เราชอบมอง ชอบชื่นชมชีวิตของคนอื่น และอดไม่ได้ที่จะเอาภาพเหล่านั้นมาเปรียบเทียบกับตัวเอง เรารู้ดีว่าการทำแบบนั้นมันทำให้เราไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร แต่ทำไมเราถึงหยุดเทียบตัวเองกับคนอื่นไม่ได้สักที
คนเรามักชอบเทียบตัวเองกับคนอื่น โดยเฉพาะกับคนที่เราคิดว่า เขาเป็นคนในอุดมคติของเรา เขาประสบความสำเร็จมากกว่า มีความสุขมากกว่า และสมบูรณ์แบบมากกว่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันทำให้เรารู้สึกด้อยค่า และเกิดคำถามขึ้นในใจทุกวันว่า ทำไมเราแย่กว่า
เรารู้ดีมาตลอดว่าการเปรียบเทียบคือจุดเริ่มต้นของความทุกข์ เราถูกสอนมาตลอดจากทั้งคำคม บทความต่างๆ ว่าให้เราเลิกแข่งกับคนอื่น ให้แข่งกับตัวเองแทน เราเข้าใจทุกอย่าง เราพยายามที่จะไม่เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมาตลอด แต่มันติดอย่างเดียวคือ มันยังทำไม่ได้ และมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย
ก่อนที่เราจะเลิกเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นได้ บางทีเราอาจจะต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมเราทุกคนชอบทำ Social Comparison หรือการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็มีหลายเหตุผลเหมือนกันว่าทำไม
เรามีชุดความคิดว่า ความสำเร็จจะรูปร่างหน้าตาประมาณไหน
เราถูกเลี้ยงดูและปลูกฝังจากครอบครัว หรือสังคมว่า โตไปเราต้องเป็นประมาณไหน เรียนให้เก่ง เข้ามหาลัยที่ดี ทำงานดีๆ เงินเยอะๆ แต่งงาน ซื้อบ้าน มีลูก และอื่นๆ ภาพเหล่านี้มันถูกฝังไว้ให้เราตั้งแต่ต้น ค่านิยมพวกนี้จะเป็นตัวตั้งต้นที่ทำให้เราเอาชีวิตในตอนนี้ไปเทียบเสมอ ว่าเราอยู่ตรงไหนในภาพนี้ นอกจากนั้น ในวันที่เรายังไม่ได้เป็นแบบภาพที่วาดไว้ เรามักใช้คนอื่น คนที่เราคิดว่าเขาเป็นในแบบที่เราใฝ่ฝันแล้ว เป็นตัวเทียบแทน เพราะมันดูจับต้องได้มากกว่า
เราไม่มั่นใจในทางที่เราเลือกเดิน
น้อยคนนักที่จะเลือกทางที่มันแปลกแหวกแนว เรามักจะเลือกอะไรที่เซฟไว้ก่อน แบบที่คนทั่วๆ ไปเขาทำกัน เพราะมันดูปลอดภัยที่มีเพื่อนร่วมทางเดินเดียวกับเรา และพอมันเป็นแบบนั้น เราอดไม่ได้ที่จะมองชีวิตคนอื่น เพื่อดูว่าเราดีแบบเขาหรือยัง และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองว่า “ฉันไม่ได้กำลังทำชีวิตเละเทะอยู่” เพราะงั้น การแก้มันอาจจะไม่ใช่การบอกให้เลิกเปรียบเทียบ แต่มันอาจต้องเริ่มจากการถามตัวเองว่า เราต้องการอะไร ในวันที่เราได้คำตอบ วันนั้นมันอาจจะไม่มีปัญหาจากการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเลยก็ได้ เพราะเรามั่นใจในสิ่งที่เราเลือกมากพอจนเราไม่ได้สนใจใคร
เราไม่เคยถอยออกมาดูภาพใหญ่ในมุมกว้าง
ทุกวันนี้เรื่องราวของคนอื่น มันเคาะประตูหาเราแต่เช้า เราเข้าถึงเรื่องราวเหล่านั้นได้ง่ายซะจนเราไม่ตั้งตัว หลายๆ ครั้งมันคือเรื่องราวดีๆ ที่จุดประกายความคิด ความฝัน แต่หลายครั้งมันก็ทำให้เราไขว้เขว
ความหอมหวานจากความสำเร็จของคนอื่นเพียงเสี้ยวเดียว ทำให้เราอยากเป็น อยากมี อยากทำตาม โดยที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภาพใหญ่ของคนพวกนั้นคือภาพเดียวกับของเราหรือเปล่า เราลืมมองไปว่า ปลายทางของเราต่างกัน เราลืมคิดไปว่าเส้นทางของแต่ละคนไม่มีทางเหมือนกัน แล้วเราก็ตัดสินเอาว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันไม่ดีแบบเขา
คนที่ตัดสินว่าชีวิตเราดีหรือยังก็คือตัวเราเอง
สุดท้ายแล้ว คนที่ตัดสินว่าชีวิตเราดีหรือยัง ก็คือตัวเราเอง ไม่ใช่จากการเทียบตัวเองกับคนอื่น การที่เรามองว่าชีวิตคนอื่นมันดีเหลือเกิน ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเขาเหล่านั้นมันดีจริงๆ เช่นเดียวกันกับการที่เรามองว่าชีวิตเราไม่ดีเลย จากการเทียบกับคนอื่น มันไม่ได้หมายความว่าชีวิตเรามันแย่จริงๆ เหมือนกัน
สิ่งที่สำคัญสำหรับชีวิตคนอื่นอาจจะไม่ได้สำคัญกับชีวิตเราเสมอไป ตราบใดที่เรารู้ว่าชีวิตเราต้องการอะไร และอะไรสำคัญที่สุดสำหรับเราแค่นั้นก็พอแล้วแหละ
ถ้าน้องๆ คนไหนอยากเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง ค้นหาตัวเองเพิ่มเติม สามารถพูดคุย สอบถามทีมงาน Learn O Life ได้เลย เรามีทีมงานนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่นที่มีประสบการณ์ ที่ต่างมีเป้าหมายอยากให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักค้นหาตัวเอง และสามารถพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จที่ออกแบบเองได้ ไม่ใช่การเดินตามรอยเท้าของใคร
Facebook Learn O Life LINE @learnolife Website Learn O Life
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย สำหรับ CAMPHUB check me with Learn O Life อีพีนี้ ถ้าชอบ ก็อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ได้มาเช็กจิตใจตัวเองไปด้วยกันเยอะๆ น้าาา และน้องๆ ยังสามารถอ่านบทความเพื่อเช็คสภาพจิตใจของตัวเองอีก ได้ที่นี่ แล้วถ้าจิตใจเราพร้อมแล้ว ก็พร้อมที่จะไปหาค่าย หากิจกรรมเข้าเพื่อค้นหาตัวเองกัน หาค่าย กิจกรรม โอเพนเฮ้าส์ ได้ง่ายๆ ที่ CAMPHUB.in.th ได้เลยจ้า สำหรับวันนี้ พี่ๆ CAMPHUB และ Learn O Life ต้องไปก่อน แล้วเจอกันในอีพีหน้าจ้า
เขียนโดย : พี่ๆ ทีมงาน Learn O Life
เรียบเรียงโดย : พี่เพียงฟ้า CAMPHUB
รูปภาพประกอบ : พี่เต้ย CAMPHUB
