ติ๊ง!! “แคมป์ไอดอล” มาเสิร์ฟแล้วจร้าาา พบกันอีกครั้งกับ พี่โอ และพบกันครั้งแรกกับ พี่เหมี่ยว ฝากเนื้อฝากตัวด้วยเน่อออ อิอิ เริ่มต้นเดือนแห่งความรักทั้งที วันนี้พี่เหมี่ยว ขอทำหน้าที่พาน้องๆ ไปรู้จักกับพี่ค่ายหนุ่มหล่อ สุดเฟรนลี่ ที่ถ้าใครได้ดูคลิป Happy New Year 2017 กับ “แคมป์ฮับ” และพี่ๆ “วิศวเคมี ม.เกษตร” แล้วจะต้องคุ้นหน้าแน่นอน จะเป็นใครไปไม่ได้…นอกซะจาก “พี่เบิร์ด” พี่ค่ายขจีแคมป์ จากรั้ววิศวเคมี ม.เกษตรนั่นเอง
วันนี้น้องๆ จะได้ทำความรู้จักตัวตนของ “พี่เบิร์ด” แบบอินไซต์สุดๆ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวการเข้าค่ายสุดประทับใจ ชีวิตการเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ รวมไปถึงไลฟ์สไตล์สุดแหวกในวันว่างๆ บอกไว้ก่อนว่าห้ามพลาดแม้แต่บรรทัดเดียว ถ้าคุณพลาด…คุณก็พลาด แอแฮร่~
พี่เหมี่ยว – สวัสดีค่าพี่เบิร์ด…ก่อนอื่นเลยอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้พี่เบิร์ดเลือกเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่ม.เกษตรคะ
พี่เบิร์ด – ก็ตอน ม.ปลาย พี่ชอบวิชาฟิสิกส์ พอเรียนแล้วเข้าใจ แล้วรู้สึกว่าโอเคเลย นี่คือเหตุผลแรก แต่ทีนี้ แน่นอนว่าตอนนั้นพี่ก็ยังหาตัวเองไม่เจอว่าเราถนัดด้านไหน พี่ก็เลยเล็งวิศวกรรมศาสตร์ ที่เป็นวิศวกรรมรวมอะครับ แต่มีแค่สองที่ในประเทศไทย คือเกษตรศาสตร์และจุฬาฯ แต่พี่เลือกเกษตรศาสตร์ เพราะพี่เคยมาดูมหาวิทยาลัย ตอนติวแบรนด์ และก็ได้มีโอกาส มาเยือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ เอาความรู้สึกแรกเลยครับ มันใช่ มันโอเค ดูเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่นยังไงก็บอกไม่ถูก
พี่เหมี่ยว – แล้วทำไมถึงเลือกเรียนสาขาวิศวกรรมเคมีหรอคะ
พี่เบิร์ด – เพราะพี่ว่าเรื่องของไหลและความร้อนค่อนข้างโอเคกับพี่ (วิศวกรรมเคมี ไม่เน้นวิชาเคมีนะครับ ถ้าชอบวิชาเคมีพี่แนะนำวิศวกรรมวัสดุ ครับ ?)
พี่เหมี่ยว – อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้พี่เบิร์ดเป็นเด็กค่ายได้คะ
พี่เบิร์ด – ก็ด้วยความอยากรู้ อยากเห็นนี่แหละครับ อย่างเราอยู่ ม.ปลาย อย่างงี้ ก็อาจจะมีพี่ๆ มหาวิทยาลัยมาแนะแนว ทำให้เราพอนึกภาพตามของแต่ละคณะ ของแต่ละมหาลัยได้ แต่มันต่างออกไปนะกับการที่เราได้มาสัมผัสบรรยากาศ ความรู้สึกในค่ายต่างๆ อย่างจริงจัง ได้พูดคุยกะเพื่อนต่างสถาบัน มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำกัน เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ได้มาเห็นมหาวิทยาลัยกะตาตัวเองแบบที่คำพูดอีกสัก 100 ประโยค ก็ไม่ทำให้เห็นภาพแบบที่เรามาเจอเอง พี่ว่ามันเป็นโอกาสที่ดี สำหรับน้องๆ ม.ปลายที่อยากจะค้นหาตัวเองในการเรียนมหาวิทยาลัย ถือเป็นกำไรของเรามากเลยนะ ที่ได้มีโอกาสแบบนี้
คำพูดอีกสัก 100 ประโยค ก็ไม่ทำให้เห็นภาพแบบที่เรามาเจอเอง
พี่เหมี่ยว – เพราะอย่างนี้หรือเปล่า พอขึ้นมหาวิทยาลัยพี่เบิร์ดเลยมาเป็นพี่ค่าย
พี่เบิร์ด – เรียกอย่างงั้นก็ได้ครับ พอจังหวะและโอกาสมันเหมาะสม พี่ตอบตกลงคำชวนของเพื่อนพี่เลยที่ชวนมาทำค่าย นอกจากที่จะได้รู้จักน้องๆ แล้วก็อยากจะส่งต่อความรู้ ความสนุกสนาน ความรู้สึกดีๆ ที่พี่เคยได้รับ ให้กับน้องรุ่นต่อๆ ไปแบบที่ว่าทำค่ายเหนื่อยๆ ประชุมงานเครียดๆ ไม่ค่อยได้นอน แต่พอเห็นน้องๆ มีความสุข พี่ก็หายเหนื่อย และมีความสุขตามน้องๆ และครับ
พี่เหมี่ยว – โห หล่อมากค่ะ 555 แล้วการผันตัวจากน้องค่ายมาเป็นพี่ค่ายนี่ ความรู้สึกต่างกันมากมั้ยคะ
พี่เบิร์ด – โห ต่างมากครับ ที่น้องๆ เห็นหน้าพี่ยิ้มๆ กิจกรรมแต่ละอย่างที่ทำหรือสิ่งต่างๆ อะ มันผ่านการประชุม การถกเถียง วางแผน ว่าทำแล้วน้องจะโอเค น้องจะชอบหรือป่าว น้องจะเบื่อหรือป่าว ตอนเช้าๆ ที่เห็นพี่ๆ มารับน้องๆ มาพูดคุยกะน้อง บางทีพี่เค้าอาจจะยังไม่นอนก็ได้นะ 5555555 แต่ทุกอย่างที่ทุ่มเทก็เพื่อน้องๆ แหละครับ ถ้าพูดถึงความสุขความประทับใจ ที่ได้รับจากการทำค่าย อาจจะบอกว่ามันเป็นความสุขเหมือนกัน แต่มันคนละรสชาติอะครับ มันปลื้มปริ่ม มันปิติยินดี ก็ไม่รู้จะใช้คำไหนมาอธิบาย เอาเป็นว่าน้องๆ อาจจะมองพวกพี่เป็นเด็กเสพติดกิจกรรมนะ แต่ส่วนตัวพี่ไม่ได้เสพติดการทำกิจกรรม แต่พี่เสพติด “ความสุข” จากการทำกิจกรรมมากกว่า
พี่ไม่ได้เสพติดการทำกิจกรรม แต่พี่เสพติด “ความสุข” จากการทำกิจกรรม
พี่เหมี่ยว – เห็นพี่เบิร์ดไปออกค่ายบ่อย เคยมีประสบการณ์ฮาๆ รั่วๆ เกิดขึ้นบ้างมั้ย
พี่เบิร์ด – อันนี้ นึกไม่ออกเลยอะครับ นึกมาสักพักและ ยังนึกไม่ออกเลย 55555
พี่เหมี่ยว – 555555 นั้นแล้วเหตุการณ์ประทับใจตอนเป็นพี่ค่ายล่ะ พี่เบิร์ดคิดว่าเหตุการณ์ไหนน่าประทับใจที่สุด
พี่เบิร์ด – เรื่องที่พี่ประทับใจก็มีเยอะนะครับ แต่พี่จะขอเล่าเรื่องประทับใจหนึ่ง ที่เกิดกับรุ่นพี่คนนึงในชุมนุมวิชาการที่พี่อยู่ ……พี่เค้าชื่อพี่ฟ้าครับ ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ที่โรงเรียนสามร้อยยอดวิทยาคม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนนั้นพี่เค้าอยู่ชั้น ม.5 ทางโรงเรียนก็ได้แจ้งนักเรียนชั้น ม.ปลาย ช่วงปิดเทอมใหญ่
ว่าจะมีรุ่นพี่ชุมนุมวิชาการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะมาติวสรุปเนื้อหา ม.ปลาย สำหรับนักเรียนชั้น ม.4 ม.5 และ ม.6 และตลอดระยะเวลาค่ายกว่า 20 กว่าวันนั้น ที่น้องๆ และพี่ๆ ที่มาสอนหนังสือได้เจอหน้า ได้พูดคุย ได้ทักทาย เช้าก็สวัสดีตอนเย็นก็เดินไปส่งหน้าโรงเรียน น้องๆ ร้อยกว่าคนสนุกสนาน และดีใจมากๆ ที่ได้เลือกมาสอนที่โรงเรียนของเค้า แล้วก็ก่อเกิดเป็นมิตรภาพความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แม้กระทั่งจนตอนนี้เวลาผ่านไป 5 ปี
ตอนที่พี่ค่ายทุกคนในตอนนั้นก็เรียบจบ ต่างก็แยกย้ายไปทำงานในบริษัท ไปในทางเดินของตัวเอง แต่ก็ยังมีการถามไถ่ถึงชีวิตความเป็นอยู่กันและกันจนกระทั่งถึงวันนี้…และไม่น่าเชื่อตอนนี้ พี่ฟ้าได้มาเป็นสมาชิกของชุมนุมวิชาการ ชุมนุมที่เมื่อ 5 ปีที่แล้วได้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้พี่ฟ้า อยากที่จะได้มาส่งต่อความรู้แก่รุ่นน้องรุ่นต่อๆ ไปเหมือนที่พี่ฟ้าเองเคยได้รับโอกาสนั้นมา แสดงให้เห็นว่าถึงค่ายจบแต่ความสัมพันธ์ที่ดีเหล่านั้นมันไม่ได้จบตามค่ายไป มันยังอยู่กับพวกเราเสมอและพอพี่มาเจอกับตัวพี่เอง มันเป็นอย่างงั้นจริงๆ
ถึงค่ายจบแต่ความสัมพันธ์ที่ดีเหล่านั้นมันไม่ได้จบตามค่ายไป มันยังอยู่กับพวกเราเสมอ
พี่เหมี่ยว – นอกจากการเป็นพี่ค่ายแล้ว ตอนอยู่ในมหา’ลัย พี่เบิร์ดได้ทำกิจกรรมอื่นอีกมั้ยคะ
พี่เบิร์ด – ก็ทำนะครับ ถ้าเป็นเรื่องกิจกรรมในมหาวิทยาลัย ก็อย่างที่วิศวกรรมศาสตร์เกษตร เค้าจะแบ่งน้องเป็นกลุ่มๆ อะครับ เค้าจะเรียกว่าจี (G) อย่างพี่ปีหนึ่งก็จะมีกิจกรรมที่ต้องทำเช่น วันไหว้ครู วันบายเนียร์ วันรับปริญญา ก็ทำพวกคัทเอาท์ ทำบูมขอเงินพี่บัณฑิต พอมาเป็นปี 2 ก็มีเรื่องรับน้องของคณะ ดูแลน้องวันประชุมเชียร์ ทริปจี วันวิ่งประเพณีวันนี้น่าประทับใจมากเลยครับ คือจีเราอะเหนียวแน่น ในวันนี้น้องๆ ปี 1 ก็จะต้องแสดงความสามัคคีกันในรุ่น
ที่จะแสดงให้เห็นว่าเราอะ สมควรที่จะได้เข้ามาเป็นหนึ่งในฟันเฟือง เป็นนิสิตวิศวกรรมศาสตร์ในรั้วสีเขียวแห่งนี้ได้หรือไม่ แต่ที่น่าประทับใจก็คือไม่ว่าจะเป็นพี่ปี 2 ปี 3 ปี 4 หรือพี่วิศวะ ปีสูงๆ บางคนอายุ 30 40 ก็มานะครับ พี่ๆ ก็จะมาให้กำลังใจน้องๆ มาเป็นสักขีพยานในความสำเร็จน้องๆ เพราะเรารู้ว่าน้องต้องวิ่งกันเหนื่อย แต่ก็ส่งใจไปให้กำลังใจให้น้องปี 1 ถือเป็นความประทับใจมากครับสำหรับวันวิ่งประเพณีของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ของเรา
พี่เหมี่ยว – เห็นพี่เบิร์ดทำกิจกรรมเยอะขนาดนี้ แล้วเรื่องการเรียนล่ะ วิศวะ เรียนหนักมั้ย
พี่เบิร์ด – หนักมากครับ 5555 ก็คือพี่ก็เป็นเด็กต่างจังหวัด วัยรุ่นคนธรรมดาคนนึง ก็มีเรื่องเครียดเข้ามาบ้าง แต่ก็จะไม่เครียดนาน พอเช้าตื่นมาก็หายและ แต่สำหรับเรื่องเรียน ตอนช่วงสอบนะครับ เครียดกว่าทุกเรื่องที่เคยเครียด กดดันกว่าทุกครั้งที่เคยเจอ แต่พอผ่านมันมาได้ เรื่องเรียนเรื่องสอบ ก็จะสอนให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น มีวุฒิภาวะ มีการวางแผน มีการเผชิญหน้าต่อหลายๆ เรื่องได้ดีขึ้นเลยทีเดียว เอาเป็นว่าน้องๆ ที่คิดว่าหลังจากเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย แล้วจะเรียนสบายมีชีวิตที่อิสระ ไม่จริงครับ !!! 5555 ในมหาวิทยาลัย มันไม่มีวิชาไหนที่ง่าย ต่อให้เป็นวิชาที่เราชอบก็ตาม
พี่เหมี่ยว – น้องๆ กลัวหมดแล้ว 555 เรียนก็หนัก กิจกรรมก็เต็มที่ขนาดนี้ พี่เบิร์ดมีวิธีจัดการกับเวลายังไงบ้างคะ
พี่เบิร์ด – ก็กิจกรรมที่พี่เล่าไปทั้งหมดอะ ทางมหาวิทยาลัย ภาควิขาวิศวกรรมเคมี ชุมนุมวิชาการ เค้าจะจัดตอนที่ยังไม่ใกล้ช่วงสอบเพราะฉะนั้น ตอนอ่านหนังสือสอบ เรื่องกิจกรรมที่จะทับซ้อนก็สบายใจเลยครับ ไม่มีมารบกวนเลย อ่านลูกเดียว
การจัดเวลาง่ายมากเลยครับ
อันดับ 1 เรื่องเรียนต้องมาก่อน
อันดับ 2 หาเวลาความสุขให้กับตัวเอง อย่างพี่ถ้าว่างๆ ก็จะฟังเพลง ดูรายการทีวี ดูซีรีส์ ดูหนัง หรือไปเที่ยวตามที่เราสบายใจ เราอยากไปในกรุงเทพฯ ย้ำนะ ถ้าว่างๆ !!! 5555
อันดับ 3 กิจกรรมต่างๆ เลยครับ แต่เด็กกิจกรรมก็ดีอย่างนะ เราจะไม่รู้สึกเหงาเลยตลอดทั้งปี เพราะจะมีเรื่องต่างๆ ให้ทำมากมายตลอดชีวิตนิสิต 4 ปีของพี่ ยกเว้นฝนตกรถติดบนถนน 555555 ?
พี่เหมี่ยว – ถ้ามีเวลาว่างแล้ว พี่เบิร์ดชอบดูรายการทีวีอะไรหรอคะ
พี่เบิร์ด – ช่วงนี้ติด Stage Fighter มากเริ่มต้นจากมุก ขมคอ (เป็นชื่อนักร้องอะ ถ้าคนดูจะรู้เลยว่าใคร) The Voice The Mask Singer หรือนักผจญเพลง
พี่เหมี่ยว – แล้วซีรีส์ล่ะ ชอบดูเรื่องไหนเป็นพิเศษมั้ย
พี่เบิร์ด – ตอนนี้ตามเรื่องเดียวอะ I hate you I love you 5555 พี่ยังดูไม่จบเลย
พี่เหมี่ยว – พี่เบิร์ดชอบไปเที่ยวแถวไหนเอ่ย
พี่เบิร์ด – ถ้าไปเที่ยว ตอนไม่ปิดเทอมนะครับ พี่ก็จะเที่ยวเล็กๆ ในกรุงเทพฯอะ 555555 ที่ชอบก็บางกระเจ้า ตลาดบางน้ำผึ้ง จตุจักร (อันนี้ไปบ่อยมาก เพราะใกล้ ม.เกษตร) แถววังหลังก็ชอบของกินเยอะดี แต่ที่ฟินๆ ก็ ไปนั่งดูรถที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยตอนกลางคืน เสาชิงช้า แล้วก็เดินดูไฟ แถวถนนราชดำเนินอะ ชอบนะ ชิวๆ ดี แต่ถ้าปิดเทอม พี่จะหาเวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดอะ ด้วยความที่ตอน ม.ปลาย พี่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวไหนไกลๆ ที่บ้านเป็นห่วง แต่พอมามหาวิทยาลัย พี่นี่ เก็บเลเวลมาเรื่อยๆ อะ
พี่เหมี่ยว – เห็นพี่เบิร์ดบอกว่าเป็นเด็กต่างจังหวัด พี่เบิร์ดเป็นคนจังหวัดอะไรหรอคะ
พี่เบิร์ด – ราชบุรีครับ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี พอเคยได้ยินป่ะ 55555
พี่เหมี่ยว – 5555 เคยสิโอ่งมังกรรร แล้วเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ คนเดียว ต้องอยู่หอด้วย พี่เบิร์ดเคยรู้สึกเหงาบ้างมั้ย
พี่เบิร์ด – ไม่เหงานะครับ พี่ชอบอะไรที่แปลกใหม่อยู่แล้วอะครับ กลับรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มาอยู่ มาใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ตอนแรกยอมรับว่าไม่ชอบปัญหารถติดเลย หงุดหงิดมากๆ รู้สึกว่าทำไมเราต้องมาเสียเวลาเป็น ช.ม. 2 ช.ม. ทั้งๆ ที่ระยะทางก็ไม่ได้ไกลขนาดนั้นเลย แต่พอผ่านไปก็เฉยๆ แล้ว รถติดก็เพลินดี ฟังเพลง ดูรถสองข้างทาง ดูคนบนรถเมล์ เพลินๆ 55555 (ถ้าพี่ไม่รีบนะ 55555)
พี่เหมี่ยว – ในกรุงเทพฯ ชอบเที่ยวแบบนี้ แล้วตอนอยู่ราชบุรี นี้ชอบเที่ยวเหมือนกันหรือเปล่า
พี่เบิร์ด – ตอนอยู่ราชบุรี พี่ไม่ค่อยได้เที่ยวเลย แต่อยากเที่ยวมากนะ 5555 แต่อย่างบ้านที่ราชบุรีของพี่ เค้าเปิดร้านค้า ก็เลยไม่ค่อยได้หยุดออกไปเที่ยวเท่าไหร่ วันสงกรานต์ วันปีใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนไกลๆ เท่าไหร่ มันจึงทำให้พี่มีความฝันว่า ถ้าโตขึ้นไป อยากจะเที่ยวเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จังหวัดในประเทศไทย ให้ได้มากที่สุดเลย
พี่เหมี่ยว – มีที่เที่ยวในราชบุรีแนะนำมั้ยคะ บอกหน่อยๆ
พี่เบิร์ด – ที่ดังๆ ก็สวนผึ้ง สัมผัสอากาศของป่าดิบชื้น ตลาดน้ำดำเนินสะดวก พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งสยาม วัดขนอน แต่ที่พี่ชอบมากที่สุด อาจจะแปลกนะ แต่พี่ชอบไปตามหาของกินอร่อยๆ ในตลาดบ้านโป่งอะ อาจจะด้วยความที่พี่เติบโตที่นี่แหละ พี่ว่ารสชาติอาหาร ที่กรุงเทพฯ หรือที่ไหนๆ ก็ยังไม่ทำให้พี่คิดถึงเหมือนอาหารในบ้านโป่ง พูดไปก็อยากกลับไปกินเลย ?
พี่เหมี่ยว – ปกติเวลาไปเที่ยวนี้ พี่เบิร์ดชอบเที่ยวคนเดียวหรือไปกับกลุ่มเพื่อนด้วย
พี่เบิร์ด – พี่เที่ยวได้ทั้งคนเดียวและเป็นกลุ่มเลยนะ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ในตอนนั้นๆ ถ้าแบบอยากสนุก อยากพูดคุยก็อยากไปกะเพื่อนที่สนิท พูดคุยกัน เล่นสนุกกันจนลืมเวลา แต่ถ้าบางช่วงที่เหนื่อยๆ ล้าๆ เช่นหลังสอบ 5555 พี่ก็อยากจะไปคนเดียว นั่งรถ เดินเที่ยวคนเดียว ก็ได้อยู่กับตัวเองดีอันนี้ก็ได้ความรู้สึกที่ดีไปอีกแบบ
พี่เหมี่ยว – ที่บอกชอบเที่ยวในเมืองไทยนี้ มีที่ไหนที่เคยไปแล้วประทับใจเป็นพิเศษมั้ย
พี่เบิร์ด – แต่ละที่ก็ประทับใจแตกต่างกันนะ พี่ชอบเพราะคนไทยใจดีอย่างที่หลายๆ คนบอก แต่ที่เพิ่งผ่านมาเลย สิ้นปี 59 พี่ไปจังหวัดเชียงราย พี่หลงรักจังหวัดนี้นะ ทุกอย่างดูมีศิลปะ เมืองดูสวยงาม เป็นจังหวัดที่เป็นจุดนัดพบของความเจริญ ของอร่อย วัดสวย เมืองงาม แดนศิลปะ อากาศดี หลีกหนีความวุ่นวาย เคยคิดว่าถ้ามีโอกาสก็อยากกลับไปเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง ชอบมากเลยครับ
พี่เหมี่ยว – แล้วมาถ่ายแบบกับแคมป์ฮับวันนี้รู้สึกยังไงบ้าง
พี่เบิร์ด – ก็รู้สึกดีนะครับ ได้มาทำอะไรที่ไม่เคยทำ มาสัมภาษณ์ มาถ่ายรูป แถมยังได้แชร์ประสบการณ์ ให้กับน้องๆที่สนใจด้วย ยังไงก็ฝากติดตาม CampHUB ต่อไปด้วยนะครับ ถ้านึกถึงค่าย นึกถึงกิจกรรมต่างๆ ต้องเว็บไซต์นี่เลย พี่ก็เห็นก็ติดตามมาตั้งแต่ CampHUB สร้างแรกๆ ม.5 มั้ง 55555 จนตอนนี้พี่ปี 3 และก็เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ ฝากติดตามด้วยนะค้าบบบ
พี่เหมี่ยว – ถามเรื่องค่าย เรื่องเที่ยวกันไปเยอะและ มาเข้าประเด็นสำคัญกันดีกว่า อยากรู้ว่าสเป็คคนในฝันของพี่เบิร์ดนี้เป็นยังไงบ้าง เผื่อสาวแท้สาวเทียมแถวๆ นี้จะมีหวัง 555555 (แซววว)
พี่เบิร์ด – พี่ก็คนธรรมดาครับ ก็เลยไม่ได้ไปหวังอะไรมาก 5555555 พี่ชอบผู้หญิงลุยๆ เป็นตัวของตัวเอง ตลก สนุกสนานเฮฮา แต่ก็แอบมีมุมหวานๆ น่ารักๆ อะ รูปร่างหน้าตาของขาวหน่อยก็ดี ยิ้มสวยๆ ตัวไม่ใหญ่มาก สูงพอดีๆ อะครับ??
พี่เหมี่ยว – นั้นก่อนจากกันคำถามสุดท้าย อยากรู้ว่า พี่เบิร์ด ”ได้” อะไรจากการทำค่ายบ้าง แล้วก็อยากให้ฝากอะไรถึงน้องๆ ที่กำลังอยากจะ “ได้” อะไรจากการเข้าค่ายเหมือนกันค่ะ
พี่เบิร์ด – การทำค่ายแต่ละโครงการ มันก็เหมือนความท้าทายของพี่อย่างหนึ่งนะ เริ่มจะไม่มีอะไรเลย ได้ผ่านการทำงาน ความร่วมมือจากหลายๆ คน เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ท่านอาจารย์ และบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกๆ ท่าน ต่างเป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำค่าย โดยเราทุกคนก็มีแค่จุดประสงค์เดียวกันก็คือ ออกแบบ สร้างสรรค์ ร่วมแรงร่วมใจทำค่ายแต่ละค่ายให้เป็นที่ประทับใจ เป็นค่ายที่สร้างความสุขสำหรับน้องๆ ทุกคน
ก็อยากฝากไปถึงน้องๆ นะครับ หน้าที่ที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเรียนก็คือการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน การศึกษาหาความรู้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน บนกระดานที่อาจารย์เขียน บนจอโปรเจกเตอร์ หรือแค่ในหนังสือเรียนของ สสวท. ยังมีความรู้อีกมากมายในชีวิตของเรา ที่คุณครูที่เก่งที่สุดในโรงเรียนก็ไม่สามารถสอนเราให้ได้เห็นภาพ เท่ากับการที่เราได้ลองไปดูให้เห็น ไปลองให้รู้ว่าเป็นอย่างไร ไปค้นดูให้รู้ว่าตัวตนในชีวิตมหาลัยของเราจะเป็นอย่างไร ตามแต่ความสนใจของน้องๆ แต่ละคน ค่ายของพี่ๆ คณะ มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่จะช่วยให้เราไขข้อสงสัยต่างๆ เหล่านั้น แต่ “การเข้าค่าย” ยังมีของแถมเป็น มิตรภาพของพี่ค่าย เพื่อนต่างสถาบัน ประสบการณ์
การศึกษาหาความรู้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน บนกระดานที่อาจารย์เขียน บนจอโปรเจคเตอร์ หรือแค่ในหนังสือเรียนของ สสวท.
เป็นยังไงกันบ้างคะน้องๆ อิ่มไหมเอ่ย ได้รู้ทั้งเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆ ทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ที่พี่เบิร์ดเอามาถ่ายทอดให้ในวันนี้ พี่เชื่อว่าน้องๆ น่าจะอิ่มอกอิ่มใจ อิ่มหนำสำราญ กันไปถ้วนหน้า อิอิ ถ้าน้องๆ คนไหนอยากจะสัมผัสพี่เบิ..เอ้ย!! สัมผัสประสบการณ์น้องค่ายที่มีพี่ค่ายสุดหล่ออย่างพี่เบิร์ดแล้วล่ะก็เตรียมตัวให้ดีๆ เพราะในปีหน้า “ค่ายขจีแคมป์” ที่พี่เบิร์ดเป็นพี่ค่ายอยู่นั้น กลับมาแน่นอน สำหรับ แคมป์ไอดอล EP. นี้ก็ขอลาไปก่อน EP.หน้า จะพาไปรู้จักกับใครอีกนั่น รอติดตามด้วยน้าา บัยบายย
แคมป์ไอดอล : กิตติพันธ์ บัวภา (พี่เบิร์ด)
พี่ตากล้อง : พี่โอ แคมป์ฮับ
สัมภาษณ์ : พี่เหมี่ยว แคมป์ฮับ
เรียบเรียง : พี่มน แคมป์ฮับ
กราฟิก : พี่อัยย์ แคมป์ฮับ
ขอขอบคุณสถานที่ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน กรุงเทพฯ