ นะคะ ค่ายนี้เป็นค่ายที่สนุกมากเลยค่ะ พี่ให้การดูแลดีมาก นอกจากจะได้ประสบการณ์กลับไปแล้ว ค่ายนี้ยังให้ความทรงจำและเรื่องราวดีๆ กลับไปอีกด้วยค่ะ
น้องบุ๊ค – ค่ายนี้นะครับเหมาะสำหรับน้องๆ ม.ปลายทุกคนเลย สายอาชีวะก็รับนะครับ ใจกว้างสุดๆ ไปเลย ทั้งสนุก ได้ความรู้ เฮฮาปาจิงโกะ ห้องน้ำสะอาด ห้องนอนแอร์เย็นฉ่ำ พี่ๆ ใจดี อบอุ่น เป็นกันเอง เพื่อนๆ น่ารัก ส่วนเรื่องของกินนอกจากจะกินกันไม่หมดแล้วยังได้เอากลับไปกินที่บ้านอีกด้วย ค่ายนี้จะเปลี่ยนให้คนกลายเป็นหมู 55555 แต่ก็ฝากถึงน้องๆ ทุกคนด้วยนะครับ อันนี้สำคัญมากๆ ค่ายนี้เค้าจำกัดแค่ 100 คน ถ้าเปิดรับปุ้บ ต้องรีบสมัครไม่งั้นอดแน่ๆ ขอบคุณครับบบบ?

และแล้วเราก็มาถึงช่วงสุดท้ายก่อนจากกันไปของบทความแคมป์รีวิว ขอบคุณพี่ต้น พี่สมายด์ น้องจูน และน้องบุ๊คมาร่วมบทสัมภาษณ์ใน EP.นี้ ใครอ่านแล้วรู้สึกอยากไปเข้าค่าย Born to be a Pharmacist บ้าง ขอให้ยกมือขึ้นนน~ พี่มนหวังว่าแคมป์รีวิวนี้จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้น้องๆ เข้าใจคณะเภสัชฯ มศว. และช่วยค้นหาตัวตนที่ใช่ของตัวเองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าน้องๆ คนไหนอยากจะรู้เทคนิคเกี่ยวกับการสอบเข้า และเส้นทางการเข้าสู่คณะเภสัชศาสตร์ สามารถไปตามอ่านกันได้ที่ แคมป์ไอดอล EP.15 ของพี่สมายด์กันได้ คลิกที่รูปเลยจ้า

[แคมป์ไอดอล EP.15] “พี่สมายด์” สาวน้อยว่าที่เภสัชกร.. กับรอยยิ้มที่ทำให้โลกสดใส

สำหรับน้องๆ ที่สนใจที่จะเข้าค่ายนี้ สามารถติดตามได้จากทางเพจเฟซบุ๊กของทางค่ายโดยตรง หรือผ่านช่องทางต่างๆ ของแคมป์ฮับ ทั้ง เฟซบุ๊กเพจ, เฟซบุ๊กกรุ๊ป, ไลน์ @CampHUB และทวิตเตอร์ ได้เลย

สำหรับน้องๆ คนไหนที่อยากเล่าเรื่องราวดีๆ ประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากค่ายที่ไปมา สามารถส่งต่อเรื่องราวของน้องๆ มาที่อีเมล [email protected] หรือส่งมาในเฟซบุ๊กแฟนเพจของแคมป์ฮับก็น้า ไม่ต้องกลัวว่าเราจะเขียนไม่ดีเพราะพี่ๆ แคมป์ฮับรอช่วยแนะนำน้องๆ อยู่ แล้วเจอกันใหม่แคมป์รีวิว EP. ถัดไป จะไปที่ค่ายไหน คอยติดตามกันนะคะ บ้ายบายยยย

เขียนโดย พี่มน แคมป์ฮับ
ขอขอบคุณ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

พี่มน