สวัสดีค่าน้องๆ ช่วงนี้เป็นยังไงกันบ้าง ใกล้ปีใหม่กันแล้ว น่าจะเป็นช่วงเวลาที่แฮปปี้ของน้องๆ หลายๆ คนเลย วันนี้พี่ฟ้า CAMPHUB มีค่ายที่อยากพาน้องๆ ทุกคนมาดูกัน นั่นก็คือค่าย ONE DAY VISIT – ONE DAY AT The Dream Galleria ที่จัดโดยพี่ๆ จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่าค่ายนี้ค่อนข้างแตกต่างจากค่ายอื่นๆ เพราะจัดแค่วันเดียวเท่านั้น แต่บอกได้เลยว่าภายในวันเดียวนี้ น้องๆ ที่มาจะได้รับความรู้ที่มีคุณภาพมากๆ กลับไปแน่นอน ใครที่สนใจในนิเทศจุฬาฯ มาค่ายนี้คุ้มแน่นอน! แล้วภายในหนึ่งวันน้องๆ จะได้เจออะไรบ้าง? ตามไปดูกันเลย..
ในหนึ่งวันนี้ เขาทำอะไรกัน?
ในช่วงเช้านี้ จะมีโชว์การแสดงเปิดตัวจากพี่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโชว์เต้นหรือเเฟชั่นโชว์ที่ได้แอบซุ่มซ้อมกันมาก่อนหน้านี้เพื่อต้อนรับน้องๆ อย่างอบอุ่น ซึ่งบอกได้เลยว่ามีทั้งความสนุก และเสียงหัวเราะจากบรรดาน้องๆ และพี่ๆ ทุกคนที่ร่วมงานเลยทีเดียว ตามมาด้วยการบรรยายหลักสูตรจากพี่ๆ ว่าหากน้องๆ เข้ามาเรียนที่คณะแห่งนี้ จะได้เรียนอะไรกันบ้าง มาๆ พี่จะเล่าให้ฟังว่าคณะนิเทศมีภาควิชาอะไรบ้าง..
คณะนิเทศศาสตร์ถูกเเบ่งออกเป็น 5 ภาค โดยในส่วนของการเลือกภาคนั้น น้องๆ สามารถเลือกได้ในระดับชั้นปีที่ 2 ประกอบด้วย
การประชาสัมพันธ์ (Public Relations)
โดยภาคนี้เเยกออกมาเป็นสองสาขาได้เเก่ สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ ( PR )
โดยจะได้เน้นเรียนเกี่ยวกับหลักการเเละการปฏิบัติการประชาสัมพันธ์ โดยภาคนี้มีความสำคัญสำหรับองค์กรอย่างมากไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่เพราะจุดมุ่งหมายของการ PR คือเพื่อให้สังคมเกิดความเข้าใจที่ดีต่อองค์กร ผ่านการสร้างกลยุทธ์ การสื่อสาร เเละเเก้ปัญหา โดยถ้าจบจากภาคนี้ไปน้องๆสามารถทำงานในหน่วยงานในการเป็นนักประชาสัมพันธ์ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นบริษัทเอกชนหรือองค์กรรัฐ
สาขาวิชาการโฆษณา (Advertising and Brand Communications)
เป็นภาคที่จะเน้นในด้านงานโฆษณาต่างๆ ทั้งในด้านของการตลาด การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เเละในด้านของการผลิตงานไม่ว่าจะเป็น เเคมเปญ การสื่อสารตราสินค้า เเละการทำสื่อโฆษณาอีกด้วยโดยอาชีพที่คนนิยมทำก็จะเป็นการทำงานในเอเจนซี่โฆษณาหรือในสายการตลาดนั่นเอง
การสื่อสารมวลชน (Mass Communication)
เนื้อหาการเรียนการสอนของภาคก็จะเน้นไปที่หลักการออกเเบบสื่อเสียงเเละสื่อภาพเเละเสียงอย่างไรให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์เเละกลุ่มเป้าหมายรวมถึงทักษะการผลิตสื่อผ่านภาคปฏิบัติ สำหรับน้องๆ ที่จบภาคนี้ไปก็สามารถประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ผู้ผลิตรายการ editor ร่วมงานกับ production house เเละอีกมากมาย
วารสารสนเทศและสื่อใหม่ (Journalism and new media)
จะเน้นเนื้อหาไปทางวิทยาการข่าวสารไม่ว่าจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่อสารสนเทศเเละยังเน้นทักษะในการค้นคว้าข้อมูล การหาข้อเท็จจริง การเขียน การวิเคราะห์เเละการสื่อสารอีกด้วย และภาคนี้ยังมีสาขาย่อยออกมา คือวิชาวารสารสนเทศเเละสื่อใหม่ (Journalism, Information and New Media) ที่จะเน้นไปที่การศึกษาสื่อใหม่ เเพลตฟอร์มออนไลน์ โดยอาชีพที่สามารถต่อยอดจากการเรียนภาคนี้ได้ มีค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น content writer นักข่าว นักเขียน หรือร่วมงานกับสำนักข่าว นิตยสาร วารสาร รวมถึงเพจออนไลน์ต่างๆ
วาทวิทยาและสื่อสารการแสดง (Speech Communication and Performing Arts)
วาทะความหมายคือการใช้คำพูดเเละภาษาส่วนนิเทศคือการสื่อสารดังนั้นสิ่งที่น้องๆ จะได้เรียนในภาคนี้คือการสื่อสารไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารระหว่างบุคคลเเละมนุษยสัมพันธ์ การพูดเพื่อธุรกิจ หรือหลักการโน้มน้าวใจ โดยน้องๆที่จบภาคนี้ไปสามารถประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็น พิธีกร event organizer HR หรือที่ปรึกษาการพัฒนาความสามารถในการสื่อสารให้องค์กรได้ด้วย
เเละสาขาวิชาสื่อสารการเเสดง (Performing Arts) น้องๆที่เข้ามาเรียนในภาคนี้จะได้เรียนรู้การเเสดงทั้งที่ปรากฏบนเวที ( stage production) เเละที่ปรากฏในสื่อ (media production) รวมไปถึงทฤษฎีของการสื่อสารการเเสดง โดยหากน้องๆจบจากสาขานี้ก็สามารถประกอบอาชีพได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นนักเเสดง ครูสอนการเเสดง ผู้กำกับการเเสดง หรือเเคสติ้ง
การภาพยนตร์และภาพนิ่ง (Motion Pictures and Still Photography)
ภาคฟิล์มของคณะนั้นให้ความสำคัญทั้งในภาคปฏิบัติเเละภาคทฤษฎีไม่ว่าจะเป็น การวิจารณ์เเละวิเคราะห์ภาพยนต์ การเขียนบท การกำกับ การตัดต่อ การกำกับ การถ่ายทำ รวมไปถึงศิลปะการถ่ายภาพนิ่ง โดยสายงานที่คนจบภาคนี้นิยมทำก็จะเป็นในส่วนของการทำงานร่วมกับบริษัทภาพยนต์ โปรดักชั่นเฮาส์หรือบริษัทโฆษณารวมถึงการเป็นผู้กำกับหนังอีกด้วย
จะเห็นได้ว่ามีภาคให้น้องๆ เลือกได้มากมายเลย ใครสนใจด้านไหนก็ลงเรียนด้านนั้นได้ตามใจชอบ น้องๆ คนไหนสนใจเเละอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่ www.commarts.chula.ac.th
ในช่วงบ่าย พี่ๆ ก็ได้แบ่งน้องเป็นกลุ่มๆ เพื่อไปยังฐานต่างๆ โดยแต่ละฐานจะเป็นความรู้และองค์ประกอบของการสร้างละครเวทีขึ้นมาหนึ่งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเอฟเฟค ฝ่ายเสียง ฝ่ายเสียง ฝ่ายแสง โดยน้องๆ จะได้พบกับพี่ๆ นิเทศศาสตร์ที่ทำงานฝ่ายนั้นจริงๆ พาน้องๆ มารู้จักและเข้าใจงานของฝ่ายนั้นๆ รวมถึงลองเวิร์กช็อปเล็กๆ ร่วมกันในแต่ละฝ่าย อย่างในฝ่ายเพลง น้องๆ ก็ได้ลองแต่งเพลงตามโจทย์ ที่พี่ๆ ซุ่มเตรียมไว้ให้ เเละในตอนสุดท้ายน้องๆ ยังสามารถสร้างละครเป็นของตัวเอง
โดยการจับฉลากคำขึ้นมา 3 คำ ที่จะกำหนดธีมละคร และ 1 สถานที่ ที่กำหนด setting ของละคร แอบเห็นน้องๆ ตั้งใจทำกันแล้วรู้สึกอิจฉามากๆ เลยค่ะ แอบบอกว่า.. เมื่อเสร็จสิ้นทุกกิจกรรมยังมีกิจกรรมเซอร์ไพรส์พิเศษ ที่หากใครอยากรู้ ต้องลองสมัครในปีหน้าๆ เพื่อมาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆ เลยล่ะค่ะ รับรองว่าคุ้มมากๆ ซึ่งรับรองว่าในแต่ละปีก็จะไม่เหมือนกันอีกด้วยนะ
ได้เรียนรู้เรื่องราวของคณะ ภาควิชา และกิจกรรมต่างๆ ไปแล้ว เรามาทำความรู้จักละครนิเทศในปี 2023 The Dream Galleria ให้มากกว่าเดิม
ทำไมต้องเป็นห้างเเละฝัน?
โดยปกติแล้ว ในช่วงต้นของการทำละคร จะมีการเปิดให้คนในคณะสามารถเสนอไอเดียธีม (Theme) สำหรับละครในปีนั้นๆ ได้ แรกเริ่มเราได้ไอเดียธีม “ห้างสรรพสินค้า” มาก่อน ก็มาคิดกันว่า ห้างเป็น setting ที่น่าสนใจในการทำละครเวที มันมีทั้งองค์ประกอบที่น่าสนใจและมีส่วนที่สามารถหยิบมาใช้เป็นลูกเล่นที่สนุกสนาน และตื่นตาตื่นใจ (spectacle) แต่ห้างที่ขายสินค้าธรรมดาเราอาจจะพบได้ทั่วไป เราเลยอยากลองหยิบประเด็นเรื่อง “ความฝัน” ที่มีความจับต้องได้ยาก มาเป็นสินค้าของห้างพวกเรา ทำให้รู้สึกสนใจมากขึ้นไปอีก ก็เลยนำมาสู่คำถามตั้งต้นว่า หากความฝันสามารถซื้อ-ขาย หรือแต่งเติมได้มันจะเป็นยังไง? ยิ่งความฝันที่ขายบวกกับห้างที่ใหญ่โต ทำให้เห็นภาพความแฟนตาซีที่จะถูกถ่ายทอดผ่านเรื่องราวของคนในห้าง และการมาใช้บริการห้าง ก็นับว่าเป็นการรวมกันของไอเดียที่แปลกใหม่และตื่นเต้น รอให้ทุกคนได้มาใช้บริการและสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นที่ห้างสร้างฝันของเรา
ที่มาที่ไปของดรีมเเกลลอเรีย?
หลังจากได้ธีมที่มาจากคนทั้งคณะแล้ว ทีมกำกับและทีมเขียนบทก็มาช่วยกันคิดว่า ละครเกี่ยวกับ “ห้างสร้างฝัน” จะออกมาในแนวทางไหนได้บ้าง เริ่มตั้งแต่การเลือกว่า “ฝัน” ในที่นี้ควรเป็นฝันที่หมายถึงเป้าหมายชีวิต หรือ ฝันที่เป็นภาพระหว่างนอนหลับ เราตัดสินใจเลือกฝันที่เป็นภาพขณะนอนหลับ เพราะมีความแปลกใหม่และได้กลิ่นอาย magical
ตลอดเวลาที่ทำงานมา ก็มีไอเดียมากมายเลย หนึ่งในนั้นคือเรื่อง “การฝันถึงคนที่จากไปแล้ว” ซึ่งเรามองว่ามันเป็นเรื่องที่หลายคนเคยเจอ และน่าสนใจมากถ้าจะเอาประเด็นนี้มาเล่าในละคร เราเลยคิดว่า งั้นให้ห้างสร้างฝันของเรา ทำให้ลูกค้าได้กลับไปพบคนสำคัญที่จากไปอีกครั้งในฝันดีกว่า ความฝันในเรื่องนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ภาพที่เกิดขึ้นระหว่างนอนหลับเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อความสุดท้ายที่คนที่จากไปแล้วฝากถึงคนที่ยังมีชีวิตอยู่ และผู้คนมากมายก็จะมารับข้อความนี้ได้ ด้วยการฝันที่ The Dream Galleria
ได้รู้จักค่ายและคณะรวมถึงละครเวทีของชาวนิเทศกันไปแล้ว เราก็มีสารจากพี่ค่ายถึงน้องค่ายซึ้งๆ ที่อยากจะฝากไว้ก่อนพบกันใหม่ในปีถัดไป
เราเชื่อว่าความฝันเป็นหนึ่งในแรงผลักดันให้ทุกคนก้าวต่อไปข้างหน้า หวังว่าน้องๆทุกคนที่ได้มาร่วมกิจกรรมนี้จะได้แรงจุดประกายบางอย่างที่ทำให้หาความฝันเจอ และมีไฟในการทำให้ฝันนั้นเป็นจริงนะครับ :)
ส่งท้าย
นี่แหละค่ะ บอกได้เลยว่าน้องมาเข้าค่ายนี้แค่ครั้งเดียว ก็สามารถรู้ได้ว่าหากเข้ามาเป็นนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้วล่ะก็ น้องอาจจะได้พบกับอะไร และสามารถทำอะไรได้บ้าง สุดท้ายนี้ขอปิดไปด้วย Trailer โปรโมทละครปีนี้มาให้ชมก่อนจากกัน แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้า จะมีค่ายไหนมารีวิวให้ฟัง อย่าลืมติดตาม CAMPHUB ไว้ให้ดีๆ วันนี้ไปก่อนน้า บั๊ยบายย
ซื้อบัตรละครได้แล้ววันนี้: ticketmelon.com/nitade-cu
รายละเอียด: facebook.com/lakornnitade
เขียนโดย พี่ๆ One Day Visit 2022 นิเทศจุฬาฯ
เรียบเรียงโดย พี่ฟ้า CAMPHUB