สวัสดีจ้าาา ไหนขอเสียง #ทีมวิศวะ หน่อยเร้ววว~ (ฮิ้วววววววววววว กรี๊ดกันตรึม) แคมป์รีวิว EP. นี้ พี่นะเอย จะพาน้องๆ ไปดู “KHANKNOT #17 ค่ายอยากเป็นวิศวะมหิดล ครั้งที่ 17” โดยคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20-23 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา ณ สถานที่ที่มีบรรยากาศดี๊ดีอย่างมหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จ.นครปฐม เอ้า แคมป์ฮับยกกอง(ซึ่งมีสมาชิกกอง 2 คนถ้วน)กันไปสำรวจค่ายขันน็อตถึงศาลายาแล้วไม่กลับมามือเปล่าแน่นอน เราพกบทสัมภาษณ์และภาพบรรยากาศมาฝากเพียบ! แต่ก่อนอื่น มารู้จักกับคณะนี้กันก่อนจ้า
“วิศวฯ มหิดล” กับ 7 ภาควิชาที่โดดเด่น
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
กว่า 20 ปีก่อน จวบจนปัจจุบัน วิศวฯ มหิดล ได้เปิดการเรียนการสอนทั้งหมด 9 หลักสูตร 7 ภาควิชา ที่เรียกสั้นๆ กันว่า “เครื่องกล เคมี โยธา คอมฯ อุตฯ ไฟฟ้า ไบโอไบโอ” ซึ่งโด่งดังและเป็นที่นิยมในหมู่น้องๆ มัธยมปลายที่ใฝ่ฝันอยากเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยในแต่ละปี วิศวฯ มหิดล ได้ผลิตบัณฑิตซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชาติจำนวนกว่า 300 คน
วิศวฯ มหิดล ตั้งอยู่ที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีบรรยากาศที่เย็นสบาย โอบล้อมด้วยธรรมชาติ สามารถปั่นจักรยานหรือ “จักก้า” รับแดดอ่อนๆ ยามเช้า หรือตากลมเบาๆ ยามเย็นได้อย่างสบายเลยจ้า
ทำไมน้องๆ ถึงควรมาสำรวจวิศวฯ มหิดล ที่ “ค่ายขันน็อต” ..?
ก่อนจะพาไปชมกิจกรรมต่างๆ ภายในค่าย แต่ละภาควิชาของวิศวฯ มหิดล เค้าก็ฝากบอกกันมาว่า…
ภาคเครื่องกล: เราไม่ใช่หมอรักษาคน แต่เราเป็นหมอรักษาเครื่องยนต์
ภาคเคมี: เราไม่ได้มองสารแค่เล่นๆ เรากำลังมองเห็นใลกใบใหม่
ภาคโยธา: เราเป็นทั้งนักรัก เราเป็นทั้งนักรบ เพราะเราจบวิศวะโยธา
ภาคคอมฯ: เราใช้ code ที่เธอไม่รู้จัก แต่ printf คำว่ารักบอกเธอได้
ภาคอุตสาหการ: เราไม่ใช่แค่หล่อ แต่เราทั้งเชื่อม ทั้งกลึง และคลึงให้เธอได้
ภาคไฟฟ้า: เรียนไฟฟ้าเต็มไปด้วยสูตร แต่ถ้าเรื่องดูดเด็กไฟฟ้าช่ำชอง
ภาคชีวการแพทย์: การนอนไม่สามารถฉุดรั้งเราไว้กับเตียงได้ ห้องแล็บเราก็นอนได้
ที่มา: Facebook Page ค่ายขันน็อต
โอโห.. ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่คารมของพี่ๆ ชาววิศวฯ มหิดล ก็ชนะขาดแล้วจ้า รู้สึกได้ถึงความเป็นกันเองและความตั้งใจของพี่ๆ ที่จะถ่ายทอดทั้งความรู้และความสนุกให้กับน้องๆ ในค่าย มาดูกันว่ากิจกรรมที่เกิดขึ้นจะเด็ดดวงแค่ไหน
“ค่ายขันน็อต” กับส่วนผสมของกิจกรรมวิชาการและนันทนาการที่แสนลงตัว
4 วัน 3 คืนใน ค่ายขันน็อต นั้นมีกิจกรรมเด็ดๆ เกิดขึ้นมากมาย อาทิ “ฐานห้องปฏิบัติการ” เป็นการพาน้องๆ เข้าเวิร์คช็อปในแต่ละฐาน ซึ่งได้ลงมือทำแล็บจริง เรียนรู้จริง กับทั้ง 7 ภาควิชา น้องๆ ค่ายได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ และได้รับความรู้ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน เช่น การใช้โปรแกรม Solid Work เพื่อการออกแบบ เป็นต้น โดยฐานเหล่านี้ถือเป็นกิจกรรมวิชาการที่เป็นไฮไลต์ของการเข้ามาทำความรู้จักกับวิศวฯ มหิดล เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีฐานเกมส์ต่างๆ ให้น้องๆ รวมถึงพี่ค่ายได้เล่นด้วยกัน ผูกสัมพันธ์กันแบบขันน็อตสไตล์ ทำให้ได้เพื่อนและยังได้ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม (Group discussion) อีกด้วย
และที่ขาดไม่ได้เลยคือกิจกรรม “ทัวร์ศาลายา” ซึ่งพี่ๆ จะพาน้องๆ เดินชมมหาวิทยาลัย พูดคุยไปด้วย ถ่ายรูปไปด้วย ตู้วหูววววว เป็นกันเองกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว น้องๆ ทุกคนเหมือนได้มาเรียนรู้สิ่งใหม่แบบสบายๆ ไม่เครียดจ้า ถ้าอยากรู้ว่าพี่ค่ายกับน้องค่ายนี้เค้าสนิทกันขนาดไหน แล้วกิจกรรมที่เล่ามามันพีคจริงหรือไม่ เราไปฟังจากปากของรองประธานค่ายและพี่ค่ายพร้อมๆ กันเลยดีกว่าจ้า
คุยกับรองประธานค่ายและพี่ค่าย
พี่นะเอย – สวัสดีค่า ช่วยแนะนำตัวหน่อยจ้า
พี่หมูตู้ – สวัสดีครับ พี่หมูตู้ สันติราษฎร์ มาลา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธาและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล ขึ้นปี 3 ครับ
พี่ก็เป็นรองประธานค่ายนะครับ ช่วยคิดในเรื่องการวางกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นนันทนาการหรือวิชาการ แล้วก็มีโอกาสได้เป็น MC พิธีการและ MC สันทนาการ เต้น แล้วเป็นไทม์เมอร์ไปในตัวครับ
พี่เพลง – ชื่อเพลง กัญญาณัฐ นางนวล อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 1 ค่าา
พี่สไปร์ท – ชื่อณัฐธเดชน์ ชินธนทัตเศรษฐ์ ชื่อเล่นสไปร์ท อยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 1 สาขาชีวการแพทย์ครับ
พี่นะเอย – เป็นมายังไงถึงได้มาทำค่ายนี้เอ่ย
พี่เพลง – ค่ายขันน็อตเป็นค่ายที่เด็กปี 1 ทุกภาคจะมาเป็นพี่ค่ายร่วมกัน เพลงเป็นคนชอบทำกจกรรมอยู่แล้ว เลยตกลงกันทำค่ายเป็นพี่กลุ่มกับเพื่อนๆ ภาคตัวเอง แล้วก็ภาคอื่นด้วยจ้า
พี่สไปร์ท – ของผมก็คือก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสมาทำค่าย E-camp ของมหิดลนี่แหละ เป็นค่ายที่เปิดให้พี่ๆ ที่อยากจะลองมาทำได้ พอได้ทำแล้วผมก็ได้ประสบการณ์ ได้ความรู้ อีกทั้งยังได้ฝึกทักษะหลายๆ อย่าง หลังจากจบค่าย E-camp ผมก็เลยมาทำค่ายหลายๆ ค่าย ซึ่งขันน็อตก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน พอรู้ตัวอีกที ผมก็กลายเป็นเด็กติดทำค่ายไปซะแล้ว ฮ่าๆ
พี่นะเอย – แล้วฟีดแบ็กเป็นยังไงบ้าง สนุกหรือเหนื่อยกันมั้ยคะ
พี่หมูตู้ – สนุกสุดๆ กับการลองงานเกือบทุกงานทุกอย่างในค่าย ชื่นใจทุกครั้งที่ได้ยินเสียงหัวเราะของน้องๆ รอยยิ้มของเด็กๆ ก็ช่วยพี่ๆ ทุกคนได้เยอะ พอจบค่ายก็เหมือนเราโดนสูบ กว่าจะฟื้นก็สองสามวัน ฮ่าๆ ส่วนฟีดแบ็กที่เกิดขึ้น น้องๆ ก็มีความสนใจในวิศวะเพิ่มขึ้นนะครับจากที่มองเห็น น้องก็ได้รู้จักคณะเราเพิ่มขึ้นด้วย แล้วเราก็มีเครือข่ายน้องๆ ในกลุ่มเฟซบุ๊ก กลุ่มไลน์ ได้คุยและให้คำปรึกษาน้องๆ ตลอด แล้วก็มีการติดตามน้องๆ ด้วยว่าติดที่ไหนเรียนอะไรต่อครับ
พี่เพลง – ส่วนตัวเพลงสนุกมาก หลังจบค่ายน้องๆ พูดถึงกันเยอะมากเลย ก็ดีใจที่น้องชอบ เห็นน้องมีความสุขพี่ก็มีความสุขไปด้วย
พี่สไปร์ท – ก็สนุกดีนะครับ ได้เจอน้องๆ หลายแบบหลายสไตล์ ฮ่าๆ ไม่ใช่แค่ทำความรู้จักกับน้องๆ นะครับ เพื่อนที่เป็นพี่กลุ่มก็ได้รู้จักกันและสนิทกันด้วย คณะวิศวะมีคนเยอะมากกกก เวลาจัดพี่กลุ่มเนี่ยก็จะมีคนที่ไม่คุ้นตามาเป็นพี่กลุ่มเหมือนกัน เวลาทำงานกันก็ได้ฝึกการทำงานเป็นกลุ่มไปด้วยน่ะครับ
พี่นะเอย – แนะนำกิจกรรมในค่ายให้ฟังคร่าวๆ หน่อยสิคะ พี่หมูตู้
พี่หมูตู้ – ทางด้านวิชาการ เรามีกิจกรรมมากขึ้น ซึ่งเราก็ไม่ได้เน้นไปทางการเรียน แต่อยากให้น้องเห็นภาพจากการปฏิบัติโดยมีการเปิดแล็บแต่ละสาขาวิชาให้น้องๆ ได้ลงมือ ได้ลองทำ เพื่อให้น้องได้มองเห็นตัวเองกับการเรียนด้านนี้ว่าเข้ากันมั้ย ประมาณนี้ครับ
ถ้าด้านนันทนาการ เราก็มีการร้องการเล่นการเต้นที่เป็นฉบับของเราเอง พี่ก็คิดว่าไม่มีใครเหมือนเราอย่างแน่นอน น้องจะหาความน่ารักความตลกและสนุกก็ต้องเป็นทีมสันฯ ของเราเท่านั้นครับ กิจกรรมสันใหญ่ของเราก็แน่นจริงๆ กิจกรรมที่ได้ทำร่วมกัน ก็ได้เพิ่มความสัมพันธ์ให้น้องๆ และพี่ร่วมกันจริงๆ และความวุ่นวายก็จะดูเป็นความน่ารักของพี่แต่ละคน
พี่นะเอย – แล้วมีกิจกรรมไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษบ้างคะ
พี่หมูตู้ – พี่ชอบกิจกรรม “ธุรการค่าย” นะครับ เป็นกิจกรรมที่น้องๆ ต้องหาข้อตกลงที่จะอยู่ร่วมกันในค่าย คือวันนั้นพี่เล่นมาก เสียงหายหมดเลย น้องๆ ก็เขียนข้อตกลงให้พี่ตู้หยุดพูด พี่น้ำตาแทบไหล จะไม่เล่นมากเกินไปแล้วววว
พี่เพลง – เพลงชอบกิจกรรม “ทัวร์ศาลายาพาเพลิน” คือเราจะพาน้องเดินทัวร์มหาวิทยาลัยมหิดลตอนเช้าวันค่ายวันที่ 2 เพลงว่าอากาศกำลังดีไม่ร้อนมาก แล้วเราก็ได้แวะถ่ายรูปได้เดินคุยกับน้องในกลุ่มไปด้วยอะ
พี่สไปร์ท – กิจกรรมที่ประทับใจเป็นพิเศษก็ “บายศรีสู่ขวัญ” ครับ ผมคิดว่าบายศรีเนี่ย ก็เหมือนกับกิจกรรมสรุปค่าย จากที่น้องๆ และพี่ๆ ทำความรู้จักกัน สนุกด้วยกัน เก็บประสบการณ์ด้วยกัน เก็บทั้งหมดนั้น เปลี่ยนเป็นเส้นเชือกเส้นหนึ่ง ที่พี่ ผูกลงบนข้อมือน้อง พร้อมกับอวยพรและพูดคุยกัน ภายใต้แสงเทียน และน้ำตาของน้องๆ หลายคน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ด้ายที่ผูกบนข้อหรอกครับ แต่เป็นด้ายในใจที่รุ่นพี่กับรุ่นน้องนั้นได้ผูกกันแล้ว
พี่นะเอย – โหยยยย แบบนี้บายศรีก็ทำพี่ๆ น้องๆ ดราม่าหนักเลยสิ
พี่เพลง – เพลงดราม่าหนักมาก รู้สึกว่าแบบจบแล้วหรอยังสนุกอยู่เลย ตอนผูกข้อมือเราก็นั่งคุยกับน้องทุกคนเลยนะว่าเป็นไงบ้างค่ายสนุกมั้ย แล้วอยากเรียนที่ไหนวางแผนไว้รึยัง แล้วก็ชวนน้องมาเรียนที่นี่ด้วยกัน
พี่นะเอย – พอจบค่ายแล้ว รู้สึกว่าผลที่ออกมามันเป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้มั้ยคะพี่ๆ
พี่หมูตู้ – พี่จัดค่ายขึ้น ก็เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์คณะ สิ่งที่หวังว่าน้องจะได้รับ ก็อยู่ที่การกอบโกยของน้องแต่ละคน กิจกรรมที่จัดให้ทุกกิจกรรมมีการสรุปผลเพื่อให้เกิดตะกอนความคิด ก็มีส่วนที่น้องๆ ค่ายจะสรุปออกมาทางไหน หรือทางเดียวกับที่พี่คิดไว้มั้ย แต่ถ้าโดยร่วมพี่ก็คิดว่าเป็นไปตามที่หวังนะครับ เพราะกว่าจะจัดได้ เราท้อหลายรอบ จนมันท้อไม่ได้ สิ่งที่มันออกมาเลยเป็นอะไรที่หวังไว้อยู่แล้วครับ
พี่สไปร์ท – บอกได้ว่ามันยิ่งกว่าที่หวังไว้อีกนะครับ เพราะค่ายที่ผ่านๆ มาเป็นค่ายเล็กๆ ที่แยกไปตามภาคต่างๆ ในวิศวะ แต่ค่ายขันน็อตเป็นค่ายรวมทั้ง 7 ภาควิชา ทำให้มีรุ่นพี่มาเยอะ ทั้งรุ่นน้องก็เยอะอีกเช่นกัน ทำให้ผมกังวลว่าคนมากันเยอะมาก น้องๆ จะสนุกมั้ย จะสนิทกันมั้ย แต่ผมก็ได้พบว่าจำนวนไม่ได้เป็นปัญหาเลย อันนี้แหละครับที่ผลมันดีกว่าที่ผมคาดหวังไว้เลย
พี่นะเอย – อยากให้ฝากอะไรถึงน้องๆ มัธยมหน่อยค่ะพี่ๆ
พี่หมูตู้ – ฝากถึงน้องๆ มัธยมทุกคนนะครับ ความฝันที่น้องคิดอยู่จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าน้องๆ ไม่ใช้สองมือช่วยกันสร้างมันขึ้นมา ลองคิดได้แต่ต้องลองทำด้วย น้องๆ ทุกคนก็อย่าลืมไปค้นไปหาตัวเองแล้วมาเจอกันค่ายขันน็อตปีหน้า หรือเข้ามาเรียนเลยก็ได้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ครับ
พี่เพลง – สำหรับน้องๆ คนไหนที่มีความฝันอยากเป็นวิศวกร อยากให้ลองมาค่ายขันน็อต มาเรียนรู้บรรยากาศการเรียนของพวกเรา มาหาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่อาจจะไม่เคยได้จากค่ายอื่นมาก่อน รับรองว่าน้องคนไหนที่มาค่ายนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน แล้วเจอกันที่ค่ายขันน็อต 18 จ้า มาเถอะน้าาาพี่อยากเจอ
พี่สไปร์ท – สำหรับน้องๆ ม.ปลาย การขึ้นมหาวิทยาลัยแทบจะเรียกได้ว่าเป็นจุดกำหนดชีวิตเราเลย พี่อยากให้น้องๆ ได้ลองค้นหาตัวเอง ซึ่งการค้นหาตัวเองเนี่ย ทำได้หลายอย่าง การเข้าค่ายของพี่ๆ มหาลัย ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แม้น้องจะเข้ามาแล้วพบว่ามันไม่ใช่ นั่นก็เป็นสิ่งที่พวกพี่หวังไว้ จะอย่างไรก็ตาม อย่าลืมติดตามค่ายของพี่วิศวะมหิดลนะคร้าบบบ มาแล้วเราอาจจะเจอกัน
ค่ายขันน็อตคือครอบครัวนายช่างใหญ่
– พี่หมูตู้ รองประธานค่ายขันน็อต ครั้งที่ 17
พบปะน้องค่าย
พี่นะเอย – สวัสดีค่า ช่วยแนะนำตัวหน่อยค่ะ
น้องเจมส์ – ชื่อ วุฒิพงษ์ ชุมพล ชื่อเล่นชื่อเจมส์ครับ อยู่ม.6 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี แผนการเรียน วิทย์-คณิต ครับ
น้องมาย – สวัสดีค่ะ ชื่อมาย นรมน ภู่พูลเพียร ค่ะ โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา ม.6 สายวิทย์-คณิตค่ะ
พี่นะเอย – เล่าให้ฟังหน่อยว่ามาเข้าค่ายขันน็อตกันได้ยังไง
น้องเจมส์ – ผมได้ยินจากเพื่อนอ่าครับ ว่ามีค่ายวิศวะที่มหิดล ขันน็อตเป็นค่ายแรกของผมด้วย คือผมอยากเข้าวิศวะ เลยลองมาสมัครเข้าค่ายดูอะครับ ปกติเป็นคนไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนี้ แต่พอมาแล้วรู้สึกดีมากๆ ครับ ฮ่าๆ
น้องมาย – โดยส่วนตัวมายเป็นคนชอบไปค่ายของมหิดลอยู่แล้วอะ ด้วยความที่เป็นคนขี้เกียจไม่อยากไปไหนไกลๆ แล้วก็ชอบมหิดลมาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่ที่ของอร่อยเยอะและพี่ค่ายสันสนุกค่ะ ฮ่าๆๆ ค่ายที่เคยไปมาก็ ค่ายวิศวะเคมี Chem E. Camp 8 วิศวะโยธา CE Camp 1 แล้วก็ Khanknot 17 นี่แหละค่า
ค่ายขันน็อตนี่มายก็ไปกับเพื่อนอีก 2 คนค่ะ สนุกมาก ค่ายนี้คงเป็นค่ายสุดท้ายของม.ปลายแล้ว เพราะว่าก็ม.6 แล้ว คงไม่ได้ไปค่ายไหนอีก แล้วตอนนี้ก็ได้ความรู้ไปประกอบการตัดสินใจแอดด้วย เพราะในค่ายเขามีให้ดูว่าทุกคณะของวิศวะเรียนยังไง
พี่นะเอย – ได้ยินว่าในค่ายมีกิจกรรมให้น้องๆ เข้าช็อปกันด้วย เป็นยังไงบ้างคะ
น้องเจมส์ – ก็ได้รู้เกี่ยวกับสาขาวิศวะของมหิดล มี 7 สาขา ช็อปที่ได้เข้าก็จะเป็นสิ่งที่พี่เค้าทำกันจริงๆ เช่น การใช้โปรแกรม Solid Work ในการออกแบบ เครื่องกลึงของภาคอุตฯ ได้กลึงเหล็กจิงๆ สนุกมากเลย ได้ใช้กล้องที่วัดระดับพื้นของภาคโยธา เรียนรู้ส่วนประกอบของปูน การกระจายแรง สนุกดีครับ
น้องมาย – กิจกรรมวิชาการนี่ขอยกให้เครื่องกล ฮ่าๆ ไม่คิดว่าจะเรียนในคอมพิวเตอร์ ดูไฮโซ ไม่เหมือนภาพที่คิดไว้ว่าจะได้เรียนแต่กับเครื่องจักร ก็มีการมานั่งออกแบบ ดูโอเคกว่าที่คิดเยอะ ซึ่งเค้าให้เรียนโปรแกรมที่นักศึกษาวิศวะเรียน เป็นแบบโปรแกรมของวิศวะเลย ได้ทำของให้เป็น 3 มิติ อะไรประมาณนี้ค่ะ เวลาเข้าช็อปนี่ไม่เครียดเลย เพราะว่ามันเอ็นจอยกว่าเรียนจริงเยอะ พี่ๆ เค้าตลกค่ะ ฮ่าๆๆ
พี่นะเอย – แล้วพวกกิจกรรมเฮฮา นันทนาการกับเพื่อนฝูงล่ะ เป็นไงคะ
น้องเจมส์ – ถ้านันทนาการผมชอบหมดเลยครับ ทั้งที่ให้เต้น เข้าฐาน สร้างสะพานจากกระดาษ วาดรูปให้มีความหมายเหมือนชื่อกลุ่ม กลุ่มของผมชื่อ “ฮาร์ปเธอมันน่าปี่”
น้องมายด์ – สนุกมาก ได้เพื่อนเพิ่มเยอะมาก ส่วนใหญ่แต่ละกลุ่มก็จะปนๆ กันจากหลายๆ โรงเรียน หลายจังหวัด อย่างเพื่อนที่ไปเจอที่ค่ายก็มีมาจากสมุทรปราการ เชียงใหม่ มีคนญี่ปุ่นด้วยนะ ได้คุยกับเพื่อนๆ เยอะแยะเลย ขนาดมายว่ามายเข้ากับคนอื่นยากแบบ…หน้าหนูนิ่งอะ แต่เพื่อนในกลุ่มก็เฟรนด์ลี่มากกกกกก แล้ววันผูกข้อมือนี่แบบดราม่ากันหนักมาก
พี่นะเอย – งั้นให้น้องเจมส์กับน้องมายด์ ฝากอะไรถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ม.ปลาย #ทีมวิศวะ หน่อยจ้า
น้องเจมส์ – ก็สำหรับน้องๆ ที่อยากเป็นวิศวกร ก็อยากให้ลองมาเข้าค่ายขันน็อตดูนะครับ เพราะนอกจากจะได้ความรู้ ยังได้ทั้งความสนุกจากพี่ๆ ได้เพื่อนใหม่ๆ อีกด้วย
น้องมายด์ – ค่ายนี้ครบรสจริงๆ ทั้งสนุกทั้งได้ความรู้ อยากให้น้องๆ ลองมาดู วิศวะที่นี่ดีมากกก บรรยากาศที่มหาลัยก็ดี~
ถ้าอยากมัน ต้องขันน็อต
– คำนิยาม น้องเจมส์ น้องค่าย KHANKNOT #17
บรรยากาศความสนุก
บทสรุป
หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า KHANKNOT #17 ไม่ใช่แค่ค่ายวิชาการธรรมดา แต่ยังเป็นค่ายที่โดดเด่นด้วยความเป็นกันเองของพี่ๆ ค่าย ตั้งแต่ลีลาการสันทนาการ ไปจนถึงการเทคแคร์น้องๆ ขนาดค่ายจบแล้วก็ยังพูดคุยให้คำปรึกษากันอยู่เสมอ ถือเป็นความคุ้มค่าสำหรับน้องที่ไปค่ายขันน็อต ซึ่งแม้แต่พี่เองยังแอบอิจฉา… หุหุหุ โอกาสดีๆ ที่ได้ท่องโลกวิศวะพร้อมกับพบเพื่อนใหม่แบบนี้ ใครจะอยากพลาดล่ะค้าาา
และถ้าน้องเองก็ไม่อยากพลาด ต้องเฝ้าติดตามข่าวค่ายจากแคมป์ฮับให้ดี! ใครที่ไม่ได้ไปมาในปีนี้ แล้วอยากลิ้มรสค่ายขันน็อตว่าจะสนุกเหมือนที่เค้าว่ากันหรือไม่ ปีหน้าก็ห้ามพลาดเด็ดขาดนะจ๊ะ สำหรับ แคมป์รีวิว สัปดาห์นี้ พี่นะเอย ต้องขอลาไปก่อน เจอกับ แคมป์รีวิว ได้ใหม่ในอีกสองสัปดาห์หน้า สวัสดีจ้าาาา
เขียนโดย : พี่นะเอย แคมป์ฮับ
พี่ตากล้อง : ทีมพี่ๆ ตากล้อง ค่ายขันน็อตทุกคน