เมื่อผู้คนหันมาทำคอนเทนต์กันมากขึ้น ย่อมเกิดเทรนด์ที่มักทำตามกันมากมาย ซึ่งเทรนด์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก็มีทั้งแบบสร้างสรรค์ และบางอันที่ดูสุ่มเสี่ยงจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ ยิ่งเทรนด์นั้นเกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางหรือกลางสาธารณะ เรายิ่งต้องไตร่ตรองให้ดีว่าเหมาะสมที่จะทำตามหรือไม่ เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนแก่คนรอบข้าง
เช่นเดียวกับ ‘Airport Tray Aesthetic’✈️ เทรนด์ของวัยรุ่นฝั่งตะวันตกที่เป็นประเด็นร้อนช่วงปีที่ผ่านมา ว่าด้วยการนำเอาสัมภาระของตัวเองมาจัดให้ได้องค์ประกอบสวย ๆ เก๋ ๆ บนถาดตรวจสัมภาระก่อนผ่านเครื่องสแกนความปลอดภัยในสนามบิน จากนั้นก็ถ่ายรูปหรือวิดีโอถาดนั้นโพสต์ลงโซเชียล ด้วยความแปลกใหม่ของเทรนด์นี้ จึงทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเจนใหม่ เนื่องจากพวกเขามองว่ามันเป็นคอนเทนต์ที่สามารถโชว์ถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ดี ทั้งด้านการท่องเที่ยว การแต่งตัว ของใช้ รวมถึงสถานะการเงิน
ถึงแม้ว่า Airport Tray Aesthetic จะฮอตฮิตมากแค่ไหน ก็ถูกตั้งเป็นประเด็นวิจารณ์กันในโลกโซเชียล เพราะมีคนจำนวนไม่น้อย มองว่าการทำแบบนี้ไม่เหมาะสม แถมมีข้อเสียที่จะตามมาหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
⚠️กระทบต่อเจ้าหน้าที่และผู้โดยสารคนอื่น: เนื่องจากจุดดังกล่าวเป็นจุดเร่งด่วนที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความปลอดภัยแบบเข้มงวด การที่มีคนไปจัดของเพื่อถ่ายรูปก็อาจส่งผลกระทบต่อผู้ร่วมทางคนอื่น ๆ รวมถึงอาจทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ล่าช้าเพิ่มขึ้น
⚠️ความสะอาด: ถาดในสนามบินมักมีคนเวียนกันใช้ตลอดเวลา จึงถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้ถูกสุขอนามัย 100% ดังนั้นหากเราใช้เวลาตกแต่งถาดตรวจให้สวยงามมากเท่าไหร่ ยิ่งหมายถึงเรามีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคได้นานเท่านั้น
⚠️ความปลอดภัย: การที่เราโพสต์ของส่วนตัวลงโซเชียล ไม่ว่ากระเป๋า เข็มขัด เครื่องประดับ หรือของมีค่าต่าง ๆ อาจนำไปสู่การก่อเหตุอาชญากรรมขึ้นได้ เพราะเหมือนเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวแก่มิจฉาชีพรับรู้มากขึ้น
ไม่เพียงแค่เทรนด์ Airport Tray Aesthetic ที่เกิดขึ้นในสนามบินเท่านั้น แต่ในการเดินทางทุกชนิด ทั้งรถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า รถแท็กซี่ ฯลฯ เราควรคำนึงถึงส่วนรวมเป็นหลักเสมอ เคารพกฎระเบียบที่ควรปฏิบัติและไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น อย่าง ‘ข้อปฏิบัติการเดินทางพื้นฐาน’ ดังนี้
❌ไม่ยกเท้าวางตรงที่วางแขน หรือไม่เอาขาเตะเบาะที่นั่งข้างหน้า: ส่วนใหญ่ในห้องโดยสารจะมีพื้นที่นั่งจำกัด ระยะห่างระหว่างเก้าอี้น้อย อาจทำให้รู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่ควรยกเท้าหรือแขนขาไปรบกวนผู้อื่น เพราะดูเป็นเรื่องที่เสียมารยาทและก่อให้เกิดความสกปรก
❌ไม่พูดคุยเสียงดัง: ไม่ว่าจะเป็นการโดยสารด้วยพาหนะใด ๆ การไม่พูดคุยเสียงดังถือเป็นมารยาทพื้นฐาน เพื่อป้องกันการรบกวนผู้โดยสารคนอื่น
❌ไม่ลุกนั่งตลอดเวลา: นอกจากจะเป็นการกระทำที่ไม่ปลอดภัยต่อตนเอง เพราะมิจฉาชีพอาจเข้ามาขโมยของแล้ว การลุกนั่งตลอดเวลานั้นสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่นด้วย
❌ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ: แม้บางพาหนะจะมีการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดื่มจนขาดสติ ดังนั้นตามมารยาทจึงไม่ควรดื่มมากเกินไป จนไม่สามารถควบคุมความประพฤติตัวเองได้
นอกจากพฤติกรรมข้างต้นแล้ว เรื่อง ‘การพกสิ่งของต้องห้าม’ ก็สำคัญ โดยเฉพาะบนเครื่องบิน ฉะนั้นเราควรหลีกเลี่ยงสิ่งของเหล่านี้ในการเดินทาง
🚫 ของมีคม: ที่สามารถก่อให้เกิดอันตราย เช่น มีด เข็ม กรรไกร มีดโกน เป็นต้น ทั้งนี้ของบางชนิดอย่างกรรไกรตัดเล็บก็อาจได้รับการอนุโลม แต่ทางที่ดีไม่ควรพกพาเพื่อความปลอดภัย
🚫 วัตถุไวไฟ: เช่น ไฟแช็ก ดอกไม้ไฟ ไม้ขีดต่าง ๆ เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายระหว่างการเดินทางได้
🚫 แบตสำรอง: เป็นของต้องห้ามสำหรับโหลดใต้เครื่องบิน แต่แบตเตอรี่สำรองในขนาดความจุไฟฟ้าไม่เกิน 32,000 mAh สามารถพกติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น
🚫 อาหารที่มีกลิ่นรุนแรง: เช่น ทุเรียน ปลาร้า ของดอง หรือของที่ส่งกลิ่นรุนแรง แต่สามารถแพ็กเป็น***บห่อเพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้
🚫 วัสดุแตกหักเปราะง่าย: เช่น แก้ว หรือขวดแก้ว เพราะถ้าเกิดการแตกหักสามารถนำมาเป็นอาวุธได้
🚫 ของบางชนิดที่ประเทศปลายทางห้ามนำเข้า: เวลาที่เราจะบินไปประเทศไหนก็ตาม บางประเทศจะมีกฎห้ามนำของบางชนิดเข้าประเทศ ไม่ว่าจะของใช้หรือของกิน เช่น ประเทศไต้หวัน ห้ามนำผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมู รวมถึงผักผลไม้สดทุกชนิดเข้าประเทศ เป็นต้น ดังนั้นเราควรเช็กกฎหมายของประเทศที่จะไปให้ดี
🚫 ยาเสพติดหรือสารอันตรายทุกชนิด สัตว์มีพิษ รวมถึงสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์
เมื่อทำตามกฎข้างต้นแล้วอย่าลืมคำนึงถึงเรื่องความสะอาด มีน้ำใจต่อผู้ที่เดินทางร่วมกันด้วย เช่น ไม่วางสัมภาระขวางทาง แบ่งปันที่นั่ง เป็นต้น ทั้งนี้รวมไปถึงพื้นที่ที่ใช้ร่วมกันกับคนอื่น อย่างโรงหนัง สวนสาธารณะ ก็ควรปฏิบัติตามกฎแต่ละสถานที่อย่างเคร่งครัดเช่นกัน
แม้บางเทรนด์จะดูเก๋และดูดีเวลาเห็นในโซเชียลมากแค่ไหน แต่เราต้องไม่ลืมนึกถึงโลกความจริงด้วย ว่าเทรนด์หรือพฤติกรรมเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อผู้อื่นหรือไม่ อย่าลืมว่าในสังคมนี้เราจำเป็นต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น ฉะนั้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบจึงสำคัญ และอย่าติดคอนเทนต์เกินไป จนกระทบกับการใช้ชีวิตตัวเองและคนรอบข้าง
เขียนบทความโดย : พี่ๆ ทีมงาน AFTERKLASS
