อังกฤษถือเป็นอีกหนึ่งประเทศในฝันของนักเรียนที่วางแผนจะเรียนต่อปริญญาโทต่างประเทศ ด้วยระยะเวลาการเรียนเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกาหรือออสเตรเลียที่ใช้ระยะเวลาเรียนถึง 2 ปี ประกอบกับสภาพแวดล้อมและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติอีกนับไม่ถ้วน ทำให้อังกฤษจึงเป็นประเทศที่นักเรียนไทยจำนวนมากตั้งใจจะมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์เรียนและประสบการณ์ชีวิตในระยะเวลาอันสั้น อย่างไรก็ตามประสบการณ์จริงที่นักศึกษาปริญญาโทต่างพบเจอ คือการปรับตัวอย่างมากทั้งด้านภาษาและรูปแบบการเรียนที่แตกต่างกับที่ไทย
วันนี้พี่ๆ CAMPHUB และ Twinkl จึงได้รวบรวมประสบการณ์จริงจากพี่บัณฑิตปริญญาโทอังกฤษ มาแบ่งปันกับน้อง ๆ ที่อยากเรียนต่อ เพื่อให้ทุกคนสามารถเตรียมตัวและใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเรียนต่อต่างประเทศกัน
1. รูปแบบการเรียน
ความแตกต่างที่สำคัญของรูปแบบการเรียนการสอนในระดับปริญญาโทที่อังกฤษคือแต่ละวิชาจะถูกแบ่งเป็นการสอนแบบเลคเชอร์และสัมมนา โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือและการนำเสนอแนวคิดจากนักเรียน การสอนแบบสัมมนาจะแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 10-20 คน โดยอาจารย์จะให้นักเรียนอ่านกรณีศึกษาก่อนเข้าห้องเรียน และมาอภิปรายวิธีการแก้ปัญหาโดยอ้างอิงจากทฤษฎีที่เรียนมา ซึ่งหากนักเรียนไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างดี ผู้สอนบางท่านอาจไม่อนุญาตให้เข้าห้องเรียน ทำให้การเรียนปริญญาโทที่อังกฤษจะไม่ใช่แค่การเข้าห้องเรียนไปนั่งฟังเพียงอย่างเดียว แต่นักเรียนทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการต่อยอดความคิดในทุก ๆ วิชา ซึ่งการเรียนที่ไทยอาจจะไม่ได้กระตุ้นหรือกำหนดให้การมีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลเหมือนกับประเทศอังกฤษ
2. ความตรงต่อเวลา
หากน้อง ๆ ได้มีโอกาสมาเรียนต่อระดับปริญญาที่อังกฤษจะพบว่าทุกวิชาไม่ว่าจะเป็นการสอนในห้องเรียนหรือออนไลน์ จะเริ่มและจบการสอนตรงตามเวลาที่แจ้งไว้ในตารางสอน ทั้งนี้อาจารย์หลาย ๆ ท่านได้มีการเผื่อเวลาสำหรับการถามตอบเรียบร้อยแล้ว และถึงแม้ว่าจะไม่สามารถสอนจบตามเนื้อหาที่เตรียมมา อาจารย์ก็จะจบการสอนทันที โดยจะมีน้อยครั้งมากที่จะสอนเกินเวลาหรือนัดสอนนอกเวลา (Make-up Class) เหมือนที่น้อง ๆ บางคนอาจจะเคยมีประสบการณ์ตอนเรียนปริญญาตรีที่ไทย
3. การศึกษาด้วยตัวเอง (Self-study)
อีกหนึ่งสิ่งที่พี่ ๆ ศิษย์เก่าปริญญาโทในอังกฤษหลายคนเห็นตรงกันว่าเป็นจุดที่ต้องปรับตัวมากที่สุดก็คือ การอ่านหนังสือก่อนเข้าเรียนจำนวนมาก ซึ่งต้องอ่านทุกวิชาและทุกวัน เนื่องจากทุกครั้งที่จบเนื้อหาของแต่ละสัปดาห์ อาจารย์จะแจ้งรายชื่อหนังสือหรือบทความที่ต้องอ่านสำหรับการเรียนในครั้งหน้าและกรณีศึกษาสำหรับสัมมนาทันที แต่ทั้งนี้ความหนักเบาของการเตรียมการศึกษาด้วยตัวเองนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการเรียนการสอนในแต่ละวิชาด้วย
4. การจัดการเวลา (Time Management)
นอกจากความแตกต่างด้านการเรียนที่เน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนและการศึกษาด้วยตัวเองแล้ว การใช้ชีวิตในต่างประเทศยังทำให้นักเรียนหลายคนเจอกับปัญหาในการจัดการเวลา เนื่องจากการใช้ชีวิตด้วยตัวเองในดินแดนต่างถิ่นนั้น หลาย ๆ คนต้องทำอาหารด้วยตัวเองและทำงานพิเศษเพื่อใช้จ่ายส่วนตัว รวมถึงแบ่งเวลาเพื่อเข้าสังคมกับเพื่อน ๆ ต่างชาติ นอกจากนั้นช่วงสอบและกำหนดส่งงานของทุก ๆ มหาวิทยาลัยมักจะตรงกับช่วงวันหยุดที่หลาย ๆ คนมักจะลาไปเที่ยว เช่น คริสต์มาส ปีใหม่ และอีสเตอร์ เป็นต้น เป็นสาเหตุที่นักเรียนหลาย ๆ คนจะมีช่วงที่ต้องอดหลับอดนอนเพื่อส่งงานให้ตรงตามเวลา และมีบางส่วนที่ส่งไม่ทันและโดนหักคะแนน โดยระบบการหักคะแนนที่อังกฤษจะแตกต่างกันตามสาขาที่เรียนและจะค่อย ๆ ลดลงตามจำนวนวันที่ส่งช้าเกินกำหนด เพราะฉะนั้นการจัดการเวลาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อจะช่วยให้น้อง ๆ สามารถรักษาสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการเรียนได้อย่างมีความสุข หากน้อง ๆ อยากทราบเรื่องเคล็ดลับการจัดการเวลา สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์นี้ได้เลยยย 7 เทคนิคการบริหารเวลา (Time Management Tips)
5. ทักษะด้านภาษา
ความแตกต่างด้านภาษาเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักเรียนทุกคนปฏิเสธไม่ได้ว่างต้องใช้เวลาปรับตัวค่อนข้างเยอะ เพราะนอกจากจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการสอนแล้ว อาจารย์ของแต่ละวิชาอาจมาจากหลากหลายประเทศ ทำให้สำเนียงหรือความเร็วในการพูดนั้นต่างกัน นอกจากนี้หากไม่ได้เตรียมตัวอ่านเนื้อหาก่อนเข้าเรียนก็จะยิ่งทำให้ต้องใช้ความพยายามและทักษะการฟังภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น ส่วนทักษะการพูดภาษาอังกฤษนั้นก็จำเป็นไม่แพ้กันสำหรับการเรียนแบบสัมมนาที่ต้องประชุมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนเป็นประจำ รวมถึงการนำเสนอหน้าชั้นเรียนเป็นภาษาอังกฤษด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 สิ่งสำคัญที่ทาง CAMPHUB และ Twinkl รวบรวมมาให้น้อง ๆ ได้ทราบจากประสบการณ์ตรงของพี่ ๆ ที่เรียนจบแล้ว เพื่อให้สามารถเตรียมตัวและตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง ท้ายที่สุดนี้ขอให้น้อง ๆ ทุกคนโชคดีและประสบความสำเร็จกับทุกเส้นทางที่เลือกนะ!
เขียนโดย Twinkl
เรียบเรียงโดย พี่นิว CAMPHUB
กราฟิกโดย พี่หมิง CAMPHUB