สวัสดีค่า วันนี้มาพบหมอ อาการเป็นยังไงบ้างคะ เอ้ย! ไม่ใช่
วันนี้มาพบกับ “พี่จั๊มพ์” เองงงง จะพาน้องๆ มาทำความรู้จักกับ “Opengown Camp” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ค่ายเปิดเสื้อกาวน์ ครั้งที่ 18” ที่จัดขึ้นเมื่อ 18 – 20 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ซึ่งค่ายนี้เนี่ย จัดขึ้นโดยพี่ๆ ว่าที่คุณหมอจาก คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช นั่นเอง!! ที่จะพาน้องๆ เข้ามาสัมผัสชีวิตการเรียนแพทย์กันแบบใกล้ชิดกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่า ใครอยากเป็นหมอ! หรือกำลังลังเลอยู่ มาฟังทางนี้เลยนะ
มาทำความรู้จักกับคณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาลกัน
คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เป็นโรงเรียนแพทย์ที่ก่อตั้งขึ้นเป็นแห่งที่ 10 ของประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2536 ถือว่าเป็นโรงเรียนแพทย์ที่ก่อตั้งขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของไทยเลยนะ โดยปี 2561 นี้ ได้มีการเปิดรับนักศึกษาแพทย์ในหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิตจำนวน 84 ที่นั่ง แบ่งเป็นรับตรงจากทางคณะ 16 ที่นั่ง และ รับตรงผ่าน กสพท. 68 ที่นั่ง
ที่นี่มีการแบ่งการเรียนการสอนเป็น 3 ช่วง
ชั้นปีที่ 1 เตรียมแพทยศาสตร์
จะศึกษาวิชาพื้นฐานทั่วไปและวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา จ.นครปฐม
ชั้นปีที่ 2-3 ปรีคลินิก
เป็นการศึกษาระดับ pre-clinic จะศึกษาวิชาแพทย์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์การแพทย์ ปีที่ 2 จะศึกษาที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตพญาไทนะ ส่วนปีที่ 3 ศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
ชั้นปีที่ 4-6 คลินิก
พอเข้าสู่การศึกษาระดับคลินิก จะศึกษาและฝึกอบรมที่คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล นักศึกษาปีที่ 6 (extern) ก็จะได้เรียนเสมือนการทำงานจริง ซึ่งดูแลควบคุมโดยอาจารย์แพทย์และแพทย์ประจำบ้าน (residence) อย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว
และถ้าหากน้องๆคนไหนที่สนใจ ว่าเรียนหมอที่นี่เค้ามี ภาควิชาอะไรกันบ้าง ลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยนะ
ค่ายเปิดเสื้อกาวน์ (Opengown Camp) เป็นค่ายที่จัดขึ้นให้นักเรียน ม.ปลาย ได้ลองเข้ามาสัมผัสกับชีวิตของนักศึกษาแพทย์วชิรกันอย่างใกล้ชิด น้องๆ จะได้รู้ว่าในแต่ละชั้นปีพี่ๆ นักศึกษาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ต้องเรียนอะไรกันบ้าง กว่าจะเป็นแพทย์ได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ และถือว่าเป็นอีกหนึ่งค่ายที่จะพาน้องๆไปค้นหาตัวเองด้วยว่า เราเนี่ยเหมาะสมกับการเรียนสายนี้มั้ย
ค่ายนี้เป็นค่ายไป – กลับ จัดมา 18 ปีแล้วววนะ ถึงแม้จะเป็นค่ายหมอแต่รับรองสนุก มันส์ ฮา มีแต่กิจกรรมน่าสนใจ จนใครๆ ก็แย่งกันสมัคร แถมได้สาระไปอี๊กก ไม่เชื่อมาดูทางนี้จ้าา พี่จั๊มพ์ขอบอกเลยว่า ครบรส!
ก่อนอื่นกิจกรรมของค่ายแบ่งเป็น 3 วัน เราจะให้น้องๆ จำลองว่าเป็นนักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง ที่จะได้มาเรียนรู้ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 จนเรียนจบออกไปทำงานเลย
วันแรก เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับชั้นปรีคลินิก
คือชั้นปีที่ 1 – 3 น้องๆ จะได้ไปเข้าฐานต่างๆ ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พญาไท ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเราใช้เรียนกันตอนชั้นปีที่ 2 น้องๆจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบร่างกายต่างๆ ยาที่ใช้รักษาโรค ได้ฝึกใช้กล้องจุลทรรศน์ ฝึกย้อมเซลล์ ไฮไลท์ของวันนี้คือจะได้เรียนรู้ส่วนต่างๆ ของร่างกายผ่านร่างอาจารย์ใหญ่ แบบใกล้ชิดสุดๆ และมีพี่ๆ คอยสอนประกอบทุกฐานเลย
วันที่สอง จะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับชั้นคลินิก
น้องๆ จะได้ฝึกวัดความดัน ฝึกเย็บแผล เจาะเลือด เข้าเฝือก ดูฟิล์ม X-ray เยี่ยมวอร์ดต่างๆ ที่สำคัญคือน้องๆจะได้เข้าห้องผ่าตัดของจริง Exclusiveสุดๆ
ส่วนวันสุดท้าย กว่าจะมาเป็นนักศึกษาแพทย์…
จะมีการบรรยายเกี่ยวกับการสอบเข้าคณะแพทย์ ประสบการณ์ในการเรียนแพทย์ และการประกอบอาชีพแพทย์หลังเรียนจบ ซึ่งปีที่ผ่านมาทางค่ายได้รับเกียรติจากวิทยากรชื่อดังสามท่าน ได้แก่ คุณครูสมศรี จากโรงเรียนกวดวิชาภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี พี่เพลีย ผู้เขียนหนังสือ เรียนหมอหนักมาก และจ่าพิชิต แอดมินเพจ Drama addict สร้างความประทับใจให้น้องๆ เป็นอย่างมาก แต่ละปีก็จะมีไฮไลท์ มีกิจกรรมเซอไพรส์ที่แตกต่างกันไป แต่รับรองว่าสนุก และคุ้มค่ามากๆ
หุๆๆ กิจกรรมทั้งหมดนี่นั้น มีพี่ค่ายคนนึงเขาฝากบอกมา แต่อยากรู้แล้วใช่มั้ยล่าา ว่ามีอะไรน่าประทับใจอีก งั้นเราไปคุยกับพี่เค้ากันเลย ขอเชิญพบกับ พี่แคท ประธานค่าย Opengown คนเก่งของเรากันเลย
คุยกับพี่ประธานค่าย
พี่จั๊มพ์ – สวัสดีค่าา ก่อนอื่นเลยอยากให้ว่าที่คุณหมอ แนะนำตัวให้น้องๆ ชาวแคมป์ฮับรู้จักหน่อยค่าา
พี่แคท – สวัสดีค่า ชื่อ ดวงหทัย ฤกษ์ลักษณี ชื่อเล่น แคท เป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปี3 คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ค่าา
พี่จั๊มพ์ – ทำไมพี่ถึงตัดสินใจมาเรียนคณะนี้เอ่ย
พี่แคท – ตอนเด็กๆ เคยมีโอกาสได้เข้าห้องผ่าตัดค่ะ ได้เข้าไปดูคุณหมอผ่าตัด พอดีมีป้าเป็นพยาบาล เลยมีโอกาสพาเข้าไปดู ตอนนั้นรู้สึกว่ามันเท่มากๆ เหมือนคุณหมอเป็นฮีโร่เลย ก็เลยอยากเรียนหมอมาตั้งแต่ตอนนั้น หาข้อมูล อ่านหนังสือเกี่ยวกับอาชีพนี้มาตลอด แล้วก็ชอบอ่านการ์ตูนเกี่ยวกับระบบร่างกายมนุษย์ ชอบเรียนวิชาชีววิทยาด้วย เลยรู้สึกว่าคณะนี้น่าจะเหมาะกับเราที่สุดค่ะ
พี่จั๊มพ์ – พี่แคทเคยเป็นเด็กค่ายนี้มาก่อนป่ะคะ
พี่แคท – ไม่เคยค่ะ ไม่เคยเข้าค่ายหมอของที่ไหนมาก่อนเลยค่ะ
พี่จั๊มพ์ – พี่แคท มาเป็นประธานค่ายนี้ได้ยังไงคะ
พี่แคท – ด้วยความที่ตอนม.ปลายเคยอยากเข้าค่ายหมอมากๆ แต่ไม่มีโอกาส ก็เลยรู้สึกอยากเป็นคนจัดค่ายให้ค่ายออกมาดี คิดว่าถ้าเราเป็นน้องๆ ที่มาค่าย อยากจะได้อะไรกลับไปบ้าง อยากมาเจอบรรยากาศแบบไหน คิดว่าเราน่าจะทำได้ เมื่อก่อนเป็นรุ่นน้องปี 1 – 2 ก็ช่วยพี่ๆ ทำค่ายมาตลอด รู้สึกชอบ เลยลงสมัครเป็น Candidate แล้วเพื่อนๆ ก็โหวตให้ค่ะ
พี่จั๊มพ์ – เตรียมตัวกันนานมั้ยคะ ก่อนจะจัดค่ายนี้
พี่แคท – เตรียมตัวกันมาเกือบปีเลยค่ะ ตั้งแต่คิดธีมค่าย วางโครงค่าย กำหนดวัน ลงมือทำดีเทลงานต่างๆ ทุกฝ่ายช่วยกันทำงานหนักมาก ตั้งใจจะนำเสนอความเป็นคณะแพทย์ของเราว่าแตกต่างจากที่อื่นยังไง อยากให้น้องๆสนุก ได้ความรู้แบบที่น้องๆเข้าถึงได้ ไม่น่าเบื่อจนเกินไป ก็ได้ความร่วมมือจากพี่ๆ น้องๆ ทั้งคณะมาช่วยกัน ตั้งใจทำให้ออกมาดีที่สุดค่ะ
พี่จั๊มพ์ – โมเมนต์อะไรในค่าย ที่พี่แคทประทับใจมากที่สุด..
พี่แคท – มีกิจกรรมนึงที่เราได้พูดคุยกับน้องๆ คือด้วยความที่เราทำงานเบื้องหลัง น้องๆ ก็จะไม่ค่อยรู้จัก แต่ก็มีน้องบางคนที่จำเราได้ แล้วก็มาบอกว่าชอบค่ายนี้มาก หลังจากเข้าค่ายนี้มาแล้วทำให้น้องอยากเป็นหมอมากขึ้น อยากจะสมัครเข้าเรียนที่นี่ จะกลับไปตั้งใจอ่านหนังสือ เราได้ยินก็ดีใจค่ะ ที่ค่ายนี้สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยจุดประกายความฝันให้น้องๆ ได้ ส่วนตัวเราก็เหมือนได้แรงผลักดันจากน้องๆ ด้วย เหมือนเรามีโอกาสได้เข้ามาเรียนแล้ว ก็จะตั้งใจเรียนจนจบออกมาเป็นแพทย์ที่ดีค่ะ
พี่จั๊มพ์ – สิ่งที่พี่คาดไว้ก่อนค่ายครั้งนี้จะจัด เป็นไปตามที่พี่ตั้งเป้าหมายมั้ยเอ่ย
พี่แคท – เรียกว่าเกินคาดค่ะ ไม่คิดว่าจะมีน้องๆ ให้ความสนใจสมัครมาเยอะขนาดนี้ แล้วหลังจบค่ายก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ ตอนแรกตั้งใจแค่ว่าจะทำให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่พอเห็นน้องๆ ชอบ น้องๆ ได้ความรู้ ได้รู้ว่าตัวเองเหมาะสมกับอาชีพนี้จริงๆมั้ย ก็ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ของค่ายนี้ค่ะ
พี่จั๊มพ์ – ตอนนี้ค่ายก็จบไปแล้ว หวังว่าน้องจะได้อะไรไปจากเราบ้าง..
พี่แคท – คิดว่าน้องๆ คงได้รู้จักอาชีพนี้ในหลายแง่หลายมุม ได้รู้ว่ากว่าพี่ๆ จะเรียนจบมาเป็นหมอได้ต้องผ่านอะไรกันมาบ้าง เรียนหนักแค่ไหน แล้วน้องๆ พร้อมมั้ยสำหรับอาชีพนี้ สำหรับน้องๆ ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะสมัครเข้าเรียนคณะนี้ก็ขอให้นำประสบการณ์ ความประทับใจที่ได้จากการเข้าค่ายเป็นแรงผลักดันให้น้องๆ ประสบความสำเร็จค่ะ
พี่จั๊มพ์ – ความรู้สึกหลังจบค่ายเป็นยังไงบ้างเอ่ย
พี่แคท – ภูมิใจค่ะที่สามารถจัดค่ายนี้มาจนประสบความสำเร็จได้ อย่างที่บอกว่าเราเตรียมงานกันมานานมาก ผ่านอุปสรรคต่างๆ มาเยอะ ทั้งต้องแบ่งเวลากับการเรียน ก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากการทำงานครั้งนี้ เห็นความร่วมมือกันของทุกคนทุกฝ่ายก็ดีใจค่ะ พอได้รับฟีดแบคที่ดีมากๆ หลังจบค่ายก็หายเหนื่อยไปเลยค่ะ
พี่จั๊มพ์ – อยากให้ฝากอะไร ถึงน้องๆที่อยากเป็นหมอหน่อยค่ะ
พี่แคท – สำหรับน้องๆ ที่อยากเป็นหมอ ก่อนอื่นก็อยากให้คิดไตร่ตรองให้ดีๆ ค่ะ ว่าเราเหมาะกับอาชีพนี้จริงมั้ย เราจะชอบการทำงานแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า เพราะการเรียนหมอนั้นเรียนหนักมาก ใช้เวลาเรียนนานกว่าอาชีพอื่นๆ เราต้องพร้อมที่จะเสียสละอะไรหลายๆ อย่าง เสียสละเวลาส่วนตัว พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยตลอด ถ้าคิดว่าใช่จริงๆ ก็ลุยเลยค่ะ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถึงจะมีคำเล่าลือว่าสอบเข้ามายาก แต่จริงๆ ก็ไม่อยากเกินความพยายามค่ะ ถ้าขยันและตั้งใจจริงๆ ก็ขอให้น้องๆ ที่อยากเป็นหมอประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ แล้วเข้ามาเป็นรุ่นน้องกันนะคะ
พี่จั๊มพ์ – สุดท้ายนี้ อยากให้พี่ฝากอะไรถึงน้องๆ ม.ปลายที่สนใจเข้าค่าย open gown ในปีต่อๆ ไปหน่อยค่า
พี่แคท – น้องๆ สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับค่ายได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Opengown Camp : ค่ายเปิดเสื้อกาวน์ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล โดยค่ายจะจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนของทุกปี เปิดรับสมัครช่วงเดือนกรกฎาคม สำหรับปีนี้จะเป็นค่ายเปิดเสื้อกาวน์ครั้งที่ 19 แล้ว ยังไงก็อย่าลืมติดตามข่าวสารการรับสมัครกันให้ดีๆ เร็วๆนี้ค่า
พี่จั๊มพ์ – ขอบคุณพี่แคทมากๆ นะคะ :)
พี่แคท – ขอบคุณมากๆ ค่าาา
เป็นยังไงกันบ้าง ความประทับใจของค่ายเราไม่ได้มีเพียงแค่นี้นะ พี่จั๊มพ์ยังไป สัมภาษณ์พี่ค่ายคนเก่ง และน้องๆ ค่ายสุดน่ารักอีก 2 คน มาให้ชาวแคมป์ฮับได้ ได้อ่านกัน ไปต่อกันเลยยยย
คุยกับพี่ค่าย
พี่จั๊มพ์ – สวัสดีค่าา ก่อนอื่นเลยแนะนำตัวให้น้องๆ ชาวแคมป์ฮับรู้จักหน่อยค่าา พี่ว่าที่คุณหมอ
พี่หนุน – ชื่อ สุกฤษฎิ์ เจียมจรุงยงศ์ ชื่อเล่น หนุน ชั้นปีที่3 คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมิทราธิราชครับ
พี่จั๊มพ์ – ทำไมพี่ถึงตัดสินใจมาเรียนคณะนี้เอ่ย
พี่หนุน – ก็คงจะเหมือนกับหลายๆ คนแหละครับ ที่อยากที่จะเป็นหมอ อยากมีโมเม้นช่วยเหลือคนอื่น อยากทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองชอบ และเลือกที่นี้อาจจะด้วยชื่อเสียง และด้วยที่นี่อยู่ในกรุงเทพด้วยอ่ะครับ
พี่จั๊มพ์ – พี่หนุน มาเป็นพี่ค่ายนี้ได้ยังไง อยู่ตำแหน่งไหน ทำอะไรในค่ายบ้างอะคะ
พี่หนุน – มันเป็นค่ายที่จัดขึ้นมาในทุกๆ ปี ซึ่งทุกคนในคณะเห็นถึงประโยชน์ของค่ายนี้ เลยรวมตัวกันจัดค่ายนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นประโยชน์กับน้องๆมัธยมครับ ตัวพี่อยู่ในตำแหน่งพี่กลุ่ม ซึ่งเป็นพี่ที่จะคอยดูแลน้องๆ ในค่าย อย่างใกล้ชิด คอยช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้น้องๆ ครับ
พี่จั๊มพ์ – มีโมเมนต์อะไรในค่าย ที่พี่หนุนประทับใจมากที่สุดเลย..
พี่หนุน – ที่ชอบ ก็คงเป็นความประทับใจของน้องๆ ในค่ายอ่ะครับ คือไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มจากความสนุกสนาน หรือความรู้ที่น้องๆ ได้รับไป แต่สิ่งที่ชอบที่สุด คงเป็นการที่ได้จุดไฟในตัวของน้องๆ หลายๆ คนอ่ะครับ เท่าที่คุยกับน้องๆมามีหลายคนที่ถอดใจในการเรียน หรือการเป็นหมอไปแล้ว แต่พอหลังจากจบค่ายนี้ไป หลายคนอยากจะสู้ขึ้นมาใหม่ เหมือนเราได้จุดไฟในตัวน้องๆ ให้รู้ว่า ถ้าเรารักและเราอยากเป็น ก็จงตั้งใจทำมันให้สุดความสามารถและเราจะไม่เสียใจกับสิ่งนั้นเลย
พี่จั๊มพ์ – กิจกรรมอะไร ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของค่ายนี้เล้ย แบบน้องๆ ห้ามพลาด ต้องมาค่ายนี้เท่านั้น!
พี่หนุน – คงเป็นพี่ๆ ในค่าย เพราะพี่ๆ แซ่บ (ล้อเล่นๆ 55555) จริงๆ ทุกกิจกรรมก็เป็นไฮไลต์ทั้งหมดนะครับ มันน่าสนใจในทุกๆ วัน ไม่มีคำว่าเบื่อแน่นอนในค่ายนี้
พี่จั๊มพ์ – โอ้โห พี่หนุนพูดไว้ขนาดนี้ น้องๆ ปีหน้าเตรียมตัวสมัครกันไว้ดีๆ เลยนะคะ 5555 แล้วสิ่งที่พี่หนุนคาดไว้ก่อนค่ายครั้งนี้จะจัด เป็นไปตามที่พี่ตั้งเป้าหมายมั้ยเอ่ย
พี่หนุน – จริงๆ มันเกินคาดนะ ตอนแรกเราหวังไว้แค่ให้น้องๆ หลายๆ คนได้มีโอกาสได้เห็น ได้รู้ในสิ่งที่อาจไม่เคยเห็น แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ อย่างที่บอกได้ไฟในตัวน้องหลายๆ คน ได้รับความสุขที่น้องๆ แสดงออกมา มันเกินคำบรรยายจริงๆ
พี่จั๊มพ์ – ตอนนี้ค่ายก็จบไปแล้ว หวังว่าน้องจะได้อะไรไปจากเราบ้าง
พี่หนุน – คงหวังไม่ให้น้องลืมโมเม้นความฝันของตัวเอง ที่อยากจะเป็นหมอ อยากให้ไฟเหล่านั้นมันลุกโชนในใจน้องเสมอไปครับ
พี่จั๊มพ์ – ความรู้สึกหลังจบค่ายเป็นยังไงบ้างเอ่ย
พี่หนุน – เป็นค่ายที่ประทับใจมากๆ ทั้งกับสิ่งที่เราสามารถให้น้องๆไป มันเกินคาด รวมทั้งการทำงานกับเพื่อนๆ มันประทับใจจริงๆ และมันทำให้เราอยากจะกลับไปทำค่ายดีๆ แบบนี้อีก
พี่จั๊มพ์ – อยากให้ฝากอะไร ถึงน้องๆ ที่อยากเป็นหมอหน่อยค่ะ
พี่หนุน – อยากให้คงความตั้งใจเอาไว้ นึกถึงความรู้สึกตอนที่อยากเป็น ตอนที่ทำไมถึงเลือกที่จะเป็น และจำมันเอาไว้ เพราะกว่าจะเข้ามาเป็นหมอได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย มันต้องใช้ใจเยอะ อย่ายอมแพ้ เพื่อความฝันของเรา สู้ๆ นะครับ พี่เป็นกำลังใจให้
พี่จั๊มพ์ – สุดท้ายนี้ อยากให้พี่ฝากอะไรถึงน้องๆ ม.ปลายที่สนใจเข้าค่าย open gown ในปีต่อๆ ไปหน่อยค่า
พี่หนุน – ก็เป็นอีกหนึ่งค่ายนะครับ ที่จะให้อะไรน้องๆ มากมาย ทั้งความรู้ในวิชาชีพนี้ แรงบันดาลใจ ประสบการณ์ต่างๆ ที่พวกพี่มี รวมทั้งได้รู้ลึกรู้จริง เกี่ยวกับเรื่องหมอๆ ยังไงก็ฝากค่ายนี้ไว้ด้วยนะครับ ^_^
พี่จั๊มพ์ – ขอบคุณพี่หนุนมากๆ นะคะ :)
พี่หนุน – ขอบคุณครับบบ
มารู้จักน้องค่ายกันบ้าง
พี่จั๊มพ์ – สวัสดีจ้า ไหนแนะนำตัวให้เพื่อนๆ ทางบ้านรู้จักกันหน่อยยย
น้องนิว – สวัสดีครับ นิว นายปฏิพัทธิ์ แสงประเสริฐ ตอนนี้ ม.6 สายการเรียน วิทย์-คณิต โรงเรียนสัตยาไสครับ
น้องมานา – สวัสดีค่า มานา สุพัทรา ร่มโพธิ์ชี อยู่ม.6 สายวิทย์-คณิต ร.ร.อรุณประดิษฐค่าาาา
พี่จั๊มพ์ – รู้จักค่ายนี้ได้ยังไงเอ่ย
น้องนิว – รู้จักจากเว็บไซต์ CampHub ครับ
น้องมานา – ไป Open House ของมหาลัยมาค่ะ
พี่จั๊มพ์ – น้องๆ เคยเข้าค่ายของทางมหาฯลัย ที่ไหนมาก่อนแล้วบ้างเอ่ย
น้องนิว – ไม่เคยเข้าค่ายของมหาวิทยาลัยอะไรเลย ค่ายนี้ค่ายแรกเลย
น้องมานา – ไม่เคยเลยค่ะ (แฮ่ๆ)
พี่จั๊มพ์ – แล้วอะไร ทำให้น้องๆ อยากเข้าค่าย Opengown ครั้งนี้เอ่ย
น้องนิว – เพราะเห็นจากกิจกรรมมันน่าสนใจมากเลยตั้งใจมากๆ ที่จะเข้าค่ายนี้ และก็คิดไว้อยู่แล้วว่าอยากเข้ามหาฯลัยนี้
น้องมานา – อย่างแรกเลยนะคะ อยากหาทางของตัวเอง อยากไปสัมผัส อยากรู้ว่ามันจะเหมาะกับเราไหม อย่างที่สองประทับใจในตัวพี่ๆ มาก ตอน Open House เลยตัดสินใจสมัครค่ายของที่นี่ค่ะ
พี่จั๊มพ์ – แล้วกิจกรรมอะไรในค่าย ที่เราประทับใจมากที่สุด..
น้องนิว – กิจกรรมที่ประทับใจที่สุดก็ต้อง Anatomy ของค่ายสนุกจริงๆ ต้องลองๆ คือพี่เขาให้เรียนแต่ละส่วนของร่างกายจากอาจารย์ใหญ่จริงๆ และก็มีการลองสอบแล็บกริ๊งด้วย
น้องมานา –– กิจกรรมที่เป็นฐานจำลองเหตุการณ์ (ที่ให้หลับตาอ่ะค่ะ) โห่ยยย ประทับใจสุดๆ ไปเลย แอบอินกับเรื่องราวตอนสุดท้ายด้วย TT
พี่จั๊มพ์ – ค่ายนี้ให้อะไรกับเราบ้าง..
น้องนิว – อย่างแรกเลยก็ความรู้ที่มีเต็มล้นมากๆ และมิตรภาพของค่ายนี้ก็มีมากมายก่ายกอง ถึงจะเป็นเวลาแค่ 3 วันมันก็ทำให้เราสนิทกันมากๆ และอีกอย่างพี่ๆ ที่เป็นกันเองรักน้องๆ ในกลุ่มมากๆ เลย ประทับใจจริงๆ กับค่ายนี้ ❤
น้องมานา – ทำให้เราได้รู้เลยค่ะว่าจะมาเรียนนี่ส่วนหนึ่งจะต้องเจออะไรบ้าง ได้ประสบการณ์ ข้อคิดในกิจกรรมหลายๆ อย่าง และยังได้รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ มากขึ้นอีกด้วยค่ะ
พี่จั๊มพ์ – พอจบค่ายไปแล้ว เราคิดว่า จะเลือกเรียนต่อในเส้นทางนี้มั้ย
น้องนิว – แน่นอนครับ นิวคิดว่านิวคงหลงรักสายแพทย์ไปแล้วอะครับ
น้องมานา – เลือกค่ะ ไม่ติดก็จะเอาให้ติดให้ได้ (ฮ่าๆ) ที่หนูอยากเป็นหมอก็เพราะ ช่วงม.ต้นค่ะ มาเฝ้าคุณตาที่รพ. หมอประจำตัวคุณตา เป็นแรงบันดาลใจหนูเลย เพราะตอนนั้นหนูทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งเฝ้า เวลามองคุณหมอก็คิดว่าถ้าเราเป็นคนได้รักษา ได้ช่วยคนที่เรารักเองมันจะดีแค่ไหน เพราะคุณตา คุณย่า คุณแม่ ก็ป่วยบ่อยด้วย หนูเลยอยากจะเป็นที่พึ่งของเค้า เหมือนที่เค้าเป็นที่พึ่งของหนู ช่วยหนูมาตลอด
พี่จั๊มพ์ – สุดท้ายแล้ว ไหนลองเชิญชวนน้องๆ ม.ปลาย มาเข้าค่าย Opengown รุ่นต่อไป กันหน่อยจ้า
น้องนิว – ก็เพื่อนๆ น้องๆ ม.ปลายคนไหนที่สนใจอยากรู้ว่าการเรียนสายแพทย์เป็นยังไง จะสนุกขนาดไหนก็ต้องลองมาเข้าค่ายนี้ดู ค่ายนี้จะทำให้ทุกคนรู้ถึงชีวิตนิสิตแพทย์มากขึ้น และสนุกมากๆ กิจกรรมมีมากมายให้ทำตลอด 3 วันเลย พี่เลี้ยงทุกคนทุ่มเทเพื่อนทุกคนเต็มที่มากๆ และหลังจาดจนค่ายทุกคนจะได้มิตรภาพกลับไปแน่นอน สำหรับนิวเพื่อนค่าย opengrown ครั้งที่ 18 นี้ยังคุยกันจนถึงตอนนี้อยู่เลย5 55
น้องมานา – อยากให้มากันนะ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ไม่ควรพลาด ไม่ว่าสุดท้ายมาแล้วจะตัดสินใจยังไง แต่มันจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่ดีมากๆ แน่นอน
พี่จั๊มพ์ – ขอบคุณนะค่ะ :)
น้องนิว – ขอบคุณครับบผม
น้องมานา – ค่าา ขอบคุณค่า <3
เป็นยังไงกันบ้างงงง แค่อ่านรีวิวค่ายยังน่าสนุกกันขนาดนี้ เข้าค่ายของจริงจะสนุกขนาดไหน พี่จั๊มพ์หวังว่าบทสัมภาษณ์ของพี่แคท พี่หนุน น้องนิว และน้องมานาเนี่ยอาจทำให้น้องๆชาวแคมป์ฮับลองฉุกคิดดูน้าาว่าเราเนี่ยเหมาะกับอาชีพสายนี้มั้ยน้าาา แต่ถ้ายังไม่ชัวร์ล่ะก็ ต้องรอค่ายเปิดเสื้อกาวน์ปีนี้แล้วแหละ จะจัดในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน ยังไงก็รอประกาศรับสมัครในช่วงเดือนกรกฏาคมนี้ได้ที่ เว็บไซต์CampHub นี้นะ หรือจะทาง Facebook twitter หรือ LINE เราก็มีนะเออ พลาดแล้วจะอด หมดหนุกแน่ๆ
ยังไงพี่จั๊มพ์ก็ขอตัวลาไปก่อน พับกบ! พบกับ พี่จั๊มพ์ใหม่ได้ใน EP. หน้า สำหรับวันนี้ไปก่อนนะ สวัสดีค่ะ
เขียนโดย: พี่จั๊มพ์ แคมป์ฮับ
ขอบคุณข้อมูล: trueplookpanya และ vajira.ac.th
ขอบคุณภาพถ่าย: กลุ่ม Opengown camp 18th