กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
พัฒนาทักษะ/เวิร์กชอป สถาปัตย์/ออกแบบ

ค่ายศิลปะเพื่อการรู้จักตัวเอง สำหรับเยาวชนอายุ ๑๕ ถึง ๒๕ ปี

ปิดรับสมัครแล้ว

ข้อมูลเบื้องต้นของค่ายนี้

วันที่จัดค่าย

19 มกราคม 2561 เวลา 19:30 น.
ถึง 21 มกราคม 2561 เวลา 15:00 น. (ค้างคืน)

ปิดรับสมัคร

7 มกราคม 2561 (หากเต็มแล้วปิดรับสมัครทันที)

จำนวนที่รับ

14 คน

ระดับการศึกษา

อายุระหว่าง 15 ปี ถึง 25 ปี

ค่าใช้จ่าย

1,900 บาท (จ่ายตอนสมัคร)

สถานที่จัดค่าย

สำนักงานสถาบันธรรมวรรณศิลป์ ซอยงามวงศ์วาน 7 จังหวัดนนทบุรี

จัดโดย

สถาบันธรรมวรรณศิลป์

[button color=”website” size=”medium” link=”http://youngawakening.org/write4life/ศิลปะเพื่อรู้จักตัวเอง/” icon=”fa-external-link” target=”_blank”]เว็บไซต์ค่าย[/button] [button color=”facebook” size=”medium” link=”https://www.facebook.com/khianpianchiwit/” icon=”fa-facebook” target=”_blank”]สอบถามพี่ค่ายทาง Facebook[/button] [button color=”download” size=”medium” link=”https://goo.gl/forms/h2dz3k4NNEdlKgpM2″ icon=”fa-download” target=”_blank”]สมัครออนไลน์ตรงนี้เลย![/button]

ค่ายศิลปะเพื่อการรู้จักตัวเอง

การอบรม ๒ วัน ๒ คืน สำหรับเยาวชนอายุ ๑๕ ถึง ๒๕ ปี เรียนรู้ผ่านกิจกรรมศิลปะเพื่อเปิดประตูสู่การค้นพบตัวเอง ไม่เน้นการสร้างผลงานให้ดีเลิศ แต่เน้นให้การวาดเขียนและศิลปะเป็นกระจกสะท้อนตน เพื่อก้าวต่อไปของชีวิตอย่างมีความสุข แรงบันดาลใจ และกล้าหาญ

การอบรมหลักสูตรพิเศษ เนื่องในวาระ ๑๐ ปี สถาบันธรรมวรรณศิลป์ฯ และ ๓๐ รุ่นการอบรมหลักสูตร เขียนเปลี่ยนชีวิต โดยค่าใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนเยาวชนที่ได้รับทุนจากโครงการได้ร่วมเรียน และสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการกุศลอื่นของสถาบันฯ

การรู้จักตัวเองเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับชีวิต และเป็นบทเรียนล้ำค่าที่เรียนรู้ก่อนย่อมได้เปรียบ เพราะการรู้จักตนเองทำให้รู้ว่าจะก้าวต่อไปในชีวิตอย่างไร เลือกเรียน เลือกงาน เลือกชีวิตแบบไหน โดยไม่ต้องคอยตามกระแสหรือฟังผู้อื่นชี้แนะนำ อีกทั้งการรู้จักตนยังมีผลต่อความสุขและความทุกข์ของชีวิต นับจากวันนี้ถึงวันหน้า ชีวิตเราลิขิตด้วยตนเอง สุขและทุกข์ก็เกิดขึ้นด้วยปัจจัยสำคัญที่ตัวเรา

การรู้จักตัวเองสามารถทำได้หลายเครื่องมือ ซึ่งศิลปะ เช่น การวาด การเขียน เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ตัวเรากลับมาเห็นตนเอง เข้าใจตนเอง โดยไม่ใช่การวาดเขียนเพื่อสร้างผลงานให้แก่คนอื่น แต่วาดเขียนเพื่อให้ตนเอง การอบรมโดยสถาบันธรรมวรรณศิลป์ จึงแตกต่างจากการอบรมการวาดเขียนโดยทั่วไป ไม่เน้นให้วาดเขียนดี ไม่เน้นทักษะความสามารถด้านศิลปะ แต่เน้นการวาดเขียนบนความรู้ทางจิตวิทยาและธรรมะ เป็นเครื่องมือย้อนกลับมาเสริมสร้างหัวใจและปัญญาของตนเอง

“ค่ายศิลปะเพื่อการรู้จักตนเอง” เป็นการอบรมสำหรับเยาวชน เพื่อเสริมสร้างกำลังใจและกำลังความคิด ก่อนก้าวเดินสำคัญของชีวิต มิว่าการเรียนต่อ การเลือกงาน และการปรับตัวกับการใช้ชีวิต เป็นความรู้นอกตำราไม่มีในข้อสอบ แต่ต้องใช้ตลอดชีวิต และใช้ผ่านบททดสอบของชีวิต

เป้าหมายในการอบรม

  • เยาวชนที่เข้าเรียนสามารถใช้การสร้างสรรค์ศิลปะเพื่อการเข้าใจตัวเองได้ ทั้งการวาดระบาย การเขียนบันทึก การละคร และดนตรีโดยไม่ขึ้นอยู่กับความสวยงามและความดีเลิศของผลงาน
  • เยาวชนที่เข้าเรียนมีความเข้าใจตนเองมากขึ้น ในด้านคุณสมบัติ จุดเด่น จุดด้อย และโอกาสที่ตนเองมี
  • เยาวชนที่เข้าเรียนสามารถใช้เครื่องมือการสร้างสรรค์ศิลปะในแบบที่ตนเองชอบ เพื่อการผ่อนคลายและการดูแลจิตใจตนเอง รวมทั้งการทบทวนตนเอง

คุณสมบัติของผู้เข้าร่วม

  • เยาวชน มีอายุระหว่าง ๑๕ ถึง ๒๕ ปี
  • สมัครใจเข้าค่ายด้วยตนเอง
  • มีความตั้งใจเรียนรู้หัวข้อต่างๆ พร้อมทำกิจกรรมเดี่ยวและกลุ่มอย่างไม่มีข้อยกเว้น
  • สามารถปรับตัวเข้าหาผู้อื่น
  • อยู่อย่างเรียบง่ายเพื่อฝึกฝนพัฒนาตนเองได้โดยไม่จำกัดว่าต้องมีทักษะหรือความชอบด้านศิลปะ คนที่ไม่เก่งด้านนี้สามารถเข้าเรียนได้
  • สามารถร่วมกิจกรรมการอบรมตลอดทั้ง ๒ วัน ๒ คืน

เวลาในการอบรม

วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๙.๓๐ น. ถึง วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๑ เวลา ๑๕.๐๐ น. (รวม ๒ วัน ๒ คืน)

โดยผู้เข้าร่วมสามารถเดินทางมายังสถานที่จัดค่าย เพื่อเตรียมตัวและทานอาหารว่าง นับตั้งแต่เวลา ๑๘.๐๐ น. เป็นต้นไป

เนื้อหาสำคัญ

เนื้อหาหลักในการอบรม โดยจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามพื้นฐานของผู้เรียน กิจกรรมที่ใช้มีทั้งการวาดระบาย การเขียนบันทึก การสื่อสารรับฟังกัน การละคร และดนตรี

คืนแรก
  • ปฐมนิเทศ และ กิจกรรม การสร้างความรู้จักกัน
  • สายธารชีวิตหนึ่งปีก่อน
  • การฝึกทักษะการฟัง และดนตรีประสานใจ
วันที่หนึ่ง
  • ศิลปะกับการเชื่อมโยงตนเองสู่จักรวาล
  • ทบทวนมุมมองความรู้สึกต่อตนเอง และเสียงจากภายนอก
  • พื้นที่ปลอดภัย และ พื้นที่แห่งการเรียนรู้
  • จุดเด่น จุดด้อย คุณค่า และโอกาสในตัวฉัน
  • เมล็ดพันธุ์ศักยภาพและตัวตนที่หลากหลาย
คืนที่สอง
  • นักกล้าฝัน การละครและศิลปะเพื่อกล้าฝัน
  • ชมภาพยนตร์จุดแรงบันดาลใจและทบทวนตัวเอง
วันที่สอง
  • สิ่งที่มีคุณค่าในชีวิต
  • พลังของถ้อยคำที่บอกกับหัวใจ
  • จดหมายถึงอนาคต
  • สรุปการอบรม และ ปัจฉิมนิเทศ

สถานที่จัดค่าย

ณ สำนักงานใหญ่ สถาบันธรรมวรรณศิลป์ ซอยงามวงศ์วาน ๗ ใกล้สี่แยกแคราย จังหวัดนนทบุรี (สามารถลงรถไฟฟ้า สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี แล้วต่อรถประจำทาง/taxi ระยะทาง ๑ กิโลเมตรครึ่ง)

แผนที่ : goo.gl/maps/WzFHPJAAP512

สมัครการอบรม

กรอกใบสมัคร ตามลิงค์ดังนี้ : goo.gl/forms/h2dz3k4NNEdlKgpM2
แล้วจึงโอนค่าลงทะเบียน ตามรายละเอียดที่แจ้งไว้ และส่งหลักฐานมาที่อีเมล์ [email protected]

บทเรียนจากนักศึกษาที่ผ่านการอบรม

ความจริงแล้ว คนเรามีทั้งส่วนดีและไม่ดีในตัวเอง แต่เพราะเราแบกความคาดหวังมากเกินไป ทำให้เราเครียดพอทำผิดไม่กล้ายอมรับเพราะกลัวสิ่งดีภายนอกจะหายไป และเป็นเพราะเราเองด้วยที่กดดันตัวเอง ไม่ยอมให้อภัยตัวเอง คิดว่าตัวเองต้องดี มันก็เลยสวนกับความต้องการ ลึกๆ ในใจ

หลังจากที่ได้ระลึกถึงเหตุการณ์แล้ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนมุมมองใหม่ คือในเรื่องของการลงลึกถึงความรู้สึกภายใน และสัมผัสได้ถึงบุคลิกภายนอก ตัวเองอาจดูไม่มีอะไร แต่ไม่มีใครรู้ว่ายังโหยหาความรักความสบาย การมองเห็นหัวใจของตัวเอง ที่ทำให้เข้าใจตัวเองมากกว่าเดิม อยากบอกกับตัวเองว่าควรลด เลิก ละ ความอยากและความต้องการลงบ้าง เพื่อที่จะได้มีชีวิตที่มีความสุขโดยไม่ต้องมีใคร นอกจากตัวเราเอง

ในช่วงที่เริ่มบันทึกและเรียนรู้ แทบจะไม่รู้จักตัวเอง นั่งคิดอยู่ว่าตัวเองมีจุดแข็งจุดอ่อนอะไร มันเลยค่อนข้างจะขัดแย้งนิดๆ แต่พอเริ่มทำกิจกรรม รู้สึกสนุกได้เห็นอีกด้านหนึ่ง ของตัวเรา ทำให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีหลายด้านหลายมิติ ทำให้ได้ผ่อนคลายกับชีวิตไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม นั่งสมาธิ หรือเล่นเกมส์ เพื่อฝึกทักษะของตัวเราและทำให้รู้สึกถึงความสมดุล ได้เห็นมุมมองใหม่ๆจากคนรอบข้าง ที่เราไม่ค่อยได้มองหรือเลือกที่จะไม่จดจำ ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่คิดกับสิ่งที่รู้สึกมันต่างกัน การได้เขียนอะไรลงไปในกระดาษนั้นมันทำให้ได้เข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น สามารถแชร์เรื่องราวในอดีตที่กระทบใจได้ง่ายขึ้น และก็สะเทือนใจกับมันน้อยลง และได้ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่าง ให้เราได้มีความคิดที่จะเริ่มใหม่ด้วยตัวของเราเอง

นางสาวสิริกร ชินะประยูร

การให้วาดวงกลม แล้วมีจุดตรงกลาง เรามีมากหมายหลายวิธีมากเพื่อจะสร้างวงกลมนั้นขึ้นมา โดยความคิดของเราเอง หรือ การให้คนอื่นเข้ามาช่วยเรา ก็เหมือนกับ เราจะทำสิ่งใดควรพึ่งตัวเอง ความคิดตัวเอง และอีกอย่างคือให้คนอื่นเข้ามาช่วยเราคิด ช่วยเราทำ ทุกอย่างก็จะออกมาตามเป้าหมายที่เราได้วางไว้ สำเร็จ ลุล่วงไปได้ด้วยดี ต้องรู้จักตัวเอง และหันมามองคนรอบข้างบ้าง ควรเปิดโอกาสรับฟังคนอื่น อย่าฟังแต่ความคิดตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย

แล้วก็มีกิจกรรมหลายๆ อย่างที่ทำให้เรารู้ วิธีแก้ไข หรือทางออก ที่มันขึ้นอยู่กับใจเรา ว่าเราเข้มแข็งพอมั้ย ที่จะฟ่าฟัน สู้กับอุปสรรคนั้น พี่วิทยากรทำให้เห็นว่า อุปสรรค มัน ก็จะแฝงไปด้วยทางออก คือจะแก้ไขอย่างไร เราก็ต้องดูอุปสรรคนั้นก่อน เราถึงจะแก้ได้ตรงจุด แล้วก็กิจกรรมกล้องถ่ายรูป ทำให้เราเข้าใจถึงความกังวลกลัวเพื่อนจะชน คือ คิดถึงคนอื่น อยากให้เขาได้เห็นได้ลืมตามาเห็นวิวสวยๆ เกิดความประทับใจนั้นเอง

อีกกิจกรรมการเปรียบการเขียนเหมือนอะไร ตัวฉันเปรียบการเขียนเหมือน กับไข่กับลูกเจี๊ยบคือ เราต้องฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กๆ คือ เขียน ก ข ค พอโตมาเป็นลูกเจี๊ยบก็เขียนได้มากขึ้น เหมือนเป็นการเรียนรู้พัฒนาตนเองขึ้นมา ส่วนกิจกรรมที่ฉันชอบมากที่สุดคือการได้วิ่งไปจับเป้าหมาย โดยมีอุปสรรคคอยขัดขวาง เพื่อนบางคนเลือกไม่มีอุปสรรค แต่ตัวฉันเลือกมีอุปสรรค เพราะฉันมองว่า การที่คนเราเกิดมาทุกคนย่อมมีอุปสรรคกันทุกคน ไม่ใช่ราบรื่นเหมือนเดินบนกลีบกุหลาบเสมอไป แล้วแต่ว่าจะมากหรือจะน้อยก็เท่านั้น การมีอุปสรรคไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี แต่มันขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะมองอุปสรรคนั้นหนักหนา หรือ เบาบางมากแค่ไหน ถ้าคิดว่ามันหนักหนา ทำไม่ได้หรอก มันก็จะท้อ ทั้งๆที่เรายังไม่ได้ลองทำเลย

นางสาวชลทิชา กุฎเงิน

อย่างแรกเลยคือเปิดการ์ดตรงหน้า3ใบ ไม่รู้ว่าจะแปลกไหม ถ้าจะบอกว่า การ์ดพวกนั้นเหมือนสื่อถึงความรู้สึก ภายในตัวเราได้ และการ์ดที่อยู่ตรงกลางที่อาจารย์วิทยากรให้เลือก (ส่วนนี้ข้าพเจ้าไม่ค่อยได้) ข้าพเจ้าได้เลือก ช่วยเหลือผู้อื่น และ ไว้ใจได้ดี น่าจะประมาณนี้ และอาจารย์วิทยากรได้ถามว่าแล้วเราจะได้สิ่งนี้อย่างไร ข้าพเจ้าสามารถตอบได้อย่างเต็มปากเลยว่า ข้าพเจ้าสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้เสมอเท่าที่ความสามารถของข้าพเจ้าจะทำได้ และยิ่งความไว้ใจเรามีให้ทุกคนเสมอ แต่บางที่ข้าพเจ้าก็แอบคิดว่า ทำไมเราให้ความไว้ใจแก่เขา แต่ทำไมเขาไม่มีความไว้ใจให้แก่เราบ้าง หรือเราคิดมากไป บางทีตัวข้าพเจ้าเองก็ควรปล่อยวางบ้าง

ในห้องเรียนทำให้ข้าพเจ้าเห็นตัวเองแล้วว่าเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูง และยังมีความสับสนในตัวเองอยู่ ตอนที่อาจารย์วิทยากรบอกให้หยิบสีๆ หนึ่งขึ้นมา ในตอนนั้นข้าพเจ้าได้หยิบสีเทา มันทำให้ข้าพเจ้าคิดว่า ตัวเราเองยังสับสน งุนงง คือเหมือนทุกอย่างยังไม่สุด แต่ก็บอกไม่ได้ว่าอย่างนั้นคืออะไร มันเหมือนกับว่า ท้องฟ้ามืดครึ้ม ทำท่าเหมือนฝนจะตก แต่สุดท้ายก็อาจจะไม่ตก เหมือนเอาแน่เอานอนไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้ข้าพเจ้ายังมีเรื่องให้คิดมาก อย่างการหาที่ฝึกงานอยู่ เลยทำให้ทุกอย่างมันดูสับสน งุนงงไปหมด

แต่ทั้งหมดทั้งมวลในบรรดาความสับสน งุนงงของตัวข้าพเจ้า ทำให้ข้าพเจ้าค้นพบอยู่สิ่งหนึ่งคือ การทำให้พ่อแม่มีความสุข และสุขสบาย ท่านเหนื่อยกับเรามามากแล้ว เราควรจะตอบแทนบุญคุณท่านอย่างถึงที่สุด และพ่อแม่คือแรงบันดาลใจ ที่จะทำให้ข้าพเจ้าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีเป้าหมายอีกครั้งค่ะ

นางสาวปุณยาพร ประชานอก

ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายในการอบรม จำนวน ๑,๙๐๐ บาท ถ้วน หลังจากกรอกใบสมัครแล้วให้โอนค่าใช้จ่ายตามรายละเอียดในใบสมัคร รับจำนวนจำกัดไม่เกิน ๑๔ คนต่อรอบ โดยค่าใช้จ่ายนี้จะร่วมสนับสนุนให้เยาวชนคนอื่นที่ได้รับทุนจากสถาบันฯ ได้ร่วมการอบรมด้วย ค่าลงทะเบียนในการอบรมรอบนี้ เมื่อหักค่าใช้จ่ายและค่าวิทยากรแล้ว นำไปใช้ในโครงการเพื่อการกุศล ดังนี้

  1. โครงการ สังฆทานอ่านเขียน ประจำปี ๒๕๖๑
  2. โครงการ ตู้หนังสือเพื่อเด็กยากไร้และชุมชน
  3. โครงการ เขียนคลายทุกข์ กิจกรรมให้คำปรึกษาและการอบรมตามบริจาค

โดยสถาบันฯ ไม่รับเงินทุนสนับสนุนจากองค์กรใดแต่ใช้ทุนส่วนตัวของครูโอเล่และรายได้จากการอบรมทั้งสิ้น

อ่านรายละเอียด กิจกรรมโครงการเพื่อการกุศล ได้ที่ www.dhammaliterary.org/โครงการเพื่อการกุศล/

วิทยากร

ครูโอเล่ อนุรักษ์ เม่นหรุ่ม C.Ht

ผู้อำนวยการสถาบันธรรมวรรณศิลป์ ผู้สอนหลักสูตร “เขียนเปลี่ยนชีวิต” ผ่านหลายหัวข้อชุดอบรม และ หลักสูตรอื่นๆ อาทิ “ห้องเรียน พลังแห่งจิต” “เด็กน้อยภายใน” “ห้องเรียน นักกล้าฝัน” แก่บุคคลหลากหลายอาชีพ ทั้งในการอบรมแบบเปิดและการอบรมในกลุ่มเฉพาะตามรับเชิญ
มีความถนัดด้านการให้คำปรึกษา การพัฒนากระบวนการคิด และการบำบัดเยียวยา

ผู้เขียนคอลัมน์ออนไลน์ “ไกด์โลกจิต” และผู้ร่วมศึกษาการเขียนเพื่อส่งเสริมสุขภาวะผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ HIV

Advanced Hypnotherapy Training Course , Certified Hypnotherapist ( C.Ht )
Intermediate NLP Training Course
Past Life Regression Therapy Training Course
Acting Your Inner Music
Awakening Leadership and Training of Trainer (Process Work Course 3)
Voice Dialogue Foundation

สอบถามเพิ่มเติม

[email protected] , 086-3197882 (มุก ผู้ประสานงาน)
อ่านศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรเขียนเปลี่ยนชีวิต
www.dhammaliterary.org/เขียนเปลี่ยนชีวิต/

รายละเอียดค่ายและข้อความเชิญชวน เป็นข้อความที่ผู้จัดค่ายเขียนขึ้นและส่งมาให้ทางแคมป์ฮับ โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจสมัครค่าย
กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

พี่ฟิวส์

พี่ชื่อฟิวส์ ตอนนี้จบวิศวเคมี บางมดแล้ว ตอน ม.ปลาย ก็เป็นเด็กล่าค่ายประมาณนึงเลย พูดเลยว่า "ถ้าไม่ได้เข้าค่าย ก็ไม่ได้มาทำ CAMPHUB นะ" อยากให้น้องๆ หาโอกาสไปลองเข้าค่าย ทำกิจกรรมกันดูนะ เผื่อเราจะได้เจอคำตอบว่า "เราอยากเรียน อยากทำสิ่งๆ นี้ จริงๆ มั้ย?"