เคยเป็นไหม? เวลาที่เราว่างเราจะรู้สึกผิด
เราจะรู้สึกว่าทำไมเราไม่ทำอะไรที่มันมีคุณค่าเลย
พวกเรามีรายการสิ่งที่ต้องทำล่วงหน้าไปอีกสองสามเดือน และเราชอบรู้สึกผิดกับตัวเองถ้าเราไม่ได้ใช้ทุกวินาทีที่เราตื่นทำสิ่งเหล่านั้นให้เสร็จ เราพยายามจะจัดสรรเวลา และบาล๊านทุกเรื่องให้พอดี พยายามเข้าฟิตเนส แบ่งเวลาให้เพื่อน ให้ครอบครัว หรืออะไรก็ตามแต่ เราพยายามทำตัวให้เป็นประโยชน์ (Productive) เท่าที่เราจะทำได้
แต่รู้ไหมว่า ผลสุดท้าย.. เรานั่นแหละคือคนที่จะ Burn ตัวเอง เราจะหยุดไม่ได้ในวังวนการใช้ชีวิตแบบนี้ เราจะตกอยู่ในกับดักของการทำตัวมีประโยชน์ (Productive Trap)
ทางออกง่ายๆ เลยก็แค่ “เลิกกังวลกับการต้องทำอะไรตลอดเวลา” ฟังดูง่าย แต่ความจริงมันก็หยุดคิดไม่ได้อยู่ดีใช่ไหม งั้นลองดู 5 วิธี ที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากกับดักนี้ซะที
ทำงานให้น้อยลง
Emma Seppala นักเขียน และนักวิจัยจาก Standford ได้พูดไว้ว่า สังคมของเราถูกครอบงำด้วยการทำงานหนัก แต่งานวิจัยต่างๆ ระบุว่าการพยายามเอาชนะ To-do list ของเรา กลับส่งผลเสียต่อเรา
การทำงานที่มันมากไป มันเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล ซึ่งโรคเหล่านี้แหละ คือตัวการที่จะทำให้ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการทำสิ่งต่างๆ ของเราลดน้อยลง
การบอกให้ทำงานน้อยลง อาจดูเป็นไปได้ยากสำหรับใครหลายๆ คน Step แรก อาจจะต้องเริ่มจากการจัดลำดับความสำคัญสิ่งที่ต้องทำ จากนั้นค่อยๆ ตัดรายการท้ายๆ ออกไป ทีละรายการ เริ่มจากการตัดทีละ 1 รายการ แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อเราเคยชิน และทำใจได้กับการลบสิ่งที่ต้องทำ
ทบทวนชีวิตประจำวันตัวเอง
ลองถามตัวเองดูว่าสิ่งที่ทำอยู่ เราทำไปเพราะมันเคยชินหรือเปล่า คิดให้ลึกๆ ว่ามันจะเป็นขนาดนั้นเลยไหม
เราควรจัดลำดับความสำคัญสิ่งที่ต้องทำ โดยการดูว่า อะไรตอบโจทย์เป้าหมายเราที่สุด อะไรเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะทำให้ภาพใหญ่ในอนาคตของเราสมบูรณ์ ถ้าอะไรที่มันเล็กๆ น้อยๆ แล้วมันกินเวลาชีวิตเราไปมาก ไม่ได้ส่งผลอะไรกับชีวิตเราเท่าไร ตัดออกไปบ้างก็ได้
หยุดเทียบตัวเองกับคนอื่น
แต่ละคนมีแนวทางการใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเราเห็น Tim Cook ตื่นนอนตอน ตี 3.45 มีเวลาทำหลายๆ อย่าง แล้วเราต้องทำตามซะหน่อย ไม่ใช่เห็นว่าคนอื่นอ่านหนังสือได้เดือนละ 1 เล่ม แปลว่าเราต้องทำแบบนั้นตามบ้าง มันอาจจะดีสำหรับคนเหล่านั้น แต่มันอาจจะไม่ได้ดีสำหรับเรา
เราต่างเดินด้วยจังหวะที่ไม่เท่ากัน การพยายามทำตัว Productive โดยการยึดมาตรฐานคนอื่นแบบนั้น เราไม่สามารถทำมันได้นานหรอก สักพัก เราเองคือคนที่จะหมดแรงกับการไล่ตามคนอื่น
วางเรื่องต่างๆ พักไว้บ้าง
เรามักจะโฟกัสแต่สิ่งที่เรายังทำไม่เสร็จมากกว่าสนใจว่าเราทำเสร็จไปแล้วกี่อย่าง ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เราไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง แต่เราจะกังวลไม่หยุดว่ามีอีกกี่สิ่งอย่างที่ต้องทำให้เสร็จ เราจะวิตกเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้กำลังวิ่งไล่ตามเราอยู่ แล้วเราต้องรีบเช็คบิลมันก่อน รวมๆ แล้วคือ มันทำให้เราเครียด
ที่จริงเราไม่ต้องพยายามทำอะไรตลอดเวลาหรอก ลองวางเรื่องต่างๆ ลงไว้สักแป๊บนึง แล้วออกไปเดินเล่นสักพัก สูดอากาศสักหน่อย ทำให้สมองปลอดโปร่งดู ลองว่างดูบ้าง มันน่าจะทำให้เราสดชื่นขึ้น มีแรงมาทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น
รู้จักที่จะพูดว่า “ไม่”
ไม่ได้หมายถึงต้องบอกคนอื่นหรอก บอกกับตัวเองนี่แหละ ว่า “ไม่ต้องทำแล้ว พอแล้ว พักบ้าง”
สุดท้ายนี้ เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรตลอดเวลา ว่างบ้างก็ได้ พักบ้างก็ได้ อยู่เฉยๆ บ้างก็ได้ วันไหนที่ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง มันไม่ได้แปลว่าเราขี้เกียจ ไม่ต้องรู้สึกไม่มีค่า หรือไม่ productive “เพราะช่วงเวลาที่ว่างก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิตเหมือนกัน” เราไม่ใช่หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรที่จะสามารถทำงานได้แบบไม่หยุดพัก เราเป็นมนุษย์ ร่างกายและจิตใจเรามีขีดจำกัด เมื่อถึงเวลา เราก็ควรที่จะได้พักอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร
ถ้าน้องๆ คนไหนอยากเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง ค้นหาตัวเองเพิ่มเติม สามารถพูดคุย สอบถามทีมงาน Learn O Life ได้เลย เรามีทีมงานนักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและวัยรุ่นที่มีประสบการณ์ ที่ต่างมีเป้าหมายอยากให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จักค้นหาตัวเอง และสามารถพัฒนาตัวเองไปสู่ความสำเร็จที่ออกแบบเองได้ ไม่ใช่การเดินตามรอยเท้าของใคร
Facebook Learn O Life LINE @learnolife Website Learn O Life
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย สำหรับ CAMPHUB check me with Learn O Life อีพีนี้ ถ้าชอบ ก็อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ได้มาเช็กจิตใจตัวเองไปด้วยกันเยอะๆ น้าาา และน้องๆ ยังสามารถอ่านบทความเพื่อเช็คสภาพจิตใจของตัวเองอีก ได้ที่นี่ แล้วถ้าจิตใจเราพร้อมแล้ว ก็พร้อมที่จะไปหาค่าย หากิจกรรมเข้าเพื่อค้นหาตัวเองกัน หาค่าย กิจกรรม โอเพนเฮ้าส์ ได้ง่ายๆ ที่ CAMPHUB.in.th ได้เลยจ้า สำหรับวันนี้ พี่ๆ CAMPHUB และ Learn O Life ต้องไปก่อน แล้วเจอกันในอีพีหน้าจ้า
เขียนโดย : พี่ๆ ทีมงาน Learn O Life
เรียบเรียงโดย : พี่จา CAMPHUB
รูปภาพประกอบ : พี่เอิร์น CAMPHUB