มีเกมจำนวนไม่น้อยเลย ที่สร้างขึ้นจากชีวิตจริง ที่มีกฏ กติกาของบริบทนั้น ๆ ต่างกันไป บอร์ดเกมเหล่านี้ทำให้เราได้เข้าใจกฏของโลก กฎของบริบทต่าง ๆ ในสังคม โดยที่เราไม่ต้องไปเจอเหตุการณ์นั้นจริง ๆ
วันนี้เรามี 4 เกม ที่เล่นแล้วนอกจากจะสนุก ยังได้แง่คิดว้าว ๆ กลับไปด้วย
1. Pandemic
เหตุการณ์โรคระบาดโควิด ทำให้เกมนี้กลับมาดังขึ้นอีกครั้ง (ซึ่งเค้าดังมากอยู่แล้วนะ) ผู้ออกแบบเกมนี้ได้แรงบัลดาลใจจากการแพร่ระบาดของโรค SARS ในปี 2003 Pandemic เป็นบอร์ดเกมสำหรับเล่น 1-4 คน รับบทเป็นผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านโดยต้องร่วมมือกันยับยังเหล่าไวรัส ไม่ให้แพร่ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งหากใครได้เล่นเกมแล้ว จะรู้สึกว่ามันเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมากกกก จะเข้าใจว่าทำไมถึงต้องมีการยับยั้งการบินข้ามประเทศทันที ทำไมการคิดค้นวัคซีนถึงเป็นทางออก และทำไมแต่ละประเทศควรร่วมมือกัน มากกว่าแค่เอาตัวเองรอด ซึ่งสิ่งที่ผู้เล่นจะได้รับคือการวางแยนระยะยาว ระยะสั้น และการสื่อสารกันในทีม
2. Cash Flow
เกมนี้เป็นเกมที่ถูกเอาไปใช้ในวงการการเงิน เพื่อขายผลิตภัณฑ์ทางการเงิน จนผู้ใหญ่หลาย ๆ คนรู้สึกไม่ดีกับเกมนี้กันไป แต่ แต่ แต่ตัวบอร์ดเกม และข้อคิดที่ได้นั้นถือว่าทรงพลังมาก มากจนอยากให้น้อง ๆ ได้เล่นสักครั้งในชีวิต
Cash Flow เป็นเกมการเงินที่คล้ายกับชีวิตจริง ผู้เล่นแต่ละคนจะได้การ์ดอาชีพ เงินเดือน และค่าใช้จ่ายในชีวิต ที่แตกต่างกัน แต่ละคนจะใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ เพื่อที่บรรลุ Passive Income แต่ละคนต้องเรียนรู้ที่จะวางแผนทางการเงิน สร้างกลยุทธ์การลงทุน เพื่อที่ชนะในเกมนี้ ความเจ๋งของมันคือ เวลา 60 ปีในชีวิตเรา จะถูกย่อมาให้อยู่ใน 1-2 ชม. เราจะเห็นภาพว่า มีลูกจะต้องใช้เงินเพิ่ม หากเจ็บป่วยจะต้องใช้เงินเพิ่ม เงินสำคัญกับชีวิตแค่ไหน และทำไมเราต้องวางแผน และถ้าจะวางแผนต้องทำยังไง ไม่น่าเชื่อว่าเกมแค่ 1-2 ชม. จะทำให้เราเข้าใจ Concept ของเรื่องที่อาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิต ซึ่งเหมือนจะจริงจังแต่พอเป็นเกมเล่นกับเพื่อน ก็คือสนุกมากจ้า
3. Fire in the Lake
มาสายประวัติศาสตร์กันบ้าง ใครที่ไม่ชอบประวัติศาสตร์ แต่อยากเข้าใจเหตุการณ์สงครามในประวัติศาสตร์ อยากเข้าใจความรู้สึกของแต่พรรคพวก แต่ละฝ่าย ต้องลอง!
Fire in the Lake จำลองสถานการณ์ของสงครามเวียดนาม ที่มีฝั่งคอมมิวนิสต์อย่างรัสเซีย และจีน อีกฝั่งคือโลกมหาอำนาจแห่งโลกเสรี สหรัฐอเมริกา ความพีคของเกมคือ แม้ว่าผู้เล่น 4 คน ถูกแบ่งเป็น 2 ฝ่าย แต่เกมนี้จะมีผู้ชนะได้แค่คนเดียว เหมือนกับเหตุการณ์จริง ที่แต่ละกลุ่มย่อยมีความต้องการของตนเอง และจะต้องบรรลุสิ่งนั้น
ความสนุกคือ Action ต่าง ๆ ของแต่ละฝ่ายจะแตกต่างกันตามประวัติศาสตร์ แต่จะส่งผล ปะทะกันราวกับสงครามจริง เกมนี้จะทำให้ผู้เล่นเข้าใจประวัติศาสตร์ การเมือง การสงคราม เศรษฐศาตร์ ได้อย่างสนุกกว่าอ่านหนังสือเป็นไหน ๆ
4. Business Simulation Game
บอร์ดเกมที่ถูกคิดค้นออกมาเพื่อให้ผู้เล่น ได้ลอง “เจ๊ง” แบบไม่ต้องไปเจ็บจริง ผู้เล่นจะได้เข้าใจองค์ประกอบต่าง ๆ ของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น Price, Place, Product, R&D, Marketing, Human Resource, Finance, Operation& Supply Chain รวมทั้งเข้าใจกลไกตลาดพื้นฐาน โจทย์ของเกมคือการ การบริหารธุรกิจให้ได้กำไรมากที่สุด
ความต่างก็เกมนี้คือ มันเป็นบอร์ดเกมในคลาสเรียน ที่เมื่อจบการวางแผนแต่ละตา ผู้เล่นจะได้รับผลลัพธ์ของกลยุทธ์ ที่ผ่านการ Simulate ผ่านอัลกอริทึมของตลาดจริง ๆ และเมื่อจบคลาส แต่ละกลุ่มจะผลัดกันมาเล่าถึงกลยุทธ์และบทเรียนที่ได้รับ จากการเล่น เห็น ๆ กันไปเลยว่ากลยุทธ์แต่ละแบบ ตลาดตอบสนองยังไง จากความตั้งใจแรกของทีม BASE Playhouse ที่ต้องการทำให้เด็กไทย เข้าใจโลกธุรกิจ ได้ง่าย สนุก ซึ่งวันนี้ Business Simulation Game ถูกพัฒนาไปใช้กับนักศึกษามหาวิทยาลัย และพนักงานในองค์กรแล้ว
การเล่นบอร์ดเกม นอกจากความสนุก ยังคงได้ ความรู้ ทักษะ และทัศนคติใหม่ ๆ ทำให้ผู้เล่นได้เรียนรู้บริบทต่าง ๆ จำลองเป็นบทบาทสมมติที่เกมเหล่านั้นเซ็ตไว้ คราวนี้หากจะขอที่บ้านซื้อบอร์ดเกม หรือไปเล่นบอร์ดเกมที่ไหน ลองบอกแบบนี้ดูสิ 🤫