ปิ๊ดปี้ปิ๊ด! ระวังงงงง!! แถวหยุด!! ยามเย็นนี้ พี่มนขอทักทายน้องๆ ชาวแคมป์ฮับด้วยแคมป์รีวิวที่เข้าสู่ EP.32 กันแล้ว และในตอนนี้พี่จะพาน้องๆ ไปพบกับค่ายหมอที่ไม่ธรรมดากัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถาบันในฝันของน้องๆ หลายคนเลยทีเดียว อ๊ะๆ อยากรู้ล่ะสิว่าที่ไหน เฉลยก็ได้ “วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า” นั่นเอง!! แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปรั้วแพทย์ทหารนั้น ใครๆ ก็อยากจะมาลิ้มลอง เข้ามาส่องดูว่าพี่ๆ เขาเรียนกันยังไง และที่นี่แตกต่างจากคณะแพทย์ที่อื่นยังไงบ้าง
พี่มนขอเสนอ “ค่ายตะกายฝัน สู่วันเป็นแพทย์ทหาร” ค่ายที่พี่ๆ แพทย์ทหารเขาจัดขึ้นมาเพื่อให้น้องๆ ได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศการเรียนการสอน และมิตรภาพมากมายที่พี่ค่ายพร้อมมอบให้น้องๆ ทุกคนที่ได้เข้ามา อื้อหือ เกริ่นซะขนาดนี้ รอไม่ไหวแล้ว ไปอ่านต่อกันเลยดีกว่า!
พี่ๆ แพทย์ทหารเขาเรียนอะไรกันนะ?
วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เป็นโรงเรียนแพทย์ทหารแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งเรียนด้านการแพทย์เหมือนกับคณะแพทยศาสตร์สถาบันอื่น แต่บวกกับหลักสูตรวิชาทหาร มีการฝึกทั้งร่างกายและระเบียบวินัย การรับเข้าศึกษาจะผ่านทาง กสพท. เท่านั้น โดยรับทั้งหมด 100 คน แบ่งเป็น ผู้ชาย 60 คน ผู้หญิง 40 คน ดังนั้นถ้าจะเตรียมตัวสอบก็ต้องเตรียมทั้ง 7 วิชาหลัก ได้แก่ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา สังคมศึกษา รวมไปถึงวิชาเฉพาะแพทย์
เมื่อเข้ามาสู่รั้วการเรียนการสอน จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
- ชั้นเตรียมแพทย์ (ปี 1) เรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นระยะเวลา 1 ปี
- ชั้นปรีคลินิก (ปี 2–3) เรียนที่ ณ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เป็นเวลา 2 ปี
- ชั้นคลินิก (ปี 4-6) ใช้สถานที่ของโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เป็นเวลา 3 ปี
ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติม น้องๆ สามารถดูได้ที่นี่เลยนะคะ
มารู้จักค่ายตะกายฝันกันเถอะ!
“ค่ายตะกายฝันสู่วันเป็นแพทย์ทหาร” ปีนี้ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 แล้ว เป็นค่ายแบบไปกลับ รับเฉพาะน้องๆ ม.ปลาย โดยจัดขึ้นสองวัน จุดประสงค์เพื่อให้น้องๆ หลายคนที่ตั้งใจอยากเรียนแพทย์หรือยังไม่แน่ใจก็ตาม ได้รู้จักและเข้าใจการใช้ชีวิตของนักเรียนแพทย์ทหาร ว่าต่างจากนักศึกษาแพทย์ที่อื่นยังไง ต้องฝึกทหารหรือไม่ วันๆ นอกจากเรียนหนังสือแล้วมีกิจกรรมอะไรบ้าง และส่วนกิจกรรมภายในค่ายนั้นแบ่งเป็นสองวัน
วันแรก – จะพาน้องๆ เยี่ยมชมภาควิชาต่างๆ ที่นักเรียนแพทย์ทหารที่นี่เรียนจริง เช่น กายวิภาคศาสตร์, พยาธิวิทยา มีทั้งเยี่ยมชมโรงพยาบาล น้องๆ จะได้ลองทำคลอดกับหุ่น ฝึกผูกไหมและเย็บแผลจำลองสถานการณ์ในห้องผ่าตัด ได้ฝึกการใช้งานอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ในการตรวจโรค และช่วงสุดท้ายของวันแรกคือ สัมภาษณ์รุ่นพี่ศิษย์เก่า และพี่ๆ นักเรียนแพทย์ทหาร เกี่ยวกับประสบการณ์การทำงาน การเรียน ว่าต่างจากชีวิต ม.ปลายมากมั้ย
วันที่สอง – จะมีกิจกรรมทางทหาร สาธิตการเคารพธงชาติตามธรรมเนียมทหาร การกินฉาก จำลองสถานการณ์ในสนามรบว่าแพทย์ทหารมีบทบาทอย่างไร มีทั้งสันทนาการ ละลายพฤติกรรม เยี่ยมชมพระราชวังพญาไท สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ภายในรั้วโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และช่วงบ่ายเป็น Walk Rally ให้น้องทำกิจกรรมร่วมกัน
แค่อ่านมาถึงตรงนี้ ก็รู้สึกอยากจะไปแล้วล่ะสิ พี่มนขอรับประกันความสนุกครบเครื่อง โหด มัน ฮา และได้รับความรู้แบบเต็มๆ แน่นๆ กลับบ้านไปแน่นอนเลยจ้า อะๆ เผื่อใครไม่เชื่อที่พี่พูดมา เราลองไปคุยกับพี่ประธานค่าย พี่ค่าย และน้องค่ายกันดีกว่า ว่าค่ายตะกายฝันที่เพิ่งผ่านมาเนี่ยเป็นยังไงกันบ้างน้า
เริ่มต้นด้วยที่พี่ประธานค่าย
พี่มน – สวัสดีค่าา ช่วยแนะนำตัวให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านหน่อยนะคะ
พี่ดอลลาร์ – สวัสดีครับ พี่ชื่อ ดอลลาร์ นักเรียนแพทย์ทหาร สหรัฐ สุวรรณนิกขกุล กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 5 วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าครับ
พี่มน – โอเคค่า พี่ดอลลาร์ ทำไมถึงมาเป็นประธานค่ายตะกายฝันคะ อยู่ตั้งปี 5 แล้วแหนะ
พี่ดอลลาร์ – เริ่มตั้งแต่ตอนอยู่ปี 2 ช่วงนั้นผมได้มาเป็นหัวหน้าฐาน Walk Rally และก็ช่วยงานค่ายมาทุกๆ ปี ผมรู้สึกว่าการได้ทำงานกับผู้อื่นเป็นสิ่งท้าทาย มีปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้อยู่ตลอดเวลา พอทำและรู้จักกับพี่ๆ ที่ทำค่ายมากขึ้น จึงได้มาเป็นประธานค่ายในปีนี้ครับ
พี่มน – แล้วหลังจากเตรียมค่ายมา ผลตอบรับเป็นยังไงบ้างคะ ตามที่วางไว้มั้ยเอ่ย
พี่ดอลลาร์ – ผลตอบรับออกมาดีตามที่วางไว้ครับ น้องๆ ให้การตอบรับกันเป็นจำนวนมาก อาจเพราะเพจของค่ายใน Facebook ที่มีกิจกรรมให้น้องร่วมสนุก การบอกต่อจากน้องค่ายปีก่อนๆ รวมถึง Road show โดยน้องปี 1 ที่ออกประชาสัมพันธ์ตามโรงเรียนครับ
พี่มน – ความรู้สึกหลังจบค่ายเป็นยังไงคะ
พี่ดอลลาร์ – รู้สึกภูมิใจและโล่งใจมากครับ ภูมิใจเนื่องจากมีน้องค่ายหลายคนมาคุย มาทัก มาปรึกษาทั้งเรื่องเรียน การตัดสินใจในการเรียน ทำให้ผมนึกถึงตอนม.ปลาย แต่วันนี้เรากลับเป็นผู้ตอบคำถามน้องๆ เหล่านั้น ผมจึงอยากตอบคำถามที่เราเคยสงสัยให้น้องเข้าใจได้มากที่สุด และโล่งใจเนื่องจากการเรียนปี 5 นั้นค่อนข้างหนัก ทำให้เวลาในการเตรียมค่ายมีจำกัด ระหว่างดำเนินการจะมีปัญหามากมายที่กังวล เมื่อค่ายสำเร็จไปได้ด้วยดี ผมก็โล่งใจครับ ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ น้องๆ ที่ช่วยกันจัดค่ายนี้ด้วย
พี่มน – ค่ายนี้ให้อะไรกับพี่บ้าง ในฐานะที่มาเป็นประธานค่ายคะ
พี่ดอลลาร์ – ค่ายนี้ทำให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นครับ คิดอะไรต้องรอบคอบ ต้องคิดหลายๆ ด้าน เพราะการจัดค่ายไม่สามารถออกมาเป็นแบบที่เราต้องการได้ทุกอย่าง เนื่องจากมีหลายปัจจัยมาเกี่ยวข้อง การได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น ได้ฝึกการแก้ปัญหา ได้รู้จักน้องๆ มัธยมมากขึ้น เนื่องจากพอเรียนหมอจนถึงปีสูงๆ จะรู้สึกได้เลยว่าเราอายุห่างจากน้องมากครับ555 การได้คุยกับน้อง จะรับรู้ถึงความคิดความเป็นอยู่ของน้องมัธยมสมัยนี้ ถ้าไม่ได้ทำค่ายนี้ก็คงไม่รู้อะไรอีกหลายๆ อย่าง
พี่มน – คำถามสุดท้ายแล้ววว อยากให้พี่ฝากถึงน้องๆ ที่อยากมาเข้าค่ายนี้ในปีหน้าหน่อยค่าา
พี่ดอลลาร์ – สำหรับน้องที่อยากมาเข้าค่ายตะกายฝันสู่วันเป็นแพทย์ทหารนะครับ เรื่องหลักๆ ที่ต้องทำคือ ตั้งใจอ่านหนังสือ ทำให้ตัวเองมีความรู้ให้มากที่สุดครับ เพราะเวลาเตรียมตัวนั้นมีน้อย 2-3 ปีในวัยมัธยมปลายนี้จะกำหนดอนาคตน้องเลยว่าจะเป็นไปในทางไหน ส่วนเรื่องเข้าค่าย หากน้องยังพอมีเวลา ยังอยากหาตัวช่วยในการตัดสินใจเพื่อเข้าคณะแพทยศาสตร์ หรืออยากรู้จักคำว่า “นักเรียนแพทย์ทหาร” มากขึ้น ค่ายตะกายฝันเรายินดีต้อนรับน้องๆ ทุกคน แล้วมาเจอพวกพี่ให้ได้นะครับ
พี่มน – โอเคค่าาา ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ
พี่ดอลลาร์ – ยินดีครับ
ต่อกันด้วยพี่ค่าย
พี่มน – สวัสดีค่าาา แนะนำตัวให้น้องๆ ที่เข้ามาอ่านรู้จักหน่อยน้า
พี่กอล์ฟ – สวัสดีครับ ผมชื่อกอล์ฟ ธนภัทร อนันต์ธนวัฒน์ ตอนนี้อยู่ปี 1 นักเรียนเตรียมแพทย์ วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าค้าบ
พี่มน – ทำไมถึงตัดสินใจเข้าคณะนี้เอ่ย
น้องกอล์ฟ – ตั้งแต่มัธยมมีความใฝ่ฝันจะเข้ามาเรียนที่นี่มากๆ ครับ ผมมองว่าที่นี่จะมีความพิเศษไม่เหมือนมหาลัยแพทย์ที่อื่นๆ ที่เห็นได้ชัดก็จะเป็นเรื่องความมีระเบียบวินัย ความอดทน มีบุคลิกภาพที่ดี เพราะมีการฝึกทหาร และด้านวิชาการก็ดีเช่นกัน อีกอย่างก็คือคุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุนด้วย ทำให้มีโอกาสได้เข้ามาเรียนที่นี่ครับ
พี่มน – ไหนเล่าให้ฟังหน่อยว่ามาเป็นพี่ค่ายได้ยังไงเอ่ย
พี่กอล์ฟ – ปกติแล้วนักเรียนเตรียมแพทย์ ปี 1 ทุกคน ทุกคนมีหน้าที่ในการจัดค่าย เป็นพี่ค่ายกันหมดเลยครับ ได้ร่วมในการจัดค่ายกับพี่ชั้นปีสูงๆ ครับ ปี 1 จะได้รับหน้าที่เป็นพี่กลุ่ม ฝ่ายสันทนาการ หรือฝ่ายสถานที่ครับ ซึ่งตัวผมเองรับหน้าที่เป็นพี่กลุ่ม
พี่มน – ว้าววว แล้วอะไรที่ประทับใจที่สุดในฐานะที่เป็นพี่ค่ายคะ
พี่กอล์ฟ – สิ่งที่ประทับใจที่สุด ก็คงเป็นน้องค่ายครับ น้องค่ายแทบจะทุกคนมีความใฝ่ฝันเดียวกัน คืออยากที่จะเข้ามาเรียนที่นี่จริงๆ แม้ว่าช่วงแรกๆ น้องอาจจะเงียบๆ ไปหน่อย แต่ด้วยกิจกรรมที่น้องๆ พี่ๆ ได้ทำร่วมกัน ทำให้ค่ายมีสีสัน และสนุกมากๆ เลย ครับ
พี่มน – ความรู้สึกหลังจบค่าย เป็นยังไงบ้างเอ่ย
พี่กอล์ฟ – รู้สึกว่าไม่อยากให้ค่ายจบบบบ 555 และก็ขอบคุณน้องๆ ทุกคนที่มาสร้างความทรงจำดีๆ ครั้งนี้ เพื่อนๆ ทุกคน และก็พี่ปีสูงทุกคน ที่ให้โอกาสพวกเราเป็นส่วนหนึ่งในการจัดค่ายครั้งนี้ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็จะอยู่ในความทรงจำของผมไปตลอดครับ
พี่มน – หล่อเลยยยย พี่กอล์ฟคิดว่าค่ายนี้ให้อะไรกับเราบ้างคะ
พี่กอล์ฟ – แน่นอนเลยให้มิตรภาพระหว่างพี่ๆ กับน้องค่ายทุกคน และก็ความสามัคคีจากเพื่อนๆ ที่ช่วยกันทำให้ค่ายประสบความสำเร็จไปด้วยดี
พี่มน – โอเคค สุดท้ายแล้ว อยากให้ฝากถึงน้องๆ ที่สนใจเข้าค่ายนี้หน่อยจ้า
พี่กอล์ฟ – ก็พี่อยากจะเชิญชวนน้องๆ ทุกคนมาสมัครค่ายกันเยอะๆ ค่ายนี้ไม่ใช่มีแต่ความสนุก แต่มีความรู้ต่างๆมากมาย อีกทั้งเป็นการเปิดโอกาสตัวเองในการค้นหาตัวเองว่าตัวเองเหมาะสมกับการเป็นแพทย์ไหม และได้เห็นจุดเด่นของวิทยาลัยแห่งนี้ ในด้านการทหารที่ไม่เหมือนที่อื่น และก็รับรองว่าได้เห็น พี่ๆ นักเรียนแพทย์ทหารหล่อๆ สวยๆ อีกด้วย สุดท้ายนี้ก็ฝากค่ายตะกายฝันสู่วันเป็นแพทย์ทหาร กับน้องๆ ทุกคนด้วยนะครับ
พี่มน – โอเคค เรียบร้อย ขอบคุณมากๆ เลยน้าา
พี่กอล์ฟ – ไม่เป็นไรค้าบบ
มุมมองของเด็กค่าย
พี่มน – สวัสดีจ้าา ก่อนอื่นแนะนำตัวให้เพื่อนๆ ที่อ่านฟังหน่อยน้า
น้องแอล – สวัสดีค่าา หนูชื่อณัฏฐริณีย์ เตชะมหพันธ์ ชื่อเล่นชื่อแอล ม.5 จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ค่ะ
น้องออม – สวัสดีครับ ผมชื่อ ออม นายรณกร พานทอง เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า สายวิทย์-คณิต ครับ
พี่มน – รู้จักค่ายนี้ได้ยังไงเอ่ย
น้องแอล – รู้จักทั้งจากทางเว็บไซต์แคมป์ฮับแล้ว และพี่ชายค่ะ
น้องออม – เพื่อนห้องเดียวกันแนะนำมาครับ
พี่มน – โอ้ ดีจังเลย แล้วทำไมถึงอยากเข้าค่ายนี้เอ่ย
น้องแอล – ก็อยากได้ประสบการณ์จากการเข้าค่าย อยากรู้ว่าการเป็นแพทย์ทหารมีการเรียนอะไรบ้าง ใช้ชีวิตยังไง เรียนหนักมั้ย แล้วก็อยากรู้วิธีการเตรียมตัวสอบของพี่ๆ ค่ะ
น้องออม – เพราะว่าผมอยากรู้ว่าพี่ๆ ที่เป็นแพทย์ทหารเขาใช้ชีวิตกันอย่างไรครับ
พี่มน – ทำไมถึงอยากเรียนหมอคะ
น้องออม – เพราะว่าผมอยากช่วยคนที่บาดเจ็บครับ และถ้ายิ่งได้เป็นแพทย์หทารได้เข้าไปรักษาคนที่บาดเจ็บตอนมีภัยพิบัติก็ยิ่งรู้สึกสุดยอดเข้าไปอีก
น้องแอล – เพราะแพทย์เป็นวิชาชีพที่ทำให้ได้พบปะผู้คนหลากหลายรูปแบบ ได้เรียนรู้ เข้าใจความผิดปกติของร่างกาย ได้ช่วยรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรคต่างๆ เพราะการที่ต้องป่วยเป็นอะไรก็ตามมันคงทรมานน่าดูนะคะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเป็น และอยากช่วยให้หลายๆคนหายจากอาการป่วย การเป็นแพทย์ก็จะทำให้เป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น สามารถดูแลสุขภาพของคนในครอบครัวได้ด้วยค่ะ
พี่มน – ว้าวว แล้วในค่ายนี้เนี่ยมีกิจกรรมไหนที่น้องแอลและน้องออมชอบมากที่สุดคะ
น้องออม – ตอนที่เข้าไปศึกษาอาจารย์ใหญ่ครับ จึงได้รู้ว่าอาจารย์ใหญ่สำคัญต่อพี่ๆ นักศึกษาแพทย์ยังไง แล้วก็ได้ลองจับอวัยวะภายในดูด้วยครับ
น้องแอล – โหหห ถามแบบนี้ตอบยากนะคะเนี่ยย ถ้าเอาในด้านของวิชาการแอลชอบกิจกรรมเยี่ยมชมภาควิชาปรีคลีนิคค่ะ อาจเป็นเพราะแอลอยากลองเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องกลอส อนาโตมี่ และอยากลองสัมผัสบรรยากาศการได้พบอาจารย์ใหญ่มานานแล้ว แต่ถ้าถามเรื่องความสนุกสนาน ก็ต้องยกให้กิจกรรมสันทนาการเลยค่ะ สนุกมากกก!! เฮฮาสุดดด❤
พี่มน – แล้วค่ายแพทย์ทหารเนี่ย เขาฝึกระเบียบโหดมั้ย
น้องออม – โอ้โห มีตอนที่เคารพธงชาติกับตอนที่ได้กินข้าวครับ แบบพี่ๆ แพทย์ทหารนี้เกร็งมากกก ต้องนั่งหลังตรงเข่าชิด ห้ามเข่าแตก แล้วก็จานกับช้อนส้อมที่ใช้เป็นสแตนเลสด้วย ห้ามกินให้มีเสียงอีก เหนื่อยมากเลยครับ แต่ก็ได้ฝึกความอดทนด้วย แล้วหลังจากนั้นพี่ๆ ก็เป็นกันเองครับ พี่ๆ ทุกคนน่ารักมากเลย
น้องแอล – โหดค่ะ เท่าที่เห็นจากพี่ๆ ในค่ายรู้สึกว่าจะฝึกเหมือนทหารเลยนะคะ แล้วที่เพิ่มเข้ามาก็คือการเรียนแพทย์ค่ะ พี่ๆ เป็นกันเองมาก เฮฮาสุดดด? มีความเป็นครอบครัวอ่ะพี่ เป็นอะไรที่อบอุ่นดีค่ะ แบบต่อให้จบค่ายมาแล้วก็ยังมีการคุยกันกับพี่ๆ ค่ายได้อยู่ พี่ๆ ก็คอยให้คำปรึกษาค่ะ
พี่มน – โห ดีมากๆ เลย จบค่ายแล้ว คิดว่าค่ายนี้ให้อะไรกับเราบ้าง
น้องแอล – ให้ความรู้ ให้วิธีการเตรียมตัวสอบเข้า ให้ประสบการณ์ดีๆ เพื่อนใหม่ๆ ให้กำลังใจแล้วก็ให้ความทรงจำดีๆ ค่ะ
น้องออม – ให้ทั้งความรู้ระเบียบวินัย และความรักแบบพี่น้องครับ พี่ๆ ที่นี่ดูแลดีมากเหมือนเป็นพี่น้องกันจริงๆ เลย
พี่มน – โอเคค สุดท้ายฝากบอกอะไรให้เพื่อนๆ ที่อยากจะเข้าค่ายนี้หน่อยจ้า
น้องแอล – สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากจะเป็นแพทย์ทหารรึเปล่า เพราะค่ายตะกายฝันเป็นค่ายที่ให้อะไรหลายๆ อย่าง เป็นค่ายที่ได้รู้วิธีการเรียนแพทย์ทหาร/การฝึกของแพทย์ทหารจริงๆ ได้ความรู้ ความสนุกสนานแล้วก็ได้แนวคิดใหม่ๆ เป็นค่ายที่อบอุ่นมากๆ เลยย ต้องลองมาดูนะ!! แล้วก็ขอฝากคำพูดนึงของค่ายที่แอลชอบให้กับเพื่อนๆ นะคะ คำพูดนั้นคือคำว่า “อดทน” อดทนคือการอดในสิ่งที่ชอบ และทนในสิ่งที่ไม่ชอบ ยังไงก็ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนอดทนกับอุปสรรคต่างๆ และขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ ส่วนใครที่กำลังจะสมัครค่ายหรือสมัครแล้วไม่ติดก็สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
น้องออม – ก็ถ้าใครสนใจเกี่ยวกับทหาร และ หมอด้วย ค่ายนี้ถือว่าน่าสนใจมากๆ เลย ได้เรียนรู้การเป็นแพทย์และทหาร ผมแนะนำเลยครับ ค่ายนี้ดีมากๆ
พี่มน – น้องๆ ที่อ่านอยู่อย่าลืมมาค่ายนี้นะคะ ขอบคุณน้องๆ ทั้งสองคนมากๆ เลยน้าา
น้องแอล – ค่าาา ขอบคุณเช่นกันค่ะะ
น้องออม – ค้าบบบ ขอบคุณค้าบบ
บรรยากาศภายในค่าย
ส่งท้ายความสนุก
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย บอกแล้วว่าที่นี่เขาจัดเต็มจริงๆ ครบเครื่องทั้งโหด มัน ฮา และน้องๆ ทุกคนยังได้ความรู้พกกลับบ้านไปแบบแน่นเอี๊ยด ถึงเวลาในค่ายจะสั้นแค่ไหน แต่ทุกคนก็อิ่มใจ มีความสุขกันถ้วนหน้าอยู่แล้ว น้องๆ คนไหนที่สนใจในวิทยาลัยแพทย์พระมงกุฎฯ ก็อย่าลืมมองๆ มาสมัครค่ายตะกายฝันกันได้เนาะ นอกจากจะทำให้ได้รู้ว่าพี่ๆ แพทย์ทหารเขาเรียนอะไรบ้างแล้ว ก็ยังได้มิตรภาพดีๆ กลับไปอีกด้วย บอกเลยว่าการเข้าค่ายเป็นสิ่งที่ดี ที่พี่ๆ แคมป์ฮับทุกคนยืนยัน นั่งยัน นอนยันแนะนำให้น้องมาลองเข้าจริงๆ จ้า
สำหรับแคมป์รีวิว EP. 32 ในอาทิตย์นี้ ขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆ จากค่ายตะกายฝันสู่วันเป็นแพทย์ทหารทุกๆ คนมากๆ เลยนะคะ พี่หวังว่าแคมป์รีวิวนี้จะเป็นประโยชน์แก่น้องๆ ที่เข้ามาอ่านทุกคน และตอนนี้ต้องขอลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้า ว่าแต่เอ…ต่อไปจะเป็นค่ายอะไรกันนะ อยากรู้ก็ต้องติดตาม!! แล้วเจอกันอีกน้า บ้ายบายยย
เขียนโดย : พี่มน แคมป์ฮับ
พี่ตากล้อง : ทีมพี่ๆ ตากล้อง ค่ายตะกายฝันสู่วันเป็นแพทย์ทหาร #4