รีวิวค่าย 2B-KMUTT #13 ค่ายทดลองใช้ชีวิตและทำวิจัยในมหาลัย (ตอนที่ 1) [Ep.17]

สวัสดีครับ น้องๆ ทุกคน แคมป์รีวิว Ep. ที่แล้วกับ ค่ายเด็กวิทย์หัวใจศิลป์ เป็นอย่างไรบ้าง ชอบกันหรือเปล่าเอ่ย วันนี้ พี่ฟิวส์ และแคมป์รีวิวกลับมาอีกครั้ง..!! แต่ครั้งนี้พี่ฟิวส์ไม่ได้มาคนเดียว พี่ต้อง และ พี่อัยย์ ก็มาขออาสาพาน้องๆ เข้าค่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งค่ายนี้ก็คือ !!! ค่าย “2B-KMUTT ครั้งที่ 13” ที่พี่ๆ แคมป์ฮับ ขอพาน้องๆ เข้าค่ายนี้อีกครั้งนึง หลังจากที่เคยพาน้องๆ เข้าค่ายนี้ใน แคมป์รีวิว Ep.8 2B-KMUTT #12 กันมาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในปีนี้ค่าย 2B-KMUTT จัดขึ้นในวันที่ 12 มีนาคม – 6 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา โดยอาจารย์และพี่ๆ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี หรือที่น้องๆ รู้จักกันในชื่อ ม.บางมด เรียกได้ว่าทั้งอาจารย์ ทั้งรุ่นพี่ ทุ่มเทให้ค่ายนี้กันทั้งมหาลัยกันเลยทีเดียว

มาทำความรู้จักกับค่ายทูบีกันก่อน

“2B-KMUTT ครั้งที่ 13” อภิมหาค่ายที่รับน้องๆ ม.4 – ม.5 ปวช. ปี 1 – 2 และเพื่อนๆ จากประเทศเพื่อนบ้าน ให้มาลองสัมผัสประสบการณ์การทำงานวิจัยจริงๆ กับหลากหลายภาควิชา หลากหลายคณะ ได้มาลองใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยจริงๆ เป็นระยะเวลาเกือบเดือนเลยทีเดียว นอกจากได้ลองทำงานวิจัยจริงๆ แล้วก็ยังมีกิจกรรมสุดสนุกมากมายให้น้องๆ ได้ร่วมสนุกกัน นอกจากที่น้องๆ จะได้ทั้งความรู้ ทักษะการทำงานวิจัย และประสบการณ์แล้ว น้องๆ ก็ยังจะได้ความสนุก เฮฮา มิตรภาพ และความประทับใจ ติดไม้ติดมือกลับไปกันด้วย

นอกจากความรู้และความสนุกจากค่ายนี้แล้ว “2B-KMUTT” ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสรรหาน้องๆ มาเป็นนักศึกษาของที่นี่อีกด้วย เรียกง่ายๆ ว่าเข้าค่ายกันแล้ว ยังมีสิทธิ์ได้โควตาเรียนต่ออีกด้วย อะไรจะดีขนาดนี้เนี่ย

เนื่องด้วยค่าย 2B-KMUTT #13 เป็นค่ายที่ใหญ่มาก มีน้องๆ ทำงานวิจัยหลากหลายคณะ พี่ๆ แคมป์ฮับ จึงขอแบ่งแคมป์รีวิวครั้งนี้เป็น 2 ตอน ด้วยกัน สำหรับแคมป์รีวิวตอนนี้ พี่ๆ ขอพาน้องๆ ทุกคนไปรู้จักกับ พี่ประธานค่าย พี่ค่าย และ น้องค่ายจากแล็บฟีโบ้ กันก่อน นั้นอย่ารอช้า ไปรู้จักค่ายทูบีกันมากกว่านี้จากพี่ๆ และเพื่อนๆ ค่ายทูบีกันเลยจ้า

ชวนคุยกับพี่ประธานค่าย

พี่อัยย์ – สวัสดีค่ะ พี่ท็อปช่วยแนะนำตัวหน่อยจ้า
พี่ท็อป – สวัสดีครับ พี่ชื่อพี่ท็อป พัชรชิระ บุญมี กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการและเมคคาทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีครับ

พี่อัยย์ – พี่ท็อปมาเป็นประธานค่ายได้ยังไงคะ เล่าให้ฟังหน่อย
พี่ท็อป – ตอนทำค่ายรุ่นที่ 12 เพื่อนๆ กับพี่ๆ โหวตให้เป็นรองประธาน พอมารุ่นนี้ก็ได้รับเลือกเป็นประธาน โครงการ 2B-KMUTT ครั้งที่ 13 คร้าบบบบ

พี่อัยย์ – ค่ายทูบีนี่มีอะไรให้น้องๆ ทำบ้างเอ่ย
พี่ท็อป – หลักๆ ของค่ายเลยก็คืองานวิจัยครับ พอน้องๆ เข้ามาน้องๆ ก็จะได้ทำงานวิจัยร่วมกับอาจารย์แล้วก็พี่ๆ ประจำแล็บวิจัยที่น้องๆ สนใจครับ ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีเลยนะ เพราะสำหรับเด็กๆ ม.ปลาย หรือปวช. โอกาสที่จะได้มาสัมผัสกับแล็บวิจัยที่ตัวเองชอบสนใจถือว่าน้อยมาก อีกอย่างน้องๆ ก็จะได้ถือโอกาสทดลองทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าชอบด้วย บางคนมาทำแล้วชอบไปเลยก็ดีครับ จะได้พยายามพัฒนาตัวเองต่อไป แต่บางคนมาแล้วไม่ชอบสายนั้นก็จะได้รู้ แล้วก็กลับตัวกลับใจทัน น้องๆ ก็จะไม่เสียเวลาตอนที่เข้าเรียนจริงแล้วพึ่งรู้ว่าไม่ชอบ ก็ต้องเสียเวลาซิ่วอีก

พี่อัยย์ – อื้อหือ ทำแล็บคือยังไงเอ่ย เล่าให้ฟังหน่อยจ้า
พี่ท็อป – ตลอดช่วงค่ายน้องๆ ก็จะต้องทำงานวิจัยตลอดครับ โดยจะมีอาจารย์หรือพี่ๆ ที่เป็นที่ปรึกษาประจำแล็บให้คำปรึกษาตลอดครับ บางแล็บที่น้องๆ มีความรู้มาเป็นทุนเดิมประมาณนึงแล้ว อาจารย์ก็จะให้น้องเรียนรู้ด้วยตัวเองซะส่วนใหญ่ครับ แต่ถ้าน้องๆ บางคนไม่มีพื้นฐานด้านที่น้องทำวิจัยมากนัก อาจารย์ก็จะมีการสอนก่อน หรือมีเทคนิคต่างๆ ให้น้องๆ ได้เรียนรู้ ก็แล้วแต่เทคนิคและก็แนวทางของอาจารย์แต่ละท่านครับ

พี่อัยย์ – หลังจากที่สวมมาครบทุกบทบาททั้ง น้องค่าย พี่ค่าย ความรู้สึกแตกต่างกันยังไงบ้างคะ
พี่ท็อป – ต่างกันมากครับ ฮ่าๆๆ ตอนที่เป็นน้องนี่เรามีหน้าที่แค่ทำงานวิจัย แล้วก็สนุกตามที่พี่เค้าจัดมาให้ครับ วันจันทร์ถึงศุกร์ก็แค่ตื่นมาทำงานวิจัย เข้าแล็บ พบอาจารย์ ทำงานกลับหอ พักผ่อน เล่นสนุกกับเพื่อนๆ พอเสาร์อาทิตย์ก็แค่ไปสนุกกับกิจกรรมที่พี่ๆ เค้าจัดให้ครับ แต่พอมาเป็นพี่ปุ๊ป โจทย์ในการทำแต่ละวันมันเยอะมากๆ เราต้องคิดต้องทำมากขึ้นครับ คนละโลกเลยกับการเป็นน้อง ฮ่าๆๆๆ งานหนักแต่ทุกคนก็มีความสุข ยิ่งวันสุดท้ายของการทำค่าย ความรู้สึกของพี่กับน้องต่างกันมากครับ เพราะในขณะที่น้องๆ กำลังเศร้าเพราะต้องจากกัน แต่พี่กำลังมีความสุขครับ เพราะเราสามารถดูแลน้องจนสามารถทำงานสำเร็จได้ แล้วนอกเหนือจากการทำงานสำเร็จนั้น เราก็ได้เห็นว่าน้องๆ ของเราไม่ได้แค่ประสบการณ์กลับไป น้องๆ ยังได้ประสบการณ์ดีๆ กลับไปด้วย

พี่อัยย์ – แล้วถ้าเทียบความรู้สึกในบทบาทประธานค่ายกับพี่ค่ายล่ะคะ
พี่ท็อป – ก็ถ้าเทียบกัน ตอนเป็นพี่ค่าย เราจะมีหน้าที่ดูแลน้องค่ายครับ จะมีพี่ๆ คอยให้คำปรึกษาตลอด พอน้องมีปัญหาเรามีหน้าที่ช่วยน้อง ถ้าอันไหนเราช่วยได้ก็ช่วยน้อง แต่ถ้าเราไม่สามารถก็ยังมีพี่ๆ คอยให้คำปรึกษาครับ พอเราก้าวมาเป็นประธานค่าย ไม่ใช่ว่าเราไม่มีพี่ๆ ให้ปรึกษา แต่ด้วยบทบาท ของเราคือผู้นำ สิ่งที่เราต้องทำคือ “นำ” ให้ได้ ฉะนั้น เราก็ต้องแบกรับอะไรที่มันมากขึ้นครับ แต่สิ่งที่ไม่เคยขาดเลย คือเพื่อน ไม่ว่าจะเจออะไร พวกนี้อยู่ข้างๆ ตลอดจริงๆ นี่แหละคือมิตรภาพที่บอกว่าเราจะได้จากการทำค่ายทูบีครับ

พี่อัยย์ – ความรู้สึกหลังจบค่ายเป็นยังไงบ้างเอ่ย
พี่ท็อป – มีความสุขครับ แต่มันก็ปนเศร้าๆ นิดๆ เพราะบรรยากาศเดิมๆ มันจะไม่มีแล้ว คงว่างมาก เพราะช่วงค่ายนี่ไม่ว่างจริง หัวหมุนตลอด ฮ่าๆๆ

พี่อัยย์ – อยากให้ฝากอะไรถึงน้องๆ ที่อยากเข้าค่ายในปีถัดๆ ไปสักหน่อย
พี่ท็อป – ก็อยากให้น้องๆ ให้โอกาสตัวเองครับ ให้โอกาสได้มาค้นหาตัวเองว่าชอบอะไร ชอบจริงๆ มั้ย แต่ส่วนคนที่ไม่อยากค้นหาตัวเองแล้วก็ให้โอกาสตัวเองได้มาหาประสบการณ์หาเพื่อนใหม่ หามิตรภาพดีๆ ครับ รับรองว่าจะได้รับกลับไปแน่นอน อยากฝากด้วยว่า อย่ากลัวคำว่า “งานวิจัย” ครับ น้องๆ บางคนได้ยินคำนี้แล้วอาจจะกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้หรือเปล่า อะไรแบบนี้ อย่าดูถูกตัวเองครับ เปิดโอกาสแล้วลองสมัครมา แล้วน้องๆ จะรู้ว่าน้องๆ ก็สามารถทำได้ครับ แล้วนอกเหนือจากนี้ ค่ายของเราก็ยังมีกิจกรรมดีๆ ให้น้องๆ ได้เข้าร่วมได้ผ่อนคลายอีกด้วย มาเถอะครับ มาร่วมสนุกแล้วก็เรียนรู้ไปด้วยกันครับผม

พี่อัยย์ – ขอบคุณพี่ท็อปมากๆ ค่ะ
พี่ท็อป – ขอบคุณเช่นกันครับ

ค่ายที่ดูเหมือนจะยาก แต่ก็ไม่ง่าย
ค่ายที่ดูเหมือนจะเครียด แต่สนุก
ค่ายที่ดูมีแต่งาน แต่กลับไปพร้อมกับมิตรภาพ
ค่ายที่ดูเหมือนจะยาว แต่วันจบกลับรู้สึกว่า “ทำไมจบเร็วจัง”
สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น มาลองดูเถอะรับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน !!
– คำนิยามของค่าย 2B-KMUTT #13 จากพี่ท็อป

พบกับกับพี่ประธานค่ายกันไปแล้ว คนต่อไปไปก็ต้องพบพี่ค่ายสินะ แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว แต่มาถึงสอง อยากเจอแล้วล่ะสิ นั้นเลื่อนไปดูต่อกันเล้ยยยย

มาคุยกับพี่ค่าย

พี่ต้อง – สวัสดีค่ะ ช่วยแนะนำตัวกันหน่อย
พี่ฟู – สวัสดีครับ พี่ชื่อพี่ฟู พิชญะ พร้อมสุข พึ่งจบม.6 จากโรงเรียนวัดราชโอรส กำลังจะเข้าศึกษาต่อที่ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีครับ
พี่เฟื่อง – สวัสดีครับ พี่ชื่อพี่เฟื่อง พงศกร พร้อมสุข พึ่งจบม.6 จากโรงเรียนวัดราชโอรส กำลังจะเข้าศึกษาต่อที่ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีครับ

พี่ต้อง – ไปมายังไง พี่เฟื่องและพี่ฟูถึงมาเป็นพี่ค่ายรุ่นนี้คะ
พี่ฟู – ประทับใจในพี่ค่ายรุ่นก่อนๆ ที่คอยดูแล เทคแคร์เราเป็นอย่างดี ก็เลยอยากส่งต่อสิ่งดีๆ ที่เราได้รับให้กับน้องๆ รุ่นต่อไปครับ
พี่เฟื่อง – อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในค่าย ที่จะทำให้ค่ายมีแต่ความสุข ความสนุกไปด้วยกัน อยากจะสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันกับน้องค่าย เพื่อนค่าย และพี่ค่ายครับ

พี่ต้อง – แล้วพี่เฟื่องกับพี่ฟูได้มาทำอะไรบ้างที่ค่ายนี้คะ
พี่ฟู – ค่ายนี้จะแบ่งรุ่นพี่ออกเป็นหลายๆ รุ่นตามชั้นปี ซึ่งเราจะได้รับหน้าที่เป็นพี่จูเนียร์ เป็นพี่ที่ได้ดูแลน้องๆ ใกล้ชิดที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะว่าต้องอยู่กับน้องทั้งวันกิจกรรม โดยการเป็นพี่ประจำ Sec (พี่กลุ่มสันทนาการ) พาน้องๆ เข้าร่วมกิจกรรม หรือคอยอำนวยความสะดวกให้ และวันเข้าแล็บวิจัย โดยการเป็นพี่แล็บ คอยให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือต่างๆ
พี่เฟื่อง – ในบางกิจกรรมพี่จูเนียร์ก็จะมีส่วนร่วมในการช่วยคิดกิจกรรมให้น้องด้วย อย่างเช่นในปีนี้มีวันกีฬาสี พวกเราก็มีส่วนร่วมในการคิดเกมกีฬาต่างๆ ให้น้องๆ เล่น เพื่อผ่อนคลายจากการทำแล็บ อีกทั้งยังเป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีในหมู่น้องค่ายและพี่ค่ายด้วย

พี่ต้อง – เป็นพี่คุมแล็บอะไรกันบ้าง
พี่ฟู – ครุศาสตร์ไฟฟ้าครับ
พี่เฟื่อง – ฟีโบ้ครับ (สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม)

พี่ต้อง – ไม่ได้คุมแล็บที่เข้าศึกษากันแบบนี้ มีอุปสรรคในการให้คำแนะนำน้องๆ มั้ยคะ
พี่ฟู – ถึงแม้ว่าจะไม่ใช้แนวทางที่ถนัด แต่เราก็จะได้เรียนรู้ไปพร้อมกับน้องๆ เลย เหมือนเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับตัวเราเองด้วย อีกทั้งยังมีอาจารย์แล็บ พี่ป.โท ประจำแล็บคอยให้ความรู้แก่น้องๆ ด้วยครับ
พี่เฟื่อง – เมื่อปีที่แล้วตอนเป็นน้องค่ายอยู่แล็บฟีโบ้พอดีครับ ก็เลยง่ายต่อการให้คำแนะนำน้องๆ หน่อย

พี่ต้อง – น้องแล็บเป็นไงบ้าง มีกี่คนที่เราดูแลเอ่ย
พี่ฟู – คุมน้องทั้งหมด 4 คน เป็นน้องต่างชาติ 2 คน น้องๆ น่ารักกันมากครับ เรื่องภาษาก็ไม่เป็นอุปสรรคเลย เพราะหลายคนๆ ก็มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษกัน ส่วนน้องๆ ต่างชาติก็สนใจภาษาไทยของเราด้วยครับ ก็เลยมีการใช้ภาษาไทยในการสื่อสารบ้าง
พี่เฟื่อง – คุมน้อง 12 คน เป็นคนไทยหมดเลย น้องเยอะแอบเดินบ่อยหน่อย แต่สนุกดีครับ ฮ่าๆๆ

พี่ต้อง – นอกจากการทำแล็บวิจัย กิจกรรมอื่นในค่ายมีอะไรบ้างคะ
พี่ฟู – สำหรับเสาร์อาทิตย์จะเป็นวันที่น้องๆ จะได้พักผ่อนจากการทำแล็บวิจัย เราก็จะมีกิจกรรมให้น้องได้เล่นกัน ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรมกีฬาสี วอร์คแรลลี่ พาทัวร์รอบมหาลัย และอย่างปีนี้ก็มีไปทัศนศึกษาข้างนอกด้วยครับ
พี่เฟื่อง – และอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยคือ กิจกรรม PBL (Problem Base Learning) เป็นการจำลองเหตุการณ์ให้น้องๆ แก้ไขปัญหาจากหัวข้อที่กำหนด และนำเสนอเป็นกลุ่ม ฟังดูเครียดใช่มั้ยครับ แต่จริงๆ คือสนุกมาก แถมยังไงฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์อีกด้วย

พี่ต้อง – มีเหตุการณ์อะไรที่เรารู้สึกแปลกใจเกิดขึ้นในค่ายบ้าง เล่าให้น้องๆ แคมป์ฮับ ฟังหน่อย
พี่ฟู – อย่างที่รู้ๆ กันใช่มั้ยครับว่าค่ายนี้รับน้องต่างชาติด้วย ซึ่งจะได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับน้องคนไทยเลย ไม่ว่าจะเป็น เข้าแล็บวิจัย กิจกรรมสันทนาการต่างๆ เรียกได้ว่า 24 ช.ม. กันเลยทีเดียว แต่น้องๆ ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ไม่มีปัญหาอะไรเลย สิ่งนี้ทำให้พวกผมเข้าใจเลยว่า ความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา หรือภาษา ไม่เป็นอุปสรรคต่อการอยู่ร่วมกันของน้องๆ เลยครับ
พี่เฟื่อง – อีกเรื่องขอเป็นเรื่องพี่ค่ายแล้วกันนะครับ คือในพี่ค่ายเนี่ยมีแฝดด้วยกัน 2 คู่ คือพวกผมคู่นึง อันนี้ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว แต่คือมีอีกคู่ครับ ชื่อ พี่บิ๊ก และพี่บอส ซึ่งทั้งคู่มีความแตกต่างกันมาก ขอย้ำว่ามากจริงๆ จนตอนนี้หลายๆ คนยังไม่เชื่อเลยครับว่าทั้ง 2 คน เป็นฝาแฝดกัน ฮ่าๆๆ

พี่ต้อง – ตอนนี้จบค่ายไปแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง
พี่ฟู – ระยะเวลา 1 เดือน สำหรับคนอื่นอาจคิดว่ามันนานมาก แต่สำหรับค่าย 2B-KMUTT มันสั้นจริงๆ ครับ พวกเราได้อยู่ร่วมกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน ทำงานไปพร้อมๆ กัน รู้สึกใจหายมากที่ค่ายมันจบแล้ว
พี่เฟื่อง – คิดถึงน้องค่าย เพื่อนค่าย ทุกๆ คนที่เราได้ร่วมทำงานมาด้วยกัน เหนื่อยมาด้วยกัน แต่พอได้เห็นน้องๆ มีความสุขกับสิ่งที่เราทำให้ มันหายเหนื่อยเลย และถึงแม้ว่าเราอาจต้องสละเวลาไปบ้างในการมาทำงานตรงนี้ แต่สิ่งที่ค่ายให้กลับมามันคุ้มค่ามากกว่าสิ่งที่เราต้องเสียไปจริงๆ ครับ

พี่ต้อง – ฝากอะไรถึงน้องๆ ที่สนใจเข้าค่ายนี้ในปีหน้า และปีต่อๆ ไป หน่อยค่ะ
พี่ฟู – ค่าย 2B-KMUTT เป็นค่ายที่ครบรสมาก เพราะนอกจากน้องๆ จะได้ประสบการณ์ในการทำวิจัย ได้โควตาในการศึกษาต่อแล้ว พี่ๆ ยังเตรียมทั้งความสนุก มิตรภาพ และเสียงหัวเราะ รอให้น้องๆ มาสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกันอีกด้วย
พี่เฟื่อง – สมัครเข้ามากันเยอะๆนะ เป็นค่ายที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะไม่มีค่ายไหนที่เข้ากันเป็นเดือนๆ แบบค่ายนี้อีกแล้ว แต่มันก็คุ้มค่ามากจริงๆ มาลองแล้วจะรู้ พวกเรารอต้อนรับน้องๆ อยู่เสมอนะครับ

พี่ต้อง – โอเค ขอบคุณพี่ฟูกับพี่เฟื่องมากๆ ค่ะ :D
พี่เฟื่อง พี่ฟู – เช่นกันครับ

ค่ายทูบีเป็นมากกว่าค่ายวิจัย เพราะเราใส่ใจกันแบบครอบครัว
– คำนิยามของค่าย 2B-KMUTT #13 จากพี่เฟื่องและพี่ฟู

พี่ประธานค่ายก็แล้ว คู่แฝดพี่ค่ายก็แล้ว นั้นอย่ารอช้า ไปพบกับเหล่าน้องค่ายกันเลยจ้า

พบกับน้องค่าย

จาก แคมป์รีวิว 2B-KMUTT #12 ปีที่แล้ว พี่ๆ ได้พาน้องๆ ไปพบกับเหล่าน้องค่ายจาก แล็บวิทยาเคมี ไอที เทคโนโลยีมีเดีย และ วิศวคอม กันไปแล้ว สำหรับปีนี้ แคมป์ฮับขอพาน้องๆ ไปพบ 4 น้องค่ายจากหลากหลายคณะเช่นเดิม สำหรับแคมป์รีวิวในตอนนี้ พี่ๆ ขอพาไปพบกับน้องจาก แล็บฟีโบ้ กันก่อน อยากพบกับน้องๆ แล้วล่ะสิ นั้นไปพบกับน้องคนแรกกันเลยจ้า

น้องตาล ฟีโบ้

พี่ฟิวส์ – สวัสดีครับ แนะนำตัวหน่อยครับผม
น้องตาล – สวัสดีครับ ผมชื่อตาล พรระพี พฤฒพงษ์ ตอนนี้ขึ้นม.6 แล้ว ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) อยู่แผนกช่างอุตสาหกรรมฐานวิทยาศาสตร์ สาขายานยนต์ครับผม

พี่ฟิวส์ – น้องตาลเคยเข้าค่ายที่ไหนบ้างครับ
น้องตาล – เคยเข้า JEC #18 ของวิศวบางมด TME Camp 5 ของวิศวเครื่องมือบางมด ME TUNE UP #9 ของวิศวเครื่องกลบางมด และค่ายเด็กเซียน #3 ของเมคคาบางมดครับผม

พี่ฟิวส์ – โอ้โห บางมดหมดเลยนะเนี่ย แล้วค่ายทูบีนี่น้องรู้จักจากไหนเอ่ย
น้องตาล – จากพี่แท้ๆ ของผมเองครับ

พี่ฟิวส์ – แล้วทำไมน้องตาลถึงตัดสินใจเข้าค่ายนี้ครับ
น้องตาล – ผมก็คงมีความคิดเหมือนคนอื่นแหละพี่ ตอนแรกก็แค่อยากได้แต่โควตาเฉยๆ ก็เลยลอง เพราะส่วนตัวก็ชอบบางมดอยู่แล้วครับ

พี่ฟิวส์ – ตอนแรกที่เราเลือกแล็บมา ตั้งใจว่าจะเข้าแล็บไหนเอ่ย
น้องตาล – มีวิศวเครื่องกล เมคคา แล้วก็ฟีโบ้ครับ

พี่ฟิวส์ – น้องตาลทราบมากว่าหรือเปล่าว่าฟีโบ้เรียนเกี่ยวกับอะไร
น้องตาล – ก็พอได้ยินมานิดหน่อยอะครับ เพราะตัวผมเองตอนแรกก็ไม่ได้สนใจฟีโบ้มากเท่าไร ผมแค่รู้ว่าส่วนมากจะไปคิดไปแนวว่าทำหุ่นยนต์เสียมากกว่า เพราะชื่อมันก็เป็นวิศวกรรมหุ่นยนต์ เพราะโดยส่วนตัวผมก็ไม่ถนัดอะไรแบบนี้ด้วย ฮ่าๆๆ

พี่ฟิวส์ – น้องมาค่ายนี้คนเดียวหรือเพื่อนมาด้วยครับ
น้องตาล – มาเพื่อนมาด้วย 2 คนครับ

พี่ฟิวส์ – พูดถึงบรรยากาศในค่ายวันแรกที่เราเข้ามา รู้สึกยังไงบ้าง
น้องตาล – ตอนแรกผมมีความรู้สึกกังวลพอสมควรครับ แบบเรามากับเพื่อนก็จริงแต่ไม่มีโอกาสได้คุยเลย แล้วแบบก็กังวลอีกว่าเราจะทำงานวิจัยได้เปล่า แล้วเราจะเข้ากับเพื่อนได้มั้ย แบบคิดเยอะมาก คิดไรนักหนาไม่รู้ ฮ่าๆๆ

พี่ฟิวส์ – น้องตาลทำแล็บอะไรในฟีโบ้ครับ เล่าให้ฟังหน่อย
น้องตาล – ผมอยู่แล็บปัญญาประดิษฐ์ครับ กลุ่มผมมี 4 คน และแบ่งเป็นอีก 2 ทีมโดยที่พวกผมทำเกี่ยวกับการนำรูปแบบการเรียนรู้ด้วยตัวเองของเครื่องจากปัญญาประดิษฐ์ตัวหนึ่งที่ดังอยู่ช่วงนั้นก็คือ AlphaGo มาประยุกต์ใช้กับเกม XO ครับ

ดูเพิ่มเติม.. [Blognone] AlphaGo ปัญญาประดิษฐ์จาก Google ผู้แย่งแชมป์โกะจากมนุษย์ตัวเป็นๆ

พี่ฟิวส์ – แล้วขั้นตอนการวิจัยทำอย่างไรบ้างครับ
น้องตาล – ก็คือตอนแรกเราก็จะไปหาข้อมูลต่างๆของตัว AlphaGo ครับ ดูที่มาที่ไป ดูรูปแบบการเรียนรู้ด้วยตัวเองแบบต่างๆของมัน โดยวิธีหลักๆ มันมีอยู่ 2 ประเภท ก็แยกทีมทำตามประเภทครับ แล้วนำวิธีการทั้ง 2 แบบมาประยุกต์ใช้กับเกม XO ครับ

พี่ฟิวส์ – โอ้โห พี่แข่ง XO กับเพื่อนยังแพ้ ถ้าเจอกับตัวนี้ พี่คงไม่เหลือ ฮ่าๆๆ
น้องตาล – นั่นสิพี่ ผมก็เช่นกัน ฮ่าๆๆ

พี่ฟิวส์ – ผลแล็บเป็นที่น่าพึงพอใจมั้ย ตรงตามเป้าหมายหรือเปล่า แล้วมีอะไรติดขัดมั้ยเอ่ย
น้องตาล – สำหรับผม ผมก็พอใจนะครับ อาจจะมีปัญหาเวลาทำแล็บอยู่บ้าง เพราะมันเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับผม พูดง่ายๆ คือมันยากแหละพี่ ฮ่าๆๆ แต่อาจารย์ก็คอยช่วยเหลือตลอดอะครับ

พี่ฟิวส์ – ชอบกิจกรรมไหนที่สุดในค่ายเอ่ย
น้องตาล – ชอบตอนปิดค่ายครับ ฮ่าๆๆ คือแบบมันคือวันสุดท้ายอะพี่ แค่นี้ก็บิ้วอารมณ์แล้ว ละมันก็มีคอมโบสนุกๆ มีคอนเสิร์ตที่พี่ๆ ทำให้ แล้วก็บูมให้ด้วย เหมือนทำให้เราเป็นส่วนหนึ่งของ 2B-KMUTT อะครับ

พี่ฟิวส์ – พอวันที่จะต้องจากลาพี่ๆ เพื่อนๆ แล้ว รู้สึกยังไงบ้าง
น้องตาล – เศร้า T^T คือแบบการใช้ชีวิตแบบวนลูปเดิมๆ ของผมมันจะเปลี่ยนอีกแล้วอะครับ แต่ก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้น เพราะสุดท้ายยังไงเราก็ต้องเจอกันอีก

พี่ฟิวส์ – กะจะต่อบางมดเลยหรือเปล่า แล้วน้องตาลเลือกโควตาภาคอะไรไปครับ
น้องตาล – ต่อครับ ผมเลือกวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ไปครับ

พี่ฟิวส์ – ตอนนี้เหลือเวลาอีก 1 ปีในชีวิตม.ปลาย อยากเข้าค่ายที่ไหนอีกมั้ยเอ่ย
น้องตาล – คงไม่มีเวลาไปค่ายแล้วครับ เพราะต้องทำโปรเจคท์จบของ ปวช. ด้วย

พี่ฟิวส์ – ให้น้องตาลฝากถึงเพื่อนๆ และน้องๆ ที่อยากเข้าค่าย “2B-KMUTT” ทั้งในปีหน้าและปีต่อๆ ไปครับผม
น้องตาล – ค่ายทูบีเป็นค่ายที่มีมากกว่ามาเข้าค่ายจริงๆ เป็นทั้งโอกาส และประสบการณ์ที่ดีจริงๆ การที่เราใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ การได้ทำสิ่งที่ตนเองสนใจและมีคนที่มีความเชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือตลอด รวมถึงการอยู่รวมกันกับผู้อื่น กับเพื่อน กับพี่ กับน้อง แบบครอบครัว ผมอาจจะอธิบายไม่ถูก ต้องมาลองด้วยตัวเองจริงๆ ครับ

พี่ฟิวส์ – และก็ขอให้น้องเชิญชวนเพื่อนๆ น้องๆ ทุกคน ให้มาเป็นเด็กล่าค่ายด้วยครับผม
น้องตาล – ค่ายทุกค่ายก็จะมีลักษณะแตกต่างกันไป แต่ทุกค่ายก็ทำด้วยใจจากพี่ๆ ที่อยากให้น้องค่ายมีแต่ความสนุก ความรู้ไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียน ใครที่สนใจอยากรู้ว่าภาคต่างๆ ในมหาลัยเป็นยังไงก็หาค่ายเข้ากันได้นะครับ ได้ทั้งความรู้ ความสนุกและมิตรภาพดีๆ ค่ายทูบีเองก็เช่นกัน ฮ่าๆๆ ก็อยากให้ลองดูกันนะครับ ประสบการณ์ดีๆ ^^

อยากใช้ไอเดียดีๆ กับค่ายดีๆ แล้วจะรู้ว่า ค่ายทูบีเป็นยิ่งกว่าค่ายที่คุณรู้จัก
– คำนิยามของค่าย 2B-KMUTT #13 จากน้องตาล

จบกันไปแล้วสำหรับ แคมป์รีวิว 2B-KMUTT #13 ตอนที่ 1 ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่จบเพียงเท่านี้ ในตอนหน้านั้น พี่ๆ ขอพาน้องๆ ทุกคนไปพบกับน้องค่ายอีก 3 คน จาก แล็บคณิต วิศวเคมี และน้องค่ายอิมพอร์ตจาก ญี่ปุ่น กับ แล็บสถาปัตย์ โอ้โหหหห อยากพบกับน้องๆ แล้วล่ะสิ อดใจรอก่อนน้า แล้วมาพบกับ แคมป์รีวิว 2B-KMUTT #13 ตอนที่ 2 (คลิกที่นี่) ได้ในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ ที่เว็บไซต์แคมป์ฮับเช่นเดิม สำหรับวันนี้ พี่ฟิวส์ พี่อัยย์ พี่ต้อง และ แคมป์ฮับ ต้องขอลาไปก่อน แล้วเจอกันในตอนหน้า สวัสดีคร้าบบบบ สวัสดีค่าาาา :D :D :D

เขียนโดย : พี่ฟิวส์ พี่อัยย์ พี่ต้อง แคมป์ฮับ
พี่ตากล้อง : พี่ทิว พี่บอส พี่ปู และพี่ๆ ตากล้อง 2B-KMUTT ทุกคน