ALL ABOUT P’KHRIT CUTE CHEF
- พี่กริช เป็นสมาชิกของ CUTE CHEF ไอดอลชายหน้าใหม่ที่น่าจับตามองในขณะนี้
- พี่กริชเป็นเด็กซิ่ว โดยซิ่วจาก “วิทยาศาสตร์เคมี” มาเรียน “วิศวกรรมเคมี” ทำไมถึงซิ่วและ 2 คณะนี้มีความแตกต่างกันยังไง อ่านต่อด้านล่าง
- เราสามารถเรียนและทำงานไปพร้อมๆ กันได้ แต่เราจะต้องแบ่งเวลาให้ดี ลองดูพี่กริชเป็นตัวอย่างก็ได้นะ
- ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำคัญยังไง จำเป็นขนาดไหน พี่กริชจะเล่าให้เราฟังกันในแคมป์ไอดอล EP นี้ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
สวัสดีชาวแคมป์ฮับทุกคนจ้า วันนี้พี่ดรีมจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับแคมป์ไอดอลคนล่าสุดของพวกเรา ซึ่งแคมป์ไอดอลคนนี้เป็นไอดอลจริงๆ ด้วย ไปพบกับพี่กริช CUTE CHEF ไอดอลหน้าใหม่ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเรียนและการเป็นไอดอลกันเลย!
แนะนำตัวหน่อย
สวัสดีครับผมกริช CUTE CHEF ณัฐวีรัช พงศ์ศศิเดชน์ครับ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 3 วิศวะเคมีหลักสูตรอินเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีครับ
ชีวิตมหาลัยของกริช
กริชเป็นเด็กซิ่ว?
ใช่ครับ ตอนแรกกริชเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมีมาก่อน กริชเลือกเรียนคณะนี้เพื่อรอสอบเข้าหมอครับ แต่ด้วยเวลาเรียนและกิจกรรมที่หนักพอสมควร ซึ่งทำให้เราแบ่งเวลาได้ยากขึ้น จนสุดท้ายไปสอบหมอแต่ก็ไม่ติด เลยมองหาคณะอื่นที่เหมาะกับตัวเรา ก็เลยเลือกที่จะเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จนในที่สุดมาลงเอยที่ วิศวกรรมเคมีหลักสูตรอินเตอร์ครับ
ทำไมถึงเลือกเรียนวิศวะเคมี หลักสูตรอินเตอร์?
อันดับแรกเลยกริชเรียน Bilinguals (หลักสูตร 2 ภาษา) มาตลอด ตอนเรียนคณะวิทยาศาสตร์ เคมี Lecture เป็นภาษาอังกฤษหมดก็จริง แต่การบรรยายของอาจารย์เป็นภาษาไทยรวมถึงเวลาทำรายงานก็เป็นภาษาไทยซะส่วนใหญ่ เมื่อไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษบ่อยก็อาจจะทำให้ลืมไปบ้าง เช่นเขียน Essay (เรียงความภาษาอังกฤษ) จากเดิมที่กริชเคยเขียนได้คล่องกลับต้องใช้เวลามากกว่าเดิม กริชเลยรู้สึกว่าภาษาอังกฤษพอไม่ได้ใช้มันก็มีส่วนทำให้ลืมเหมือนกัน ตอนแรกหัวดื้อไม่อยากซิ่ว ไม่อยากเสียเวลาเริ่มต้นใหม่ แต่การที่เราเรียน Bilinguals มา 15 ปี ทำให้กริชรู้สึกเสียดายภาษาอังกฤษที่เราสะสมมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยเปลี่ยนความคิดใหม่ ตอนแรกกริชอยากเป็นหมอใช่ไหมครับ แต่พอไม่เป็นไปตามที่เราหวังไว้ เลยเลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรอินเตอร์ครับ
ซิ่วจากวิทยาเคมี มาวิศวะเคมี เราชอบเคมีรึเปล่า?
ตอนที่กริชเข้าปี 1 กริชชอบเคมีและรู้สึกโอเคกับมันมากกว่าฟิสิกส์กับชีวะ เคมีมีทั้งภาคทฤษฎีและคำนวณ ส่วน ชีวะจะมีทฤษฎีและรายละเอียดเยอะ และในส่วนของฟิสิกส์จะเน้นไปทางคำนวณเลย กริชว่ามันขึ้นอยู่กับความชอบว่าเราอยากเรียนอันไหนมากกว่า ส่วนตัวกริชโอเค กับเคมีมากสุดเพราะมีทั้ง 2 ส่วนพอๆ กัน เลยเลือกเรียนสาขาที่เรียนเกี่ยวกับเคมีด้วยครับ
วิศวกรรมเคมีกับวิทยาศาสตร์ ภาคเคมี แตกต่างกันมั้ย?
ต่างกันครับ คนละเรื่องเลย ต้องพูดก่อนว่าวิศวกรรมเคมีไม่ได้เรียนเคมีเจาะลึกเท่ากับวิทยาศาสตร์เคมี วิศวกรรมเคมีเราจะเน้นให้เข้าใจถึงการออกแบบและควบคุมการทำงานทางเคมี พอเรียนในชั้นปีที่สูงขึ้นวิชาเรียนส่วนใหญ่จะเป็นฟิสิกส์ และวิชาของวิศวกรรมขึ้นกับสาขาที่เรียนมากกว่า แต่ถ้าเป็นวิทยาศาสตร์เคมี จะเรียนเคมีควบคู่กับการทำแลป เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีตามหลักเคมี แต่ถ้าพูดถึงบางมดเกือบทุกคณะจะเรียนแบบเจาะลึกและเน้นทฤษฎีพร้อม การปฏิบัติควบคู่กันไปด้วย
จะรู้ได้ยังไงว่าเราเหมาะกับวิทยาศาสตร์เคมีหรือวิศวะเคมี?
ใครชอบเคมี ชอบการทดลอง อยากรู้ทฤษฎี กริชแนะนำให้วิทยาศาสตร์เคมี เพราะทางวิศวกรรม เราไม่ได้เจาะลึกเนื้อหาทางเคมีเท่าวิทยาศาสตร์เคมี เรียนแค่ตัวพื้นฐาน นอกนั้นจะเป็นฟิสิกส์ประยุกต์ และวิชาตามสาขาของวิศวกรรมมากกว่าครับ
CUTE CHEF และวงการบันเทิง
เข้าวงการได้ยังไง เล่าให้พวกเราฟังหน่อย
เริ่มแรกกริชทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยเริ่มจากการเป็นคทากรมหาวิทยาลัย และทาง CUTE CHEF เห็นเราจากรูปและโปรไฟล์ต่างๆ กริชเลยได้มีโอกาสมาถ่าย MV เพลงมะงึกๆ อุ๋งๆ (Haguttokyuukyuu) ซึ่ง MV ตัวนี้ก็เป็นผลงานแรกของ CUTE CHEF ด้วยครับ
CUTE CHEF เป็นเชฟหรือเป็นไอดอล?
CUTE CHEF เป็นกลุ่มไอดอล ชาย 16 คน ที่แต่ละคนมีเอกลักษณ์ ความชอบ และเสน่ห์ที่แตกต่างกันครับซึ่งเหมือนกับอาหาร ที่แต่ละจานจะมีความอร่อย และ ความโดดเด่นเฉพาะตัว CUTE CHEF จะมอบความรัก และปรุงความสุข ให้กับคนดู การที่เราจะเสิร์ฟความสุขให้คนดูได้ เราต้องคอยฝึกซ้อมและพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เหมือนกับการทำอาหารครับ เพราะ รสชาติ จะออกมาดีได้นั้น ต้องเกิดจากการ ใส่ใจ และ ความตั้งใจครับ
ทำไมถึงเลือกเปิดตัวด้วยเพลงมะงึกๆ อุ๋งๆ ?
ต้องเล่าก่อนว่าเพลงนี้เกิดจากพี่ต๊อบ พี่เขาเป็นแฟนคลับของอรอุ๋ง BNK48 พี่ต๊อบแต่งเพลงนี้ให้ อร BNK48 และก็เป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จด้วย CUTECHEF ไม่ได้เลือกเพลงนี้มาเพราะมองว่าเพลงนี้เป็นกระแส แต่ เรามองว่าเพลงนี้เกิดจากความรัก สำหรับกริชคิดว่า ถ้าพี่ต๊อบไม่รักหรือปลื้ม อร BNK48 เพลงนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นและเป็นที่นิยมจนถึงทุกวันนี้เราจึงเลือกเพลงนี้เพราะผู้ชายคนนี้ เขาได้มอบแรงบันดาลใจให้พวกเราได้เห็นว่า ถ้าเรามอบความรักความจริงใจและความตั้งใจในการทำอะไรซักอย่าง ผลที่ได้ออกมาจะดีแน่นอน
ถ้าเรามอบความรักความจริงใจและความตั้งใจให้กับการทำอะไรสักอย่าง ผลลัพธ์มันจะออกมาดี
คิดว่าไอดอลคืออะไร?
อารมณ์แบบเราปลื้มรุ่นพี่มั้งครับ แบบทำไมรุ่นพี่คนนี้เท่จังเลย สำหรับกริชนะ ไอดอลเขาจะต้องเป็นคนที่เป็นแบบอย่างได้ในด้านใดด้านหนึ่งที่เป็น เอกลักษณ์หรือเสน่ห์ของเขา และที่สำคัญต้องเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้คนคนหนึ่งมีกำลังใจในการทำอะไรให้สำเร็จซักอย่างหนึ่ง
ไอดอลแบบไหนที่กริชอยากเป็น?
อยากให้มองว่าเราเป็นคนที่คอยพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ อย่ารอให้โอกาสมาหาเราบางทีเราก็ต้องทำตัวให้พร้อมสำหรับโอกาสนั้นด้วย อื่นๆคงจะเป็นรู้จักกาลเทศะวางตัวดี ทำหลายอย่างในชีวิตได้ดี อยากให้เขาเห็นว่าเราทำได้ดีทั้งงานและเรียน อาจจะไม่ใช่ที่สุด แต่ก็อยากให้เขามองเห็นถึงความพยายามของเรามากกว่าและรักในตัวตนของเรา สุดท้ายเป็นคนหล่อที่ติดตลกด้วยก็ดีนะครับ
การทำงานและเรียนไปพร้อมๆ กัน
เรียนเราก็ต้องเรียน งานเราก็ต้องทำ เรื่องเรียนเราจะทิ้งไม่ได้
ชีวิตที่ต้องทำงาน CUTE CHEF และเรียนไปด้วยเป็นยังไง
แอบหนักอยู่นะครับ กริชเลือกที่จะทำงานและเรียนไปด้วย กริชว่ามันท้าทายตัวเองนะ จากที่เราเรียนเสร็จ กลับบ้านนอน เรียนเสร็จไปเที่ยว แต่ตอนนี้เราต้องเรียนและทำงาน มันเหมือนเราต้องจัดการตัวเองให้ดีขึ้น บางทีเราก็พักผ่อนน้อยมาก อย่างตอนสอบมิดเทอมก็มีทำงาน เราก็ไม่ได้นอนนะทำงานอ่านหนังสือแล้วไปสอบเลย หลังๆกริชก็ต้องจัดการตัวเองและจัดการเวลาให้ดีมากขึ้น จากปกติเราเรียนอย่างเดียว พอกริชเริ่มทำงานก็แพลนตารางล่วงหน้าอาทิตย์หนึ่ง พอมีงานหรือเรียนหนักขึ้นเราก็ต้องแพลนมากขึ้น เรียนเราก็ต้องเรียน งานเราก็ต้องทำ เรื่องเรียนเราจะทิ้งไม่ได้เหมือนกัน
ที่บ้านว่าไงบ้าง?
ที่บ้านสนับสนุนครับ ตอนแรกกริชก็คิดว่าที่บ้านอยากให้มุ่งเรียนอย่างเดียว แต่พอเรามีโอกาสได้ทำงานตรงนี้ ครอบครัวกริช เค้าก็สนับสนุนนะครับ ให้เราทำโอกาสที่เราได้รับมาให้เต็มที่ เพราะมีอีกหลายคนที่เขาอยากได้โอกาสแบบนี้ กริชเลยคิดว่าเราน่าจะเรียนรู้และพัฒนาจากโอกาสที่ได้รับ
แบ่งเวลายังไง?
กริชพยายามแบ่งให้มันเท่ากัน อย่างเราเรียนวิศวกรรมเคมีถ้าเราไม่ให้เวลากับมัน เราเรียนไม่รอดแน่นอน ใช้คำว่า วางไว้ก่อนเดี๋ยวมาอ่านแทบจะไม่ได้เลย ต้องให้เวลากับมัน ถึงเราลาไปทำงานเราก็ต้องมาตามอ่าน เพราะเวลาที่เราไปทำงาน เพื่อนเขาก็เรียนกัน เพื่อนกริชขยันมากด้วยสิ เราเลยรู้สึกว่าเราต้องใส่ใจให้มากขึ้น
เรียนจบแล้วจะทำงานสายไอดอลเต็มตัวเลยมั้ย?
ส่วนตัวกริชคิดว่าแล้วแต่โอกาสและจังหวะของชีวิตในช่วงนั้นๆ นะครับ เพราะอะไรก็ไม่แน่ไม่นอน
ถ้าไม่ได้เป็นไอดอล กริชจะทำไรหลังเรียนจบ?
กริชคิดออยู่ว่าเราจะทำงานวิศวะ แบบวิศวะ 100% ไปเลยดีมั้ย หรือเราจะไปสายอื่นดี หลังๆ วิศวะสายตรงส่วนใหญ่เรียนต่อเป็นอาจารย์หรือสาย Pure Engineer ไปเลย อีกสายคือถ้าเรารู้เรื่องธุรกิจเรื่องการเงินการตลาดด้วย เราสามารถเป็น Consult (ที่ปรึกษาทางธุรกิจ) ได้ เราจะทำอะไรได้มากกว่า ตามจริงเราเข้าวิศวะแล้วเราได้ Logic การคิดเยอะมาก แน่นมากจริงๆ ซึ่งการมี Logic ที่ดีมันก็ทำให้เราไปทำงานอะไรได้หลายอย่าง กริชอยากลองทำงานที่ยากๆ ก่อน เพราะอยากเตรียมตัวให้ดี ดีกว่าไปเจองานหนักตู้มเดียวเลย ถ้าเลือกได้ทำงานร่วมกับบริษัทต่างประเทศ อยากมีโอกาสเติบโตในต่างประเทศ เราจะได้ใช้ภาษา ได้ทำงานกับชาวต่างชาติ ได้มุมมองที่แตกต่างออกไป เราน่าจะได้มุมมองที่กว้างขึ้น
ภาษาอังกฤษสำหรับกริช
ย้อนกลับมาเรื่องเรียนนิดนึง เห็นกริชพูดถึงภาษาอังกฤษหลายครั้งแล้ว กริชคิดยังไงกับภาษานี้?
อย่างที่เล่าไปว่ากริชเรียนโรงเรียน 2 ภาษามาตั้งแต่เด็ก กริชว่าภาษาอังกฤษสำคัญมากนะเพราะมันเป็นภาษาสากล และเป็นเรื่องใกล้ตัว ทุกวันนี้เราใช้โทรศัพท์แอพพลิเคชั่นก็เป็นภาษาอังกฤษแล้ว ถ้าเรารู้ภาษาไทยเราก็จะทำอะไรได้ระดับหนึ่งใช่ไหมครับ แต่ถ้าเรารู้ภาษาอังกฤษด้วย เราก็จะมองอะไรได้ไกล ทำอะไรได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างให้ฟังหน่อยได้มั้ย?
เอาง่ายๆ อย่างเรื่องการสื่อสารนะ คนเราต้องมีสังคม มีสังคมต้องมีการสื่อสาร ถ้าเราสื่อสารได้ดี สื่อสารได้หลายภาษา เราก็จะรู้มุมมองของคนที่ใช้ภาษาอื่นๆ รู้ว่าเขาพัฒนาไปทางไหน การหาความรู้เดี๋ยวนี้มันง่ายมาก แค่เริ่มจากการพูดคุยก็สามารถแลกความรู้กันได้แล้วอ่ะครับ อีกตัวอย่างที่น่าจะใกล้ตัวมากๆ เลยก็คือการหาความรู้ผ่านอินเทอเน็ตเนี่ยแหละ ถ้าคุณหาเป็นภาษาไทยก็จะได้ข้อมูลที่คนไทยเขียน แต่ถ้าลองหาเป็นภาษาอังกฤษเราก็จะได้ข้อมูลที่คนทั้งโลกเขียนเลย เราจะได้ความรู้ที่มันกว้างกว่าเดิมมากๆ
ไม่ชอบภาษาอังกฤษเลยทำไงดี?
เข้าใจว่าบางคนไม่ชอบภาษาอังกฤษเลย แต่เราอยู่ในระบบการศึกษาไทยเนอะ ยังไงมันก็ต้องมีเรียนวิชานี้แหละ อันดับแรกอยากให้ลองเปิดใจ ลองรู้สึกกับมัน เริ่มจากการฟังเพลงภาษาอังกฤษ หรือดูหนังเรื่องที่เราชอบเป็นภาษาอังกฤษ คิดซะว่าการเรียนภาษาอังกฤษเหมือนการที่เราเริ่มชอบใครสักคนดู เวลาชอบใครแรกๆ เรายังค่อยๆ เปิดใจดูใจกับเขาได้เลย กลับกันเราลองไปชอบภาษาอังกฤษดูดิ เราก็จะเริ่มมองหา Activity ภาษาอังกฤษมาทำละ อาจจะเริ่มจากอะไรง่ายๆ อย่างฟังเพลง ดูหนังภาษาอังกฤษ การที่เรารู้ภาษาอังกฤษมันทำให้มุมมองเราเปิดกว้างมากขึ้นนะ เพราะเราสามารถแลกเปลี่ยนความรู้หรือหาความรู้เพิ่มได้ง่ายขึ้น ลองเปิดใจหน่อย ถ้าไม่ชอบก็ลองเริ่มต้นด้วยการหากิจกรรมที่เราชอบ แต่ลองทำมันด้วยภาษาอังกฤษดู เริ่มจากอะไรที่มันอยู่มนชีวิตประจำวันของเรา ค่อยๆ ทำทีละนิดทีละหน่อย เราก็จะเปิดรับมันได้มากขึ้นเองครับ
ฝากผลงานกับชาวแคมป์ฮับหน่อย
ขอขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามและขอบคุณพี่ๆ แคมป์ฮับที่มาสัมภาษณ์กริชนะครับ ตอนนี้พวกเรา CUTE CHEF ก็ปล่อยเพลงแรกออกมาแล้ว อยากจะบอกว่ากริชและเพื่อนๆ CUTE CHEF ทุกคน ไม่ได้เริ่มจาก 100 แต่พวกเราเริ่มจากติดลบ ตอนแรกเราร้องไม่เก่ง เต้นไม่ได้ แต่เราก็ตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่ ตอนนี้ก็มี MVตัวใหม่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 28 พฤศจิกายน นี้ครับชื่อเพลง “ นะนะน้า เนี้ย ” สุดท้ายพวกเราพยายามมากเพื่อให้ทุกคนได้ชมผลงานที่ดีอยากให้เป็นกำลังใจ และคอยติดตามพัฒนาการของพวกเราด้วยนะครับ
ติดตามผลงาน CUTE CHEF ได้ทาง Facebook, Instagram, Twitter : cutechef_thailand
ติดตามกริชได้ทาง : Instagram : khrit.ntwr Facebook: Nutwerach Phongsasidett
สำหรับแคมป์ไอดอล EP นี้ก็จบลงแล้ว ใครที่อ่านตั้งแต่ต้นจนจบก็น่าจะได้แนวคิดดีๆ จากพี่กริชไปหลายอย่างเลยเนอะ ทั้งเรื่องการเลือกคณะเรียน การเป็นเด็กซิ่วเพื่อที่จะได้เรียนในคณะที่ตรงกับความชอบของเรา ไปจนถึงการแบ่งเวลาในการเรียนและการทำงาน น้องๆ ลองเอาไปปรับใช้กับตัวเองดูนะ ส่วนอีกเรื่องที่พี่กริชและพี่ดรีมคิดเหมือนกันเลยคือเรื่องภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ ใครที่ยังไม่ชอบภาษาอังกฤษอยู่ ก็ลองเปิดใจและทำตามวิธีที่พี่กริชแนะนำดู รับรองว่าช่วยได้แน่นอนจ้า สำหรับวันนี้พี่กริช พี่ดรีมและแคมป์ฮับขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกันในแคมป์ไอดอลตอนหน้าจ้า <3
แคมป์ไอดอล กริช ณัฐวีรัช พงศ์ศศิเดชน์
บทความ พี่ดรีม แคมป์ฮับ
ประสานงาน พี่ฟิวส์ แคมป์ฮับ
เสื้อผ้า พี่โบ๊ช แคมป์ฮับ
ถ่ายภาพ พี่ซัน แคมป์ฮับ
กราฟิก พี่อัยย์ แคมป์ฮับ
ขอขอบคุณสถานที่ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์