กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB up inter with Twinkl

จะเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ ในช่วงโควิด-19 ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

เดือนกันยายนของทุกๆ ปี คือช่วงเปิดภาคเรียนของประเทศอังกฤษ น้องๆ นักเรียน นักศึกษาที่จะมาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษอาจจะกำลังหาข้อมูลกันอยู่ วันนี้พี่ๆ CAMPHUB และ Twinkl ขอแวะมาให้คำแนะนำ พร้อมเล่าสถานการณ์ปัจจุบัน ว่าในตอนนี้คนที่อังกฤษใช้ชีวิตกันอย่างไร หลังจากที่รัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ไปเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา

เดินทางมาจากไทยต้องกักตัวหรือไม่

สำหรับผู้เดินทางที่มาจากไทยยังต้องกักตัวเป็นเวลา 10 วันที่โรงแรมสถานที่กักตัว (Quarantine hotel) ตามนโยบาย Traffic Light System หรือการจัดกลุ่มประเทศตามความเสี่ยงโควิด-19 ของประเทศอังกฤษ (ข้อมูลนี้อัปเดตล่าสุดเมื่อวันที่  27 สิงหาคม 2021) ทางรัฐบาลได้แบ่งประเทศจากทั่วโลกเป็นสามกลุ่มดังนี้

อย่าลืมแอดไลน์ @CAMPHUB
  1. กลุ่มสีเขียว (Green list) คือประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ ก่อนเดินทาง ต้องมีผลตรวจโควิดก่อนเดินทาง 3 วัน ต้องจองและจ่ายเงินสำหรับการตรวจโควิดเมื่อมาถึงอังกฤษแล้ว และต้องกรอกแบบฟอร์ม Passenger Locator Form และเมื่อถึงประเทศอังกฤษไม่ต้องกักตัว นอกจากว่าจะมีผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19
  1. กลุ่มสีเหลือง (Amber list) คือกลุ่มประเทศความเสี่ยงปานกลาง สำหรับคนที่มาจากประเทศกลุ่มสีเหลือง เช่นเดียวกันกับกลุ่มประเทศสีเขียว ก่อนเดินทาง ต้องมีผลตรวจโควิดก่อนเดินทาง 3 วัน ต้องจองและจ่ายเงินสำหรับการตรวจโควิดเมื่อมาถึงอังกฤษ และต้องกรอกแบบฟอร์ม Passenger Locator Form ให้เรียบร้อย เมื่อมาถึงประเทศอังกฤษแล้วต้องกักตัวเป็นเวลา 10 ในที่พำนักของตัวเองที่ระบุไว้ในแบบฟอร์ม ในระหว่างการกักตัว ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในวันแรกที่มาถึงหรือภายในวันที่ 2 และวันที่ 8 (หรือหลังจากวันที่ 8) ของการกักตัว สำหรับกลุ่มสีเหลือง ผู้เดินทางสามารถเลือกตรวจโควิด-19 เพิ่มเติมในวันที่ 5 ของการกักตัว (Test to Release Scheme) ซึ่งจะต้องสั่งจองชุดตรวจโควิดล่วงหน้าก่อนเดินทาง โดยหากได้รับผลเป็นลบ (ไม่มีเชื้อ) ก็สามารถยุติการกักตัวก่อนกำหนด 10 วันได้ 
  1. กลุ่มสีแดง (Red list) คือกลุ่มประเทศความเสี่ยงสูง ซึ่งประเทศไทยได้ถูกย้ายจากกลุ่มสีเหลืองมาอยู่ในกลุ่มสีแดง เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2021 สำหรับคนไทยหรือน้องๆ นักเรียน นักศึกษาไทย ก่อนเดินทางจะต้องมีผลตรวจโควิด-19 ทำการจองและจ่ายเงินค่าโรงแรมที่ประเทศอังกฤษสำหรับการกักตัว ค่าใช้จ่ายสำหรับ Quarantine hotel อยู่ที่ £2,285 ต่อคน นอกจากนี้ ยังต้องจองและจ่ายเงินสำหรับการตรวจโควิดเมื่อมาถึงอังกฤษอีกด้วย เมื่อมาถึงประเทศอังกฤษแล้ว ก็ต้องกักตัวที่โรงแรมเป็นเวลา 10 วัน พร้อมตรวจโควิดในวันแรกที่มาถึงหรือภายในวันที่ 2 และวันที่ 8 (หรือหลังจากวันที่ 8) ของการกักตัว
ภาพจาก: twinkl.co.th

รายชื่อประเทศใน Traffic Light System จะมีการรีวิวและอัปเดตทุกๆ 3 สัปดาห์ สามารถติดตามการอัปเดตรายชื่อประเทศของแต่ละกลุ่มสีได้ผ่านทางลิงก์ Red, amber and green list rules for entering England 

เมื่อมาถึงอังกฤษแล้วต้องทำอะไรบ้าง

ในสถานการณ์ปกติ น้องๆ ที่มาเรียนที่อังกฤษสามารถเลือกสนามบินที่สะดวกหรือใกล้มหาวิทยาลัยของตัวเองได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “ประเทศสีแดง” และต้องกักตัวที่โรงแรม เที่ยวบินตรงจากประเทศกลุ่มสีแดงจะต้องมาถึงอาคารผู้โดยสาร Red List โดยเฉพาะ และมีแค่ 2 สนามบินเท่านั้นที่เปิดให้ผู้เดินทางจากประเทศไทยสามารถเข้ามาที่ประเทศอังกฤษได้ นั่นก็คือ สนามบินฮีทโธรว์ ที่ลอนดอน (London Heathrow) และ สนามบินเบอร์มิ่งแฮม (Birmingham Airport) หลังจากที่น้องๆ มาถึงสนามบินแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะตรวจพาสพอร์ต, แบบฟอร์ม Passenger Locator Form และผลตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบ จะมีรถบริการรับและไปส่งที่โรงแรม ห้ามใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือรถส่วนตัวโดยเด็ดขาด ทุกคนจะต้องสวนหน้ากากอนามัยตลาดเวลา เจ้าหน้าที่จะจดบันทึกตำแหน่งของทุกคนที่อยู่บนรถ  หากว่ามีใครตรวจพบเชื้อโควิด-19 ภายหลังจะสามารถระบุได้ว่าใครสัมผัส หรือนั่งใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ 

การกักตัวจะสิ้นสุดลงเมื่อได้รับผลการตรวจหาเชื้อในวันที่ 8 ว่าผลเป็นลบ ไม่มีอาการของโควิด-19 และกักตัวครบ 10 วันแล้ว (วันที่มาถึงนับเป็นวันที่ 0) รถบริการจะมารับที่โรงแรมและกลับไปส่งที่สนามบินเดิม แต่ถ้าผลตรวจในวันที่ 8 ออกมาเป็นบวก ก็จะไม่สามารถออกจากโรงแรมกักตัวได้ และต้องกักตัวต่อไปอีก 10 วัน นับจากวันที่ได้รับผลตรวจ และแม้ว่าการตรวจในวันที่ 8 ออกมาเป็นลบ แต่มีอาการของโควิด-19 ในวันที่ 9 หรือวันที่ 10 ก็จะต้องมีการตรวจเพิ่มเติมและถ้าผลออกมาเป็นบวก ก็ต้องกักตัวต่อเป็นเวลา10 วัน

ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วยังต้องกักตัวหรือไม่

สำหรับน้องๆ นักเรียน นักศึกษาที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มจากประเทศไทย เมื่อเดินทางเข้าประเทศอังกฤษก็ยังคงต้อง “กักตัว” ตามกฎระเบียบของกลุ่มประเทศสีแดง

นักเรียนไทยสามารถฉีดวัคซีนที่อังกฤษได้หรือไม่

รัฐบาลอังกฤษได้จัดให้มีการฉีดวัคซีนให้กับทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นประชากรของประเทศอังกฤษเองหรือเป็นชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศ การฉีดวัคซีนของประเทศอังกฤษจัดทำผ่านสถานบริการสุขภาพ โดยองค์กร National Health Service (NHS) ทุกคนในประเทศต้องลงทะเบียนกับ NHS เพื่อเข้าถึงการบริการสุขภาพทั่วไป รวมไปถึงการฉีดวัคซีน สำหรับนักเรียน นักศึกษา ก็จะมีสถาบันไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเป็นผู้ทำหน้าที่ให้คำแนะนำในการลงทะเบียน

การใช้ชีวิตที่อังกฤษในสถานการ์โควิด-19

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางรัฐบาลอังกฤษได้ออกมาประกาศคลายล็อกดาวน์แล้ว กฎต่างๆ ได้มีการยกเลิกหรือผ่อนปรนจากเดิม

  • คนในประเทศอังกฤษไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากเมื่อเข้าไปในบริเวณปิด เช่น ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ซูเปอร์มาเก็ตแล้ว แต่ก็ยังเห็นได้ว่าบางร้านค้าหรือสถานที่ Indoor ยังคงติดป้ายขอความร่วมมือในการใส่หน้ากากอยู่ ตัวอย่างเช่น Sainsbury’s ซูเปอร์มาเก็ตได้เปลี่ยนป้ายจาก “Please wear a face covering” (กรุณาสวมหน้ากากอนามัย) เป็น “Wearing a face covering is now a personal choice” (การสวมหน้ากากอนามัยเป็นทางเลือกส่วนตัว)
ภาพจาก: Sainsbury’s
  • ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ (Public Transport) เช่น รถบัส รถไฟ รถไฟใต้ดิน (Tube) บางแห่ง ยังคงกำหนดให้ผู้เดินทางใส่หน้ากากกันอยู่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ อย่างเช่น ลอนดอน ในช่วง rush hour (ช่วงเวลาเร่งด่วน) ทั้งรถบัสและรถไฟใต้ดินจะค่อนข้างแออัด
  • ร้านอาหาร คาเฟ่ต์ ผับ บาร์ และไนท์คลับสามารถเปิดให้บริการได้ ไม่มีข้อจำกัดของจำนวนคนต่อโต๊ะ
  • โรงแรม โฮสเทล Bed & Breakfast และสถานที่ท่องเที่ยว เช่น พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ โรงละคร เปิดให้บริการได้ตามปกติ
  • การจัดกิจกรรมและการจัดงาน เช่น คอนเสิร์ต งานเทศกาล งานกีฬา(ฟุตบอล, งานวิ่ง) สามารถจัดได้โดยไม่มีจำกัดจำนวนคน
งานคอนเสิร์ต Tramline ที่เมือง Sheffield เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
ภาพจาก: YorkshireLive
  • การรักษาระยะห่าง หรือ Social Distancing ไม่เป็นที่บังคับอีกต่อไป
  • นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยสามารถกลับไปเรียนในสถานศึกษาได้ แต่ในบางสถานศึกษายังมีนโยบายเรื่องการใส่หน้ากากอยู่ หรือการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อยู่ น้องๆ สามารถเช็คกับทางมหาวิทยาลัยได้โดยตรง

ดูเหมือนว่าการใช้ชีวิตในประเทศอังกฤษจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่พี่ๆ ก็อยากให้น้องๆ นักเรียน นักศึกษาที่กำลังจะเดินทางมาเรียนที่นี่ ระมัดระวังตัวเองอยู่เสมอ แนะนำให้แพ็กหน้ากากอนามัยจากเมืองไทยมาเผื่อไว้ เพราะที่อังกฤษราคาจะแพงกว่าที่ไทย ติดตามข่าวสารผ่านเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นประจำ ตามอ่านข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศอังกฤษผ่านทาง gov.uk/coronavirus  และเข้าไปอ่านคำแนะนำ หรือหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับการเดินทางมาอังกฤษ เพิ่มเติมได้ที่ อัปเดตข้อมูลการเดินทางไปอังกฤษสำหรับนักเรียน/นักศึกษาในสถานการณ์โควิด-19 นะคะ

นอกจากนี้ น้องๆ ยังสามารถติดตามบทความเกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลข่าวสาร หรือสาระน่ารู้เกี่ยวกับประเทศอังกฤษและประเทศอื่นๆ ที่คอลัมน์น้องใหม่ CAMPHUB up inter with Twinkl กันได้เลย บทความต่อไปจะเป็นอย่างไร.. อย่าลืมติดตามกันน้าาา

เขียนโดย Twinkl
เรียบเรียงโดย พี่จา CAMPHUB

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

พี่จา

พี่จา นิสิตคณะนิเทศ จุฬาฯ ชื่นชอบการเขียนตั้งแต่เริ่มจับดินสอเป็น