All About P’Love
- พี่เลิฟสอบติด นวัตฯ มศว ตั้งแต่รอบ Portfolio จากเทคนิคการเตรียมตัว และการสัมภาษณ์
- จุดพลิกผันที่ทำให้หาตัวเองเจอว่าอยากเรียนอะไรมาจากการเลื่อนไอจีสตอรี่
- พี่เลิฟเผยถึงความรู้สึกของแพรในตอนสุดท้าย ของซีรีส์ดังอย่างเพราะเรา(ยัง)คู่กัน ว่าแพรรู้ทุกอย่าง แต่แกล้งไม่รู้
- วิธีจัดการกับปัญหาของพี่เลิฟคือทำสิ่งที่อยู่ในปัญหาให้ดีที่สุด
ตื่นเต้นๆๆ วันนี้ “พี่เหมี่ยว” จะพาน้องๆ มาพูดคุยทำกับความรู้จักกับ “พี่เลิฟ” ภัทรานิษฐ์ ลิ้มปติยากร หรือ “แพร” จากซีรีส์ “เพราะเราคู่กัน” อันโด่งดังนั่นเองง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับพี่เลิฟ ทั้งในฐานะนักแสดง และรุ่นพี่ จากคณะนวัตกรรมสื่อสารสังคม เอกการแสดงและกำกับการแสดงภาพยนตร์ มศว ที่สอบติดตั้งแต่รอบ Portfolio กัน มาดูกันว่าพี่เลิฟจะมีเทคนิค และวิธีการจัดการกับการเรียน และการทำงานยังไงบ้าง ไปคุยกันน…
แนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักกันหน่อยดีกว่า
สวัสดีค่าน้องๆ เลิฟ ภัทรานิษฐ์ ลิ้มปติยากรนะคะ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 3 สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล นวัตกรรมสื่อสารสังคม มศว ค่ะ
ชื่อ Love มีที่มาที่ไปยังไง?
ตอนแรกเลิฟเกิดมาด้วยชื่อ lovely คือคุณพ่อตั้งให้ เหมือนแบบเป็นลูกสาวคนแรกแล้วก็เห่อ เลยตั้งว่า lovely (แสดงว่าเลิฟมีพี่น้องด้วย?) ใช่ค่ะ มีน้อง 2 คน ชื่อเลโอกับรันย่าค่ะ
เราคุ้นชื่อ Loverruck (เลิฟรัก) มาก มาจากอะไร?
ตอนตั้งชื่อเลิฟคิดน้อยมาก55555 ก็คือเลิฟแปลว่ารัก ก็เลยเลิฟรักเลย
ถ้าใครเคยดูซีรีส์ “เพราะเราคู่กัน” ต้องคุ้นหน้าเลิฟแน่ๆ แล้วจุดเริ่มต้นในวงการของเลิฟมาจากไหน?
เลิฟเข้าวงการมาจากการประกวดโครงการของทาง GMMTV Go On Girl Star Search By Clean&Clear มีพี่ทีม scout ของที่นี่มาชวนว่าอยากลองมาประกวดดูมั้ย เลิฟก็เลยลองดู เพราะแค่ลงรูปแล้วก็ติดแฮชแท็ก แล้วเลิฟก็เคยถ่ายโฆษณาโยเกิร์ตมาก่อนด้วย
มาทำความรู้จัก “พี่เลิฟ” ในพาร์ทของพี่ปี 3 นวัตกรรมสื่อสารสังคม มศว กันบ้าง
เลิฟเรียนเอกอะไร ในสาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล?
สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล จะแบ่งเป็น 3 เอก มีผลิตภาพยนตร์, ออกแบบภาพยนตร์ และการแสดงและการกำกับการแสดงภาพยนตร์ เลิฟอยู่เอกการแสดงค่ะ
แต่ละเอกเรียนอะไร แตกต่างกันยังไง?
ผลิตภาพยนตร์จะเรียนพวกกล้อง ไฟ ฉาก ส่วนใหญ่ก็ได้ทำงานเป็น DP (Director of Photography) ออกแบบจะเรียนเรื่องการออกแบบฉาก ออกแบบพร็อพ เมคอัพ คอสตูมต่างๆ ส่วนเอกการแสดงและกำกับการแสดง จะไม่ใช่ได้ทำแค่แสดงกับกำกับการแสดงเท่านั้น แต่จะมีพวกเขียนบท แคสติ้ง หรือเมเนเจอร์ด้วย
วิชาในเอกการแสดงและการกำกับการแสดงภาพยนตร์ ที่ชอบที่สุด?
ชื่อวิชา Introduction to cinema ค่ะ เป็นวิชาที่จะมี 3 assign ให้ทำ Assign 1 อาจารย์จะให้เสนอหนังเรื่องที่อยากทำ โดยจะเป็นหนังของพี่ปี 3 ที่เรียนปีที่แล้ว 2 เรื่องมารวมกัน ทำยังไงก็ได้ให้เป็นเรื่องเดียวกัน
Assign 2 จะเป็นเอกผลิตที่เสนอเรื่อง และทำร่วมกับเอกแสดง จะเขียนบทเอง คิดเองหมดเลย มีการแคสติ้งคนอื่นๆ เข้ามาแสดงด้วย โดยใน Assign นี้จะมีแค่ 2 เอกที่จะทำร่วมกัน ใน Assign 2 เลิฟเป็นแคสติ้ง ก็ต้องไปหาคนข้างนอกมาแคสติ้งจริงๆ
ส่วน Assign 3 ทุกเอกจะทำงานร่วมกัน แต่เอกแสดงจะได้เป็นคนเสนอเรื่อง โดยอาจารย์จะเลือกมา 10 เรื่อง ที่จะได้ถ่ายจริงๆ ซึ่งเรื่องของเลิฟเป็นหนึ่งในนั้น ใน Assign นี้เลิฟเลยได้เป็นผู้กำกับในเรื่องนั้น ก็เลยชอบ
เรื่องที่เลิฟเสนอเป็นแนวไหน พล็อตยังไง?
เลิฟเสนอเรื่องที่เป็นแนวไซไฟไป แรงบันดาลใจมาจากตอนนั้นแค่เลื่อนไอจี แล้วก็เจอรูปเด็กคนนึง เขาผ่าตัดสมอง และพ่อเขาก็ให้กำลังใจด้วยการไปสักให้เหมือนรอยแผลที่ลูกผ่าตัด เลยมาคิดว่ากลับกันว่าก็น่าจะมีอีกจำพวกนึงที่พ่อแม่ใช้ลูกเป็นเครื่องมือ แต่ไม่ได้รักลูกแบบที่พ่อคนนั้นรัก ก็เลยได้เรื่องมาประมาณว่า พ่อแม่เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ได้รับการยอมรับ เขาเลยใช้ลูกเป็นหนูทดลอง เลิฟก็เขียนบท แล้วก็มีคุยกับเพื่อนที่เป็นผลิตให้ช่วยปรับคำ คือผลิตเขาจะมีมุมกล้อง หรืออะไรที่มันเป็นเวย์ของเขา เลิฟก็ไปคุยปรึกษา
ความรู้จากการเรียนในสาขานี้ นำไปใช้ในการทำงานจริงของเลิฟได้ยังไงบ้าง?
ยากจังเลย เพราะของมหาวิทยาลัย ก็ไม่ได้เรียนเพื่อเป็นนักแสดงแต่จะเป็นเบื้องหลัง แต่สิ่งที่เรารู้จริงๆ คือการทำงานเบื้องหลัง ความเหนื่อยของพี่ๆ ทีมงาน ทีมช่างไฟ หรือทุกทีม ในกองว่าเขาเหนื่อยแค่ไหน เราก็ต้องทำในส่วนของเราให้ดี
ย้อนเวลากลับไปในวัยของ “น้องเลิฟ” เด็กม.ปลาย ที่ยังไม่รู้ว่าอยากเป็นอะไร
ทำไมถึงเลือกเรียนคณะและสาขานี้?
ตอนนั้นเห็นสตอรี่ไอจีรุ่นพี่ที่โรงเรียนคนนึง ที่เรียนคณะนี้ เลิฟก็เริ่มสนใจ เลยทักไปถามเขาว่าเรียนอะไรยังไง แต่มารู้ตัวจริงๆ คือตอน ม.5 เลิฟมีโอกาสได้ลองไปแคสงานจริงๆ ได้เห็นการทำงาน ก็เลยอยากลองทำดู คือเลิฟรู้ตัวว่าอยากเรียนคณะนี้ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการด้วยค่ะ
แล้วก่อนหน้านั้นตั้งแต่เด็กเลยอยากเป็นอะไร?
อุ๊ย ตอนนั้นเลิฟอยากเป็นทูต เลยเข้าศิลป์ฝรั่งเศส แต่พอเรียนไปสักพักก็ไม่รอด5555 แต่ตอนที่อยากเป็นเพราะว่ามีเพื่อนคนนึงเขาได้ยินมาว่าเรียนทูตหรือเป็นแฟนทูตจะได้เงินเดือนเยอะ เลิฟก็เลยโอเค อยากเป็นทูต5555
อย่างนี้เรียนฝรั่งเศสมาเราพูดได้มั้ย? ขอสักคำ
Bonjour (บง-ชูร์) ละกันค่ะ 555555 โอ๊ยเลิฟลืมอ่ะ ลืมแบบเกือบหมดเลย
เลิฟติดมศว ตั้งแต่รอบ Portfolio ตอนนั้นเตรียมตัวยังไง?
เลิฟออกแบบ portfolio เป็นนิตยสาร ทำยังไงก็ได้ให้พอร์ตเราน่าสนใจ แล้วอาจารย์อยากเปิดดู แต่ต้องทำตามเกณฑ์ของคณะที่กำหนดมา เช่น ผลงานที่ใส่ในพอร์ตห้ามเกิน 3 ปีย้อนหลัง ห้ามใส่สันกาว สันรูดก็ต้องทำตามนั้น เกณฑ์แล้วแต่ปีไม่เหมือนกันต้องคอยดู คือทำให้ตรงโจทย์อย่าทำเกิน เพราะจะมีกรณีเพื่อนบางคนที่ใส่ผลงานย้อนไปตั้งแต่ประถมอะไรแบบนี้ อันนี้ก็จะถูกตัดสิทธิ์ไป
ผลงานที่ใส่ในพอร์ตมีอะไรบ้าง?
ก็กิจกรรมที่เราทำที่โรงเรียน กิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ เลิฟก็ใส่หมด เช่นทำพวกบอร์ดคริสมาสต์ก็ใส่ ที่โรงเรียนมีกิจกรรมให้ทำ SME ขายของ ก็ใส่ วิชาคนดีไปดูแลเด็กก็ใส่ วันพ่อวันแม่มีทำคลิป ทำสื่อก็ใส่ไปเลยค่ะ
คิดว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เราติด ก็มาจากการสัมภาษณ์ด้วยหรือเปล่า?
ใช่ค่ะ ตอนสัมภาษณ์เขาก็มีถามว่า ทำไมถึงอยากเข้าที่นี่ รู้จักมั้ยว่าภาพยนต์ต่างจากละครยังไง หรือรู้จักหนังกล่องมั้ย แต่เลิฟไม่รู้จัก เลิฟก็บอกไปว่าไม่รู้จัก แล้วอาจารย์เขาก็อธิบายมา คือเลิฟคิดว่าตอนสัมภาษณ์ “รู้ก็บอกรู้ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้” มันทำให้เขาอาจจะรู้สึกว่า เราเป็นคนเปิดรับนะ พร้อมที่จะเรียน
แสดงว่าตอนนั้นก็ต้องเตรียมข้อมูลต่างๆ เพื่อที่จะเข้าไปสัมภาษณ์ด้วย?
โอ๊ยตอนนั้นเลิฟท่องหมดเลย ท่องสี ท่องอะไรของคณะหมดเลย แต่ไม่โดนถาม แต่คนอื่นโดนถาม มีคนโดนให้ลิสต์หนัง 10 เรื่อง ที่ได้รางวัลออสก้าด้วย
มีเรื่องอะไรของนวัตฯ อีกมั้ยที่อยากบอกน้องๆ ที่สนใจเรียนในสาขานี้?
น้องๆ บางทีอาจคิดว่าถ้าเข้านวัตฯ จะได้เป็นดารา จะได้เป็นศิลปิน แต่นวัตฯ จริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเบื้องหลัง แต่ถ้าถามว่ามีโอกาสมั้ย ก็มี เพราะอาจารย์ก็จะมีกลุ่มโมเดลลิ่ง หรือกลุ่มรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ที่เขาเป็นแคสติ้ง เขาก็จะมีกลุ่มให้เข้าไป ส่วนใหญ่จะได้จาก connection ตรงนี้
รู้จัก “พี่เลิฟ” ให้มากขึ้นผ่านตัวตน ทั้งงานอดิเรก งานด้านการแสดง และการทำธุรกิจ
เลิฟมีผลงานการแสดงอะไรมาบ้าง?
เรื่องแรกเลยคือ “เขามาเชงเม้งข้างๆ หลุมผมครับ” เรื่องนี้จะเล่นเป็น “ขวัญ” ซึ่งก็คือแม่ของธัน หรือคือพี่ทรายตอนเด็กค่ะ เรื่องต่อมาที่เล่นคือ “Blacklist นักเรียนลับบัญชีดำ” เรื่องนี้เล่นเป็นผักกาด และเรื่อง “เพราะเราคู่กัน” กับ “เพราะเรา(ยัง)คู่กัน” เล่นเป็นแพรค่ะ แล้วก็มี MV ของพี่คริส พีรวัส และก็มีของชิโน่…
- You’re So Beautiful – คริส พีรวัส x Stokes
- ดาวทอประกาย – ชีโน่ อธิภัทร
- ยิ่งใกล้ยิ่งกลัว – ชีโน่ อธิภัทร
จากผลงานที่ผ่านมาคาแรคเตอร์ไหนที่คิดว่าเหมือนตัวเองมากที่สุด?
แพรค่ะ คือแพรจะมีความร่าเริง เป็นคนที่จะไม่คิดอะไรเยอะ แต่สิ่งที่ไม่เหมือนคือแพรจะเป็นหมอ จะฉลาดอะไรอย่างนั้น ซึ่งไม่ใช่เลิฟเท่าไหร่ การเป็นหมออะไรอย่างนี้555555
แล้วคาแรคเตอร์ไหนที่ตรงกันข้ามกับเราเลย แบบยาก ท้าทายมาก?
ผักกาดมั้งคะ แต่จริงๆ ก็มีความคล้ายผักกาด เพราะผักกาดเป็นคนที่มีความ feminist สูง และก็เหมือนมีเกาะป้องกันตัวเอง ไม่ค่อยยอมรับใครเท่าไหร่ ถ้าเกิดจริงๆ เลิฟก็เป็นคนไม่ค่อยยอมเหมือนผักกาด แต่ผักกาดเหมือนจะมากเกินไปอะไรอย่างนี้
เขามีความคิดยังไง ตามตัวละคร?
คือเขาเหมือนมีจุดยืนความคิดตัวเองที่ชัดมาก เลิฟเลยรู้สึกว่ามันทำยากไปสำหรับเลิฟ
ในการถ่ายทำซีรีส์ซีนไหน ของเรื่องไหนที่ประทับใจเราที่สุด?
ฉากสุดท้ายในเรื่อง “เพราะเรา(ยัง)คู่กัน” ที่บอสบอกชอบแพร คือมันน่ารักมาก มันเป็นฟีลแบบโรแมนติก ที่ไม่น่าจะสามารถเกิดขึ้นในชีวิตจริง หรืออาจจะเกิดขึ้นได้ แต่เลิฟไม่เคยเจอ น่ารัก แบบบอกชอบริมทะเล แล้วผู้ชายก็เขินมากแล้วกระโดดลงน้ำ อะไรอย่างนี้ 55555
แล้วตอนนั้นความรู้สึกเลิฟเป็นยังไง?
เลิฟรู้สึกว่าแพรอ่ะรู้อยู่แล้ว แต่ทำเป็นไม่รู้ เพราะว่าแพรเป็นคนฉลาด ก็คือรู้ทันแหละ แต่ก็อยากให้ ผู้ชายพูดอะไรอย่างนี้ แล้วก็ตอนเล่น ตอนที่พี่กันสมาย กระโดดลงน้ำไป คือพี่กันอ่ะว่ายออกไปทางฝั่งที่ไม่มีคนเซฟ คือว่ายไปตามคลื่น แล้วฝนตกมันก็ลมแรง ตอนนั้นก็เป็นห่วง เพราะเลิฟไม่รู้ว่าพี่คนตัดเขาจะคัทซีนไหนมา คือเลิฟก็เป็นห่วง เพราะพี่กันว่ายไปไกลมากแล้วไม่มีคนเซฟด้วย แต่ทำอะไรไม่ได้เราก็ต้องเล่นต่อ พี่เขาก็บอกว่าให้ยิ้มไว้ๆ แต่ในใจคือพี่กันกลับมาก่อน 5555
การเป็นนางเอก MV ใน เพลง You’re So Beautiful – คริส พีรวัส x Stokes เป็นยังไงบ้าง?
ก็ดีใจ คือตอนแรกเลิฟไม่รู้ว่าเป็นเพลงของคุณ stokes เราไม่ได้ติดตาม แต่ทางพี่คริส เล่าให้ฟังว่าเขาเป็นศิลปินต่างชาติ ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับเขา
การถ่าย MV กับซีรีส์ ความยากง่ายมันแตกต่างกันยังไงบ้าง?
เลิฟว่าซีรีส์ยากว่า แต่ว่าเลิฟอาจจะไม่เคยเจอ MV ที่ยากๆ เพราะ MV ที่เลิฟเจอ ส่วนใหญ่ก็จะสบายๆ
ในอนาคตถ้ามีโอกาสได้มีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง อยากร้องเพลงแนวไหน?
ถ้าเกิดได้ทำก็อยากทำ เพลง pop ฟังง่ายๆ เพราะเลิฟชอบฟังเพลงรัก แต่ตอนนี้ก็รู้สึกว่าตัวเองยังไม่ได้เก่ง อยู่ในช่วงที่กำลังฝึก แต่ถ้าถามว่าอยากมั้ย อยากลองค่ะ
แล้วไม่สนใจอยากเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเหรอ?
ไม่ได้ เลิฟเต้นไม่ได้เลย เต้นแล้วเหมือนเด็กเต้นแอโรบิก555555
เลิฟมีช่องยูทูบเป็นของตัวเองด้วย อยากรู้ว่าช่อง “Loverrukk” เกิดขึ้นมาได้ยังไง?
ช่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ก่อนเข้า GMMTV อีกค่ะ เป็นช่วง ม.6 ก่อนเข้าปี 1 เป็นช่วงว่างก่อนเข้ามหาวิทยาลัยพอดี ตอนนั้นเลิฟดูพวกแบบยูทูบที่เทรนด์กำลังเริ่มมา แล้วมีคนออกมาแชร์ว่าสร้างรายได้ได้ เลิฟก็อยากหาเงินค่าขนมเอง ก็เลยลองทำ
เลิฟทำเองหมดทุกอย่างเลยหรือเปล่า?
พวกคอนเซปต์ต่างๆ คอนเทนต์เลิฟคิดเองหมดเลย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นไลฟ์สไตล์ แต่พวกตัดต่อหลังจากที่เข้ามาที่ GMMTV ทางค่ายก็จะมีให้พี่ๆ มาช่วย
นอกจาก vlog กับ makeup แล้วในอนาคตจะได้เห็นคอนเทนต์อะไรในช่องอีกมั้ย?
ตอนนี้ยังไม่มีแพลนเลย เพราะช่วงนี้ปี 3 ก็แอบยุ่ง 555 แต่ก็อยากทำอะไรที่เป็นไลฟ์สไตล์ของเลิฟ แบบอยากทำไรก็ทำ อ๋อแล้วก็เลิฟชอบทำอาหาร ที่บ้านทั้งป๊าทั้งมี๊ก็คือจะทำอาหารเป็นหมดเลย แล้วเหมือนเลิฟได้ซึมซับมาด้วย แล้วก็ชอบดูมาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ แล้วอิน อาจจะมีโอกาสได้เห็นในช่องค่ะ
ถ้าเราต้องทำอาหาร 1 จานให้กับแฟนคลับทาน อยากทำเมนูอะไร?
กุ้งผัดพริกเกลือล่ะกัน เลิฟเพิ่งทำไป 55555
นอกจากมีช่องยูทูบของตัวเองแล้ว ยังมีแบรนด์เป็นของตัวเองด้วย เล่าให้ฟังหน่อยว่าแบรนด์ twenty wendy เกิดขึ้นได้ยังไง?
มีช่วงนึงที่เลิฟ อินเครื่องสำอางค์มาก ดูบิวตี้บล็อกเกอร์ทั้งวัน และดูพวกไลฟ์ขายเครื่องสำอางค์ใน IG ทั้งวันเลย และเลิฟก็ซื้อมาใช้ด้วย แต่เลิฟเป็นคนผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง ปากแห้งอะไรอย่างนี้ บางทีสิ่งที่ซื้อมาอ่ะเลิฟก็ชอบ แต่มันไม่ตรงกับที่เลิฟอยากได้ขนาดนั้น เลิฟก็เลยอยากทำเป็นของตัวเองดู แล้วช่วงนั้น glasting tint มันยังไม่ค่อยฮิตในไทย แต่ฮิตในเกาหลีมาก่อน แล้วเลิฟชอบดูของต่างประเทศ เราก็จะรู้เทรนด์ก่อน ในไทยช่วงนี้เขาเพิ่งมาฮิตกัน ซึ่งแบรนด์เราทำมาก่อนตั้งแต่ปีที่แล้ว ก็จะได้เปรียบ ตอนนี้ก็กำลังจะมีขายใน EVEANDBOY ด้วยค่ะ
เลิฟทำคนเดียวเลยเหรอ มีหุ้นส่วนมั้ย?
เลิฟทำคนเดียวเลย คิดเอง คุยกับโรงงานเอง บอกสเปคเอง วางแผนการตลาดทุกอย่างเองค่ะ แต่ก็มีปรึกษาเพื่อนด้วย เพราะว่าเราไม่เก่งเลข แต่ว่ามีเพื่อนที่เรียนพวกด้านนี้ก็จะไปปรึกษา เรื่องถ่ายแบบ คอลเลคชั่นแรกก็มีให้เพื่อนๆ มาเป็นแบบให้ แต่พอคอลเลคชั่นสอง เลิฟเริ่มมีทุนก็จะจ้างเป็นกิจลักษณะเลย
เวลาว่าง หลังจากเรียน ทำงาน ทำธุรกิจ เลิฟชอบทำอะไรอีกบ้าง?
ดูซีรีส์ เล่นเปียโน ตีกอล์ฟ เลิฟเคยเรียนเปียโนตั้งแต่ประถมต้นจนถึงม.3 แล้วก็เลิกเรียนไป เพราะม.4-6 ต้องเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย แล้วก็คือหายไปเลย เพิ่งกลับมาเล่นไม่นานเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว แต่ก็ยังจำได้ แต่อ่านโน๊ตไม่ค่อยคล่องแล้ว ที่กลับมาเรียนเพราะเลิฟรู้สึกว่า เราอยากมีสกิลติดตัวไว้
ถ้าใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ จะรู้ว่าเลิฟทำอะไรหลายอย่างมาก เลิฟมีวิธีในการแบ่งเวลาทำสิ่งต่างๆ ยังไง?
ก็คือจะเอาการเรียนไว้เป็นอันดับแรก ตอนนี้เลิฟเรียน 4 วัน อังคาร-ศุกร์ ก็จะลงตารางงานไม่ให้ตรงกับเวลาเรียน ส่วนในพาร์ทธุรกิจ เหมือนกับว่ามันอยู่ในหัวอยู่แล้วอ่ะ เลิฟจะชอบคิดงานตอนกลางคืน คือก่อนนอนก็จะเล่นโทรศัพท์ พอเห็นรูปนู้นรูปนี้ก็จะได้ไอเดีย เอาทุกอย่างมาคิดในหัว แล้วก็จดเอาไว้ ถ้าต้องลงมือทำ ออกกองก็จะลงอีกคิว วางไว้เป็นตารางงานเลยวันเสาร์-อาทิตย์
ในเรื่องการเรียน ถ้าสมมติว่าเราไม่ว่าง เรามีวิธีจัดการยังไง?
เลิฟจะบอกเพื่อนไว้ก่อนว่ามีคิวงานวันไหน แต่ส่วนใหญ่ที่คุยงานก็จะคุยตอนกลางคืน เลิฟก็จะเข้าคอลตลอด
ในการเรียน การทำงาน เราเคยมีปัญหาว่าคิดไม่ทันเลย ค่อยมาคิดใหม่ หรือเลื่อนไปเรื่อยๆ มั้ย?
จริงๆ เลิฟไม่ชอบเลื่อน ถ้าเกิดเลิฟคิดอะไรออกเลิฟก็จะจดไว้ก่อนเลย หรือไม่ก็โทรบอกเพื่อนให้ช่วยจำหน่อย เพราะเพื่อนก็รู้ว่าแบบเราทำงานอย่างนี้ เพื่อนก็คือจะช่วยด้วย
วิธีจัดการปัญหาในฉบับของเลิฟเป็นยังไง?
คือเลิฟแอบคิดว่า ไม่ใช่ทุกปัญหาที่มีทางออกอ่ะ บางทีปัญหานี้เลิฟไม่สามารถหาทางออกได้ เลิฟคิดว่าถ้าเกิดเลิฟทำในสิ่งที่มันอยู่ในปัญหาให้มันดีที่สุด เลิฟยอมรับได้ เลิฟโอเคกับสิ่งนั้น
ไม่ใช่ทุกปัญหาที่มีทางออก ทำในสิ่งที่มันอยู่ในปัญหาให้มันดีที่สุด เลิฟยอมรับได้ เลิฟโอเค
พี่เลิฟ” @loverrukk
อยากให้พี่เลิฟฝากอะไรถึงน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบ หรือกำลังค้นหาตัวเองอยู่หน่อย?
ก็อยากให้สู้ๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้มันต้องเรียนออนไลน์ ทั้งการเรียนการสอบก็ยากขึ้น แต่ก็อยากให้สู้ๆ และพยายามปรับตัวไปตามสถานการณ์ แล้วก็การค้นหาตัวเองเลิฟคิดว่าไม่ช้าก็เร็วมันจะมีจุดนึง ที่แบบเรารู้ตัวเอง ว่าสุดท้ายเราชอบอะไร อย่างนั่งๆ อยู่เราอาจจะรู้เลยก็ได้ว่าเราชอบสิ่งนี้ คือไม่อยากให้ไปกดดันตัวเองมาก เพราะว่ามีช่วงนึงที่เลิฟกดดันตัวเองมาก มันคิดไม่ออก ทีนี้ตื้อไปเลย เลยอยากให้สบายๆ มากกว่า
สุดท้ายให้พี่เลิฟฝากผลงานและช่องทางให้น้องๆ ไปติดตามกันหน่อยจ้า?
เร็วๆ นี้มาเจอกับเลิฟในซีรีส์ “แค่เพื่อนครับเพื่อน” น้องๆ อย่าลืมมาติดตามชมกันนะคะ ส่วนไอจี ทวิตเตอร์ ยูทูบ ชื่อ loverrukk หมดเลยฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณค่าา ^^
ได้นั่งคุยกับ “พี่เลิฟ” แล้วได้เห็นเลยว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่จัดสรรเวลาได้ดีมาก ทั้งเรื่องการเรียน การทำงานในวงการ และการทำธุรกิจ สามารถจัดการทุกอย่าง อย่างมีระบบ ทำให้สามารถทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำได้อย่างเต็มที่ รวมถึงแนวคิดเรื่องการค้นหาตัวเองด้วย ที่เราไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองเกินไป เพราะสิ่งที่เราชอบก็อยู่รอบๆ ตัวเรานั่นแหละ แค่เราให้โอกาสตัวเอง เปิดรับสิ่งต่างๆ สิ่งที่น้องๆ ตามหาพี่ๆ เชื่อว่ามันอยู่ไม่ไกลหรอก ลองเอาเทคนิคของพี่เลิฟไปปรับใช้ก็ได้น้าา
พี่ๆ CAMPHUB ก็จะคอยเป็นอีกทางที่จะช่วยให้น้องๆ รู้ว่าชอบอะไร อยากทำอะไร อย่าลืมล่ะ เปิดโอกาสให้ตัวเองด้วยนะ และถ้าหากใครไม่อยากพลาดข่าวค่ายหรือบทความดีๆ แบบนี้ ก็อย่าลืมแอดไลน์ไว้เลย ที่ @camphub (มี @ ด้วยนะ) สำหรับวันนี้ พี่เหมี่ยวและพี่เลิฟไปก่อนน้าา อีพีหน้าจะเป็น idol คนไหน รอติดตามด้วยยย บัยบายย
idol พี่เลิฟ ภัทรานิษฐ์ ลิ้มปติยากร
บทความ พี่เหมี่ยว CAMPHUB
ถ่ายภาพ พี่ซัน พี่โอ CAMPHUB และพี่ดิส
กราฟิก พี่เต้ย CAMPHUB
ประสานงาน พี่ฟิวส์ CAMPHUB