บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน)
ALL ABOUT ค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Power Green Camp)
- ค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม โดยบมจ. บ้านปู และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล สำหรับน้องๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่หัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ระดับชั้นม.ปลาย (ไม่จำกัดแผนการเรียน)
- ค่ายฯ ครั้งที่ 16 ในปีนี้ได้จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์เป็นครั้งแรก ภายใต้หัวข้อ “ECO Living & Learning – เปลี่ยนปรับสู่กรีนไลฟ์สไตล์ ตอบรับ New Normal” เสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด
- เรียนรู้แนวทางการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผสมผสานทั้งภาคทฤษฎีและการลงมือปฏิบัติจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งอุปกรณ์ชุดทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ค่ายฯ จัดส่งให้ถึงบ้าน
สวัสดีฮะน้องๆ ชาวค่าย ช่วงนี้จะเห็นได้ว่าใครๆ ก็พูดถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมถึงวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้น้องๆ หลายคนต้องเรียนออนไลน์และใช้ชีวิตกับการทำกิจกรรมที่บ้านกันอยู่ทุกวัน
บทความพิเศษวันนี้ พี่ช้าง เลยจะพาน้องๆ ไปทำความรู้จักค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ปีที่ 16 (Power Green Camp 16) พร้อมพูดคุยกับตัวแทนเยาวชนค่ายฯ ถึงความรู้สึก และประสบการณ์การเข้าค่ายฯ ในรูปแบบออนไลน์ที่เหมือนกับยกห้องแล็บฯ มาไว้ที่บ้าน ถ้าอยากรู้ว่าจะสนุกสนานอย่างไรก็ไปดูกันเลย ~
ทำความรู้จัก Power Green Camp 16
Power Green Camp 16 จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล ภายใต้หัวข้อ “ECO Living & Learning – เปลี่ยนปรับสู่กรีนไลฟ์สไตล์ ตอบรับ New Normal” ซึ่งปีนี้มีความพิเศษกว่าปีที่ผ่านๆ มา คือ เป็นปีแรกที่เปิดรับสมัครน้องระดับชั้นม.ปลายไม่จำกัดแผนการเรียน และเปลี่ยนรูปแบบการจัดค่ายฯ เป็นแบบออนไลน์ แต่อัดแน่นไปด้วยกิจกรรมการเรียนรู้มากมายในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งต้องขอบอกว่าน้องๆ ยังคงได้ประสบการณ์ปังๆ กลับไปเหมือนเดิมนะ
วัตถุประสงค์ของค่ายฯ คือ เปิดโอกาสให้น้องๆ เยาวชนที่สนใจด้านสิ่งแวดล้อมได้เรียนรู้แนวทางการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นมิตรกับธรรมชาติ ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทุกคนใช้เวลากับการทำกิจกรรมภายในบ้านมากขึ้น ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผสมผสานทั้งภาคทฤษฎี และการลงมือปฏิบัติที่จัดขึ้นตลอดช่วงวันหยุดและช่วงสุดสัปดาห์ระหว่างวันที่ 16 ตุลาคม – 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา (กิจกรรมการเรียนรู้แน่นมากกก)
เริ่มต้นด้วยการปูพื้นฐานนักวิทย์
กิจกรรม Transformative Learning ที่น้องๆ ได้ฝึกฝนด้าน Soft Skill เช่น ความคิดสร้างสรรค์ และการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานสำหรับการเรียนรู้เชิงวิทยาศาสตร์ พร้อมกับทำความรู้จักเพื่อนใหม่ใน ค่ายฯ ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเรียนรู้กว่า 1 เดือนร่วมกัน
ยกห้องแล็บฯ มาไว้ที่บ้าน สร้างประสบการณ์เรียนออนไลน์แบบไร้ขีดจำกัด
หนึ่งในไฮไลท์ของค่ายฯ คือ การให้น้องๆ ได้เรียนรู้จากการลงมือทำด้วยตนเอง ค่ายฯ ได้จัดส่งอุปกรณ์การทดลองที่มีมาตรฐาน สามารถนำไปใช้ต่อในครัวเรือนได้จริง 3 ชุดมูลค่ารวม 10,000 บาท ไปให้น้องๆ ในค่ายฯ ทุกคนฟรีถึงที่บ้าน เพื่อทำให้การเรียนออนไลน์แตกต่างจากที่เคย โดยมีหัวข้อการเรียนรู้ดังนี้
- “ดักต่อไม่รอแล้วนะ” เรียนรู้องค์ประกอบของน้ำเสีย วิธีการบำบัดน้ำเสีย พร้อมประดิษฐ์ถังดักไขมันทีสามารถนำไปใช้ได้จริงในครัวเรือน
- “Food Waste Transformation” เรียนรู้ประเภทขยะ การจัดการขยะแต่ละประเภทให้ถูกวิธี และการเปลี่ยนสภาพจากขยะอินทรีย์ให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์แบบไม่ใช้อากาศ พร้อมลงมือปฏิบัติ
- “มีอยู่จริงหรือเปล่า….?” เรียนรู้องค์ประกอบและคุณสมบัติของดิน และการวิเคราะห์แร่ธาตุ สารอาหารต่างๆ ที่อยู่ในดิน รวมถึงได้สำรวจคุณสมบัติของดินในบ้านด้วยชุดการทดลองทางวิทยาศาสตร์
สร้างแรงบันดาลใจ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลและมีความสุข
หลังจากได้ความรู้กันมาแน่นปึ้กแล้ว ค่ายฯ ก็ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ เห็นแนวทางในการนำความรู้ไปปรับใช้ในบริบทชีวิตของตนเองได้จริง ผ่านกิจกรรม Eco-living Talk ที่ได้ชวนพี่แพท วง Klear ที่หันมาทำสวนออแกนิกส์เป็นงานอดิเรก มาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับแนวทางการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเป็นมิตรในวิธีที่ไม่เคร่งครัดหรือยากจนเกินไป
นอกจากนี้ ยังมีพี่กอล์ฟ สมโภช ผู้เชี่ยวชาญด้าน Smart City จากบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด มาร่วมแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีมาเชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ระดับชุมชนให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่บ้านปู เน็กซ์กำลังต่อยอดในเชิงธุรกิจ เพื่อให้เยาวชนได้เห็นถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่พึ่งพาพลังงานสะอาดมากขึ้น รวมไปถึงการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ให้สามารถช่วยผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคนในชุมชนไปพร้อมๆ กัน
เรียนรู้-สู่การปฏิบัติ
ปิดท้ายด้วยกิจกรรมสุดท้าย คือ การประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเพื่อชิงทุนการศึกษารวม 100,000 บาท โดยเยาวชนในค่ายฯ ทั้ง 40 คน ได้แบ่งกลุ่มในจำนวนเท่าๆ ทั้งหมด 10 กลุ่ม ร่วมกันสร้างสรรค์แนวคิดการใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการกลั่นกรองและตกผลึกความรู้ทั้งหมดที่ได้รับจากค่ายฯ พร้อมทั้งนำเสนอแก่คณะกรรมการค่ายฯ และสาธารณชนผ่านแฟนเพจค่ายฯ ถือว่าได้นำทักษะการนำเสนอให้ชนะใจผู้ฟังที่น้องๆ ได้เรียนรู้เพิ่มเติมในค่ายฯ มาฝึกฝนและใช้งานจริง
ผลการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
- รางวัลชนะเลิศอันดับ 1 รับทุนการศึกษามูลค่า 50,000 บาท ได้แก่ ทีม EVIF กับโครงงานฯ “Can’t wait” ที่มาพร้อมกับแนวคิดการสร้างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคจาก “ชานอ้อย” เช่น น้ำยาย้อมสีผม มาร์คบำรุงผิวหน้า ลิปบาล์ม ซึ่งนอกจากจะยกระดับผลผลิตทางการเกษตร ลดปัญหาการเผาทำลายใบอ้อยที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ด้วยส่วนผสมจากธรรมชาติที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคอีกด้วย
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 รับทุนการศึกษามูลค่า 30,000 บาท ได้แก่ ทีม Miracle Rhizome กับโครงงานฯ “เหง้ามัน HPL” ที่มีแนวคิดในการนำเหง้ามันสำปะหลัง มาใช้เป็นวัสดุทดแทนไม้ เพื่อลดปริมาณการตัดไม้ทำลายป่า
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 รับทุนการศึกษามูลค่า 20,000 บาท ได้แก่ ทีม BEVA กับโครงงานฯ “Adiós plástico – บ๊ายบายนะ น้อนพลาสติก” ที่มีแนวคิดในการนำเหง้ามันสำปะหลัง มาผลิตเป็นกล่องสำหรับขนส่งต้นไม้ มุ่งลดปริมาณการใช้พลาสติกที่ต้องใช้ระยะเวลาในการย่อยสลายยาวนาน
- รางวัลขวัญใจมหาชน (Popular Vote) จำนวน 1 รางวัล รางวัลละ 10,000 บาท ได้แก่ทีม SETZERO กับโครงงาน “SETZERO-33” ที่มีแนวคิดในการนำซิลิกาจากแกลบมาปรับปรุงคุณภาพน้ำ
- รางวัลชมเชย จำนวน 7 รางวัล รางวัลละ 6,000 บาท
เพื่อนๆ สามารถรับชมเทปบันทึกการนำเสนอโครงงานฯ ของทั้ง 10 ทีมย้อนหลังที่เพจ PowerGreen Camp ได้เลยครับ
นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสาย – สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แม้ว่าในปีนี้เป็นปีแรกที่ค่ายฯ จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ แต่เราได้พยายามให้น้องๆ สามารถเก็บเกี่ยวความรู้ไปให้ได้มากที่สุดไม่ต่างจากการเข้าค่ายฯ ในรูปแบบปกติ จึงได้ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย ซึ่งมีทั้งภาคทฤษฎีที่เป็นความรู้พื้นฐาน และได้เพิ่มเติมการเรียนรู้จากการลงมือทำ เพื่อให้น้องๆ ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่แตกต่างจากการเรียนออนไลน์แบบเดิม ซึ่งค่ายฯ ในครั้งนี้ เรามุ่งหวังให้เยาวชนได้เรียนรู้แนวทางการใช้ชีวิตร่วมกับสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นมิตรในยุค New Normal ที่สามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากตนเอง จากนั้นก็ค่อย ๆ ส่งต่อความรู้ไปยังครอบครัว คนใกล้ชิด โรงเรียน ชุมชน และสังคม ให้ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และการปรับตัวเพื่ออยู่อาศัยร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
ความประทับใจและเรื่องราวที่ชาวค่ายฯ อยากจะบอก
หลังจากน้องๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายฯ มามากมายภายในระยะเวลากว่า 1 เดือน ก็ถึงเวลาที่น้องๆ จะมาแชร์ความรู้สึกและความประทับใจจากค่ายฯ กันแล้ววววว
เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย กับรีวิวและกิจกรรมต่างๆ ใน Power Green Camp ตอนนี้ ~
สำหรับน้องๆ ที่สนใจค่ายนี้สามารถติดตามข่าวสารของค่ายเพาเวอร์กรีนได้ที่เพจ ได้เลยครับ และถ้า Power Green Camp 17 เปิดรับสมัครเมื่อไหร่ แคมป์ฮับ จะรีบมารายงานให้น้องๆ รู้กันให้เร็วที่สุดเลย!
อ่านบทความและรีวิวค่าย Power Green Camp ปีที่ผ่านมา
ติดตามค่าย Power Green Camp
เว็บไซต์ค่าย สอบถามพี่ค่ายทาง Facebook Twitter @powergreencamp
เขียนโดย: พี่ช้าง CAMPHUB
ขอบคุณรูปภาพ: บมจ.บ้านปูฯ และคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล