กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB idol

เห็นผลงานเพลงมาเยอะแล้ว มาเจาะลึกเรื่องเรียนกับ “พี่เค้ก” และ “พี่เมือง” Serious Bacon กัน

หลายๆ คนน่าจะรู้จักกับ “พี่เค้ก” เปมิกา จิระนารักษ์ และ “พี่เมือง” สองเมือง ไชยฤทธิ์ ในฐานะนักร้องดูโอ้วง Serious Bacon จากค่าย BOXX MUSIC กันมาเยอะแล้ว วันนี้พี่ๆ CAMPHUB เลยจะพาน้องๆ มารู้จักกับพี่ทั้งสองคนในอีกมุมหนึ่ง กับเรื่องการเรียนในรั้วนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ ซึ่งพี่ๆ ทั้งสองคนนี้ก็เรียนในสองสาขาที่แตกต่างกันของคณะนิเทศศาสตร์ โดยพี่เค้กเรียนในสาขาการภาพยนตร์และภาพนิ่ง ส่วนพี่เมืองเรียนในสาขาสื่อสารการแสดงนั่นเองง

อย่าลืมแอดไลน์ @CAMPHUB

พอเห็นแบบนี้แล้วหลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่าเอ๊ะ แล้วนิเทศจุฬานี่มันมีกี่สาขากันนะ จริงๆ แล้วคณะนี้มีสาขาให้เลือกเรียนแตกต่างกันถึง 7 สาขาเลย นั่นก็คือ

  • การประชาสัมพันธ์ (Public Relations)
  • การโฆษณาและการสื่อสารตราสินค้า (Advertising and Brand Communications)
  • การออกแบบและผลิตสื่อ (Media Design and Production)
  • วารสารสนเทศและสื่อใหม่ (Journalism, Information, and New Media)
  • วาทนิเทศ (Speech Communication)
  • สื่อสารการแสดง (Performing Arts)
  • การภาพยนตร์และภาพนิ่ง (Film and Still Photography)

โดยแต่ละสาขาก็จะมีการเรียนการสอนที่แตกต่างกันไป ส่วนสำหรับสาขาภาพยนตร์และภาพนิ่ง และสาขาสื่อสารการแสดงที่พี่เค้กและพี่เมืองเรียนนั้นจะเป็นยังไง หรือพี่ๆ ทั้งสองคนรับมือกับความเครียดในช่วงสอบยังไงบ้าง มาดูในบทความนี้กันเลยย!

ก่อนจะเข้ามาเรียนนิเทศ พี่ๆ เตรียมตัวยังไงมาก่อนบ้าง แล้วอยากเรียนนิเทศอย่างเดียวเลยไหม?

พี่เมือง: ตอนแรกเราตั้งใจว่าจะเข้าคณะสถาปัตย์นี่แหละ ติวมา 3 ปี ไปสอบมาเรียบร้อยหมดแล้ว แต่ว่าตอนยื่นคะแนนรอบ 3 (รอบรับตรง) เรายื่นไปแค่สถาปัตย์ แล้วก็ไม่ได้ พอจะยื่นรอบ 4 คราวนี้คะแนนถึงทั้งสถาปัตย์และนิเทศ มันเลยขึ้นอยู่กับว่าเราแล้วว่าจะเลือกอะไรเป็นอันดับ 1 แต่ที่ทำให้เลือกนิเทศน่าจะเป็นเพราะพี่สาวเรียนคณะนี้ เราเคยเห็นว่าเขาเรียนอะไร ประกอบกับเราก็เป็นคนชอบทำกิจกรรมอยู่แล้วด้วย เลยเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้ายว่าจะเข้านิเทศ เรียกว่าหักเลี้ยวในนาทีสุดท้ายเลย

พี่เค้ก: ตอนที่เตรียมตัวเข้านิเทศจุฬาฯ ก็หาข้อมูลเยอะอยู่นะ เพราะเราเป็นคนค่อนข้างเนิร์ดประมาณนึง ตอนรุ่นเรา (สอบเข้าปี 2559) เราสอบรอบรับตรงเข้ามาเลย ใจร้อน ขี้เกียจรอแล้ว ซึ่งการรับตรงตอนนั้นจะมีให้ยื่นคะแนน GAT กับคะแนน​ PAT 7 เราเรียนสายศิลป์-ฝรั่งเศสมา ก็เลยเตรียมสองอันนี้เข้มข้นมาก อ่านหนังสือเยอะมาก ฉลาดที่สุดในชีวิตเท่าที่จะฉลาดได้แล้ว (หัวเราะ) ท่องศัพท์ทุกลมหายใจ บอกกับตัวเองว่าฉันต้องสอบคณะนี้ให้ได้ สุดท้ายเราก็ได้จริงๆ ส่วนเวลาหาข้อมูลก็แบบเวลาเขาเปิดอะไรที่เป็นแนะแนวเกี่ยวกับคณะนี้ เราก็จะไปมีส่วนร่วม อยากจะไปฟังไรงี้ หรือมี Open House ก็มา และปรึกษาคนที่เคยเรียน มีรุ่นพี่ที่เคยเรียน ก็ปรึกษาอยู่บ้าง ว่าเตรียมตัวยังไง อะไรงี้ค่ะ

หลายคนกังวลว่าถ้าไม่มีพื้นฐานจะเรียนนิเทศได้ไหม กลัวจะตามอาจารย์ไม่ทัน พี่ๆ คิดว่าไงบ้าง?

พี่เค้ก: เราว่าอาจารย์พยายามสอนโดยเริ่มจาก basic ก่อนแหละ ยกตัวอย่างวิชาที่เรียนเกี่ยวกับภาพนิ่ง เขาก็จะเริ่มจากเรื่องพื้นฐานก่อนเลย สอนวิธีการใช้กล้อง การเปิดรูรับแสง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน

พี่เมือง: เราว่าถ้าตั้งใจมาเรียนจริงๆ ก็ทำได้นะ นอกจากครูจะสอนดีแล้ว ในคณะก็มีวิชาที่เปิดให้เด็กคณะอื่นๆ มาเรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นคณะทางสายวิทย์หรือสายศิลป์ก็มาเรียนกันเยอะ ซึ่งเขาก็เรียนได้ สนุกด้ว

แล้วเรื่องงานล่ะ ที่เค้าบอกกันว่าเรียนนิเทศไม่ค่อยมีงาน พี่ๆ คิดว่าจริงไหม?

พี่เค้ก: ตอนที่เราจะเข้าคณะนี้ ก็มีคนที่เป็นห่วงว่าสายงานนี้จะมีงานทำไหม แต่ถ้าเราสนใจด้านนี้หรือมีความถนัดจริง ๆ มันก็จะมีงานที่รองรับเราแหละ
น้องๆ คนไหนที่ชอบถ่ายรูป ชอบการแสดง ชอบอะไรที่เราคิดว่ามันคาบเกี่ยวกับความเป็นนิเทศ การเข้ามาในคณะนี้ก็มีส่วนที่จะช่วยเสริมสกิลน้องให้มันมากขึ้น แล้วในอนาคตก็อาจจะได้ทำงานด้านนี้จริงๆ ซึ่งมันก็มีหลายคนในคณะที่ได้รับโอกาสนั้น

พี่เมือง: จริงๆ ก็ไม่จำเป็นว่าต้องมาเรียนนิเทศเพื่อทำงานด้านนี้อย่างเดียวนะ เรียนนิเทศแล้วไปทำอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องก็ได้ นิเทศสายโฆษณาก็มี สายอื่นๆ ก็เยอะ อยู่ที่น้องๆ แหละ ถามตัวเองว่าอยากเรียนอะไร

ไม่จำเป็นว่าต้องมาเรียนนิเทศเพื่อทำงานด้านนี้อย่างเดียวนะ เรียนนิเทศแล้วไปทำอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องก็ได้

พี่ๆ คิดยังไงกับภาคที่เลือกบ้าง ตรงกับที่คิดภาพไหม?

พี่เค้ก: ตอนเข้าคณะมาใหม่ๆ เราอยากเข้าภาคฟิล์มมาก ๆ เพราะอยากลองกำกับหนัง ลองทำหนังสั้น แต่ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้รายละเอียดว่าจะเจออะไรบ้าง ซึ่งพอเข้ามาเรียนภาคฟิล์มจริงๆ มันมีอะไรมากกว่านั้น เช่น การที่จะทำหนังเรื่องหนึ่ง มันมีช่วงพรีโปรดักชันที่เราต้องเขียนบท ต้องมีทีมงานหลายๆ ฝ่ายมาช่วยกันเตรียมเพื่อที่จะไปสู่ช่วงโปรดักชันที่เราจะไปถ่ายจริง ใช้ทีมงานเยอะมาก ในหนึ่งโปรดักชันก็ต้องมีหลายตำแหน่งที่จะช่วยงานกัน

หลังจากนั้นก็จะมีช่วงโพสต์โปรดักชันอีกที่จะต้องตัดต่ออีก ต้องทำยังไงให้เรียงลำดับเรื่องให้คนดูเข้าใจ ภาพคน หรือสี ต้องเป็นยังไง มันมีรายละเอียดเยอะกว่าที่เราเคยรู้มากๆ ดังนั้นพอเราได้มาทำงานโปรดักชันจริงๆ ก็พบว่าเราเป็นคนไม่ชอบออกกอง แต่ว่าอันนี้มันแล้วแต่คนมากๆ เลยนะ เพื่อนๆ เราก็เอนจอยปกติ เราคิดว่าคนที่ชอบน่าจะเป็นคนที่มีแพชชันในด้านนี้ประมาณหนึ่ง กลายเป็นว่าสุดท้ายเราชอบถ่ายรูปมากกว่า ชอบภาพนิ่งมากกว่า ซึ่งมันก็มีในภาคเหมือนกัน แต่สุดท้ายเราก็เลือกที่จะมาทำเพลงเพราะว่าชอบ

อย่าลืมแอดไลน์ @CAMPHUB

มีวิชาไหนที่ชอบเป็นพิเศษในคณะกันบ้างไหม?

พี่เมือง: จริงๆ มีวิชาที่เราเรียนเหมือนกัน เป็นวิชาเซตภาพนิ่ง โดยจะเรียนตั้งแต่ Princ Photo มี Portrait สอน Digital Art สอนแต่งรูป สอน Edit รูป เป็นวิชาที่เรารู้สึกว่าเรียนแล้วได้เอามาใช้จริงมาก ๆ อย่างทุกวันนี้เราแต่งรูปได้ค่อนข้างเซียนก็เพราะ อ.ที่สอนเราเลย

พี่เค้ก: 5555555 สมมติอย่างวิชา Portrait Photo เขาก็จะมีสอนวิธีการถ่ายรูปในแบบต่างๆ แล้วก็ให้โจทย์เราเพื่อไปลองถ่ายจริงๆ เป็น Photoshoot จริงๆ แล้วเอามานำเสนอ แล้วเขาก็จะช่วยคอมเมนต์ให้ เราก็เคยถ่ายรูปเมืองไปส่งหลายงานมาก อยู่ใกล้มือ แบบถ้าใครที่ชอบถ่ายรูปหรือรู้สึกอยากมีสกิลด้านการฝึกใช้กล้อง เราว่าวิชาเหล่านี้มันมีประโยชน์

พี่เมือง: เป็นซอฟต์สกิลที่มีประโยชน์ในสายงานเรา อย่างงานวงเราก็ทำรูปเองถ่ายรูปเองบ้าง
พี่เมือง: แล้วก็มีวิชา Music Perform ใคร ๆ ก็เรียนได้เหมือนกัน ของภาค PA
พี่เค้ก: เค้กเก็บเป็นวิชาเสรี ก็เลยได้เรียนวิชานี้
พี่เมือง: ครูตั้งใจสอนมาก แล้วก็เป็นวิชาที่ชอบที่สุดในภาคแล้วตั้งแต่เรียนมา คือเราได้เรียนเรื่องการ Perform โดยใช้ดนตรีเข้ามาเกี่ยวข้องไรงี้ ก็ได้ทำอะไรหลายอย่างที่มันสนุก

แบบนี้การเข้ามาเรียนที่นิเทศจุฬาฯ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พี่ๆ ได้ทำเริ่มทำเพลงจริงจังด้วยหรือเปล่า?

พี่เค้ก: เราสองคนตั้งแต่มัธยม ก็เคยทำวงทำอะไรของตัวเองอยู่บ้างที่โรงเรียน แล้วพอเข้าคณะก็มีงานที่ให้เราได้มาลองแต่งเพลงทำเพลงของละครนิเทศจุฬาฯ ประมาณนั้น ก็เอามาต่อยอดในการทำเพลงในวงด้วยค่ะ
พี่เมือง: ชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ จริงๆ ก็อยากเล่นมานานแต่ว่าไม่ค่อยมีโอกาส พอมีมาทำวงด้วยกันก็เลยสนุกแล้วก็ทำยาวเลย

เห็นว่าพี่ๆ เรียนการแสดงและภาพยนตร์ การเรียนมันช่วยกับเรื่องทำเพลงยังไงบ้างไหม?

พี่เค้ก: ก็ช่วยให้เรามีสกิลบางอย่างเพิ่มขึ้นจากตัวเรามากกว่ามั้ง ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าไม่ได้เรียนคณะนี้จะทำเพลงได้แบบนี้ไหม
พี่เมือง: เรียนการแสดงก็ช่วยเวลาต้องไปถ่ายหรือเล่น MV รวมถึงการแสดงบนเวทีด้วย เพราะมันก็มีส่วนช่วยในการแสดงออกของเรานะ
พี่เค้ก: จริงๆ พื้นฐานของนิเทศคือการสื่อสาร เราว่าการเรียนในคณะนี้มีส่วนช่วยให้เราแต่งเพลงหรือทำผลงานให้สื่อสารกับคนฟังได้ดีมากขึ้น หรืออย่างเราที่ได้มาเรียนฟิล์ม ก็จะมีเรียนทำหนังสั้น ซึ่งเราก็ต้องฝึกตัดหนังเอง เลยได้เอาสกิลตัดต่อเล็กๆ น้อยๆ ไปช่วยทำคอนเทนต์ของวงได้บ้าง

แล้วเบื้องหลังของผลงานล่าสุดเพลง ‘ลืมเขาได้ยัง’ พี่ๆ ทำอะไรกันบ้างคะ

พี่เค้ก: มันเริ่มจากเมืองทำดนตรีก่อน
พี่เมือง: ใช่ เราอยากทำเพลงสนุก ๆ เราเลยทำดนตรีขึ้นก่อน แล้วมาแต่งเนื้อเพลงทีหลัง
พี่เค้ก: พอทำดนตรีแล้วก็ส่งมาให้เค้กฟัง เค้กเลยลองขึ้นเพลง จากนั้นจึงลองแต่งด้วยไอเดียที่เรามีอยู่ แล้วเอาให้เมืองไปลองแต่งต่อ ก็เป็นไปตาม step หลังจากนั้นก็จะทำ demo แล้วส่งให้พี่ ๆ ที่ค่ายช่วยฟัง ช่วยคอมเมนต์ ให้เราได้นำมาพัฒนาปรับแก้ต่อค่ะ
พี่เมือง: อย่างโปรดักชันก็จะเป็นทีม MV โดยเขาจะช่วยคิดเส้นเรื่อง คิดไอเดีย ออกไอเดีย ในส่วน MV นี้เราก็เป็นฝ่ายเสนอความเห็น เป็นฝ่ายฟีดแบคซะมากกว่า
พี่เค้ก: ถ้าใครได้ดู MV นี้ก็จะเห็นว่าเป็นคอนเซปต์น่ารักๆ ประมาณว่าเมืองหายตัวไปจากวง เค้กก็เลยต้องเปิดออดิชันเมืองคนใหม่ ซึ่งใน MV ก็จะเห็นเราสองคนแสดงเป็นหลายบทบาท ก็ลองไปรับชมกันได้ค่ะ

ดูพี่ๆ ทำงานกันหนักมากเลย แบบนี้เวลาเหนื่อยทำยังไงกัน?

พี่เค้ก: ช่วงไหนที่เราแบบ “โอ๊ยไม่ไหวแล้ว” ก็จะตามใจตัวเองเสียส่วนใหญ่ กินของที่ชอบ อยากทำอะไรก็ทำ ให้เวลาตัวเองพักผ่อน คนเรามันเหนื่อยทุกวันมันก็ไม่ไหวเนอะ ก็ต้องมีวันที่เราได้พักบ้าง

พี่เมือง: มีคนเคยพูดไว้ว่า ‘ถ้าเราทำงานที่เรารักเราจะไม่รู้สึกเหมือนเราทำงานสักวัน’ ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ผิด งานยังไงมันก็คืองาน และมันก็มีวันที่เหนื่อยจริงๆ วิธีการจัดการของเราง่ายมาก เราจะพักทุกอย่าง นอนนิ่งๆ ไม่ก็นอนเล่นโทรศัพท์อยู่เฉยๆ เลย เหมือนเราเป็นประเภทไม่ได้หมดแรงบันดาลใจ เราแค่หมด ‘แรง’ คนเราต้องหาเวลาพักสมองเฉยๆ บ้าง การพักผ่อนคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา ซึ่งวิธีการพักผ่อนแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

‘ถ้าเราทำงานที่เรารักเราจะไม่รู้สึกเหมือนเราทำงานสักวัน’ ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ผิด งานยังไงมันก็คืองาน และมันก็มีวันที่เหนื่อยจริงๆ

อยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่กำลังเตรียมสอบ

พี่เมือง: อย่างแรกต้องบอกว่าสู้ๆ แหละ แต่ก็อย่าเครียดเกิน สำหรับเรานะ เครียดเกินมันก็ไม่ดี คืออ่านหนังสือหนักได้ บางเรื่องมันยาก แต่เราต้องบาลานซ์ดี ๆ เราเชื่อว่าการสอบเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าสุดท้ายเราไม่มีความสุข มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ดี อยากให้น้องๆ เน้นที่ความสุขของตัวเอง ถ้าเรามีความสุข จะทำอะไรมันก็แฮปปี้ อย่าเครียดเกิน ส่วนตัวเราเป็นคนอ่านหนังสือแบบไม่เครียดเลย แต่เราอาจจะเป็นตัวอย่างของความไม่เครียดเกินไป ซึ่งบางทีก็ไม่ดี ต้องบาลานซ์ดีๆ นะ

พี่เค้ก: ตอนนั้นเราเครียดประมาณหนึ่งเพราะอยากเข้าคณะนี้มาก แต่ถ้าย้อนกลับไปก็คิดว่าอาจจะไม่หักโหมเท่าตอนนั้นมั้ง มันจะมีช่วงที่เราพยายามนอนน้อยเพื่อที่จะได้อ่านหนังสือได้เยอะขึ้น ซึ่งสุดท้ายพอเรานอนไม่พอ ตื่นมาก็จะจำไม่ค่อยได้ เลยคิดว่าทำอะไรที่มันพอดีกับตัวเองดีกว่า แบ่งเวลาให้เป็น ให้เวลาตัวเองได้พักด้วย เพราะว่าอ่านหนังสือทั้งวันมันก็เหนื่อยเนอะ ต้องมีช่วงเวลาที่เราได้หยุดบ้าง แต่ก็สู้ๆ ค่ะ มันน่าจะเป็นช่วงหนึ่งที่น้องๆ ทุกคนน่าจะตั้งใจมากๆ เพื่อที่จะเข้าคณะที่อยากเข้าเนอะ เข้าใจว่าการแข่งขันในประเทศมันก็สูง

อ่านหนังสือทั้งวันมันก็เหนื่อยเนอะ ต้องมีช่วงเวลาที่เราได้หยุดบ้าง

จะมีผลงานใหม่ๆ ที่จะออกมาช่วงนี้อีกไหม?

พี่เมือง: ก็คือภายในปีนี้น่าจะมีอีก 1 เพลง
พี่เค้ก: เพลงที่เป็นโปรเจคพิเศษ 1-2 เพลงด้วยกัน ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะประมาณ 2 เพลงค่ะ รอฟังกันได้ค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ ได้เรียนรู้เทคนิคจากพี่เค้กและพี่เมืองกันไปเยอะเลยใช่ไหม น้อง ๆ คนไหนที่กำลังจะสอบเข้ามหาลัยก็อย่าเครียดจนเกินไปนะคะ หาเวลาพักให้ตัวเองบ้าง เหนื่อยก็พัก หาอะไรกินอร่อยๆ แบบพี่เค้กก็ได้ค่ะ หรือจะปล่อยใจสบายๆ หลับสักแป๊ปแบบพี่เมืองก็ดี ลองเอาไปปรับใช้ดูน้าา

จบแล้ววว.. สำหรับ CAMPHUB idol วันนี้กับพี่เค้กและพี่เมือง หวังว่าน้องๆ จะได้รับแง่คิดและแรงบันดาลใจชั้นดีจากพี่ๆ ไปไม่มากก็น้อย และถ้าน้องๆ มีเพื่อนที่สนใจเกี่ยวกับการเรียนนิเทศ จุฬาฯ ก็อย่าลืมกดแชร์ให้พวกเขาเหล่านั้นได้อ่านกันด้วยนะคะ และถ้าหากใครไม่อยากพลาดข่าวค่ายหรือบทความดีๆ แบบนี้จากแคมป์ฮับ ก็อย่าลืมแอดไลน์ไว้เลย ที่ @camphub สำหรับวันนี้ พี่เพียงฟ้าและพี่ๆ Serious Bacon ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า บ๊ายบายยย

สัมภาษณ์ พี่เพียงฟ้า CAMPHUB
ประสานงาน พี่แก๊ป CAMPHUB
ขอขอบคุณ BOXX Music, Muzik Move

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

พี่เพียงฟ้า

พี่เพียงฟ้า นิสิตนิเทศ จุฬาฯ