บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Warwick Institute
สวัสดีน้องๆ ที่น่ารักทุกคน พบกับบทความพิเศษจากเรากันอีกครั้งนะครับ
วันนี้พี่จะมาพูดถึงกลเม็ดในการสอบ BMAT หรือ BMAT Super Tips สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเรียนต่อในคณะในฝัน อย่างคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ รามาฯ ธรรมศาสตร์ และ มศว. กัน
- พบกับกูรูสายวิทยาศาสตร์ที่มีประสบการณ์สอนมากกว่า 10 ปีของ Warwick Institute ที่คร่ำหวอดวิชา BMAT ทุกคนได้ SAT Subject Test 800 เต็ม
- เจาะลึกรายละเอียดข้อสอบ BMAT ทุก Section
- ทดลองทำข้อสอบและฟังเฉลยพร้อมแนะนำเทคนิคเด็ด อาวุธลับ แบบที่ไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อน
- แนะนำการเตรียมตัวสอบ BMAT ให้คะแนนสูงได้รวดเร็วและชาญฉลาดที่สุด
BMAT คืออะไร?
BMAT หรือ BioMedical Admissions Test เป็นการทดสอบเฉพาะทางสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าศึกษาต่อในสาขาทางการแพทย์และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ทันตแพทยศาสตร์ โดย BMAT นับเป็นหนึ่งใน Requirement สำคัญที่มหาวิทยาลัยชั้นนำเลือกใช้ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และในไทยเช่น จุฬาฯ มหิดล ธรรมศาสตร์ และ มศว.
BMAT เป็นการสอบประเภท Speed Test เพื่อวัดผลการใช้ทักษะทั่วไปในการแก้ปัญหา การวิเคราะห์และสรุปข้อมูล การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ รวมไปถึงการนำความรู้ดังกล่าวไปสื่อสาร พร้อมกับการเสนอแนวคิดได้อย่างชัดเจนและมีประสิทธิภาพผ่านการเขียนบรรยาย เพื่อวัดว่านักเรียนมีความพร้อมในการศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยต่อไปหรือไม่
BMAT เป็นการสอบที่ถูกจัดขึ้นโดย Cambridge Assessment ที่มีการจัดสอบในประเทศต่างๆ พร้อมกันปีละ 4 ครั้งตลอดทั้งปี ในเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม และตุลาคม
โดยในประเทศไทยจะจัดสอบขึ้นเพียง 2 ครั้ง คือวันที่ 31 สิงหาคม กับ 30 ตุลาคม 2019 ล่าสุดทางคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ประกาศว่าใน TCAS 2019 จะรับคะแนนทั้ง 2 รอบ สำหรับปีต่อๆ ไปต้องติดตามข่าวสารกันอีกที
วิธีการเตรียมตัวสอบ BMAT ที่ดีที่สุด
การเรียน BMAT ให้เกิดความเข้าใจและมีประสิทธิภาพสูงสุดคือ การเรียนแบบสอนสด ควบคู่ไปกับการทำ Personal Coaching จากทีมคณาจารย์สายตรงที่มีประสบการณ์สอนสูง การสอนสดทำให้ผู้สอนสามารถรับฟังวิธีการคิดของนักเรียนและให้ Feedback แก่นักเรียนได้ทันที อันเป็นการเพิ่มทักษะในการคิดวิเคราะห์ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการตอบคำถามของ BMAT โดยทักษะดังกล่าวนี้ไม่สามารถเรียนรู้ได้ผ่านระบบออนไลน์
นอกจากนี้การสอนสดยังช่วยให้อาจารย์สามารถวางแผนการเตรียมตัวให้นักเรียนได้เป็นรายบุคคลทำให้น้องๆ สามารถวางแผนการสอบของตัวเองได้อย่างลงตัวพร้อมพัฒนาศักยภาพของตนในเวลาที่จำกัด
ทดลองสอบ BMAT เสมือนจริง พร้อมแนะนำเทคนิคเด็ด อาวุธลับ แบบที่ไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อน
ค่ายติว Warwick “BMAT Super Tips” เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ทำการสอบ BMAT เสมือนจริง ตามแบบฉบับของ Warwick Institute โรงเรียนเตรียมอินเตอร์จุฬาฯ ธรรมศาตร์ ที่ทำให้นักเรียนเอนท์ติดกว่า 3,000 คนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
โดย Warwick Institute ถือเป็นสถาบันแรกในไทยที่ได้จัดสอบ Simulation Test ขึ้นตั้งแต่ปี 2012 โดยเป็นการสอบเสมือนจริง ใช้ข้อสอบ ระเบียบ กฏกติกา และการให้คะแนนเสมือนจริง เพื่อให้นักเรียนได้ประเมินศักยภาพของตนเอง และวางแผนการพัฒนาคะแนนต่อไป
ในการสอบ BMAT Simulation Test นี้จะช่วยสร้างความคุ้นชินกับตัวข้อสอบทำให้น้องๆ ไม่ประหม่าและพร้อมพิชิตคะแนนตามที่ตนเองตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งปกติแล้ว Warwick Institute จะจัดให้เฉพาะนักเรียนของทางสถาบันฯ เท่านั้น
แต่เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี เราได้เปิดโอกาสให้นักเรียนภายนอกได้ร่วมประสบการณ์ทำข้อสอบเสมือนจริง นอกจากนั้นคณาจารย์ของ Warwick Institute จะมาร่วมกันเฉลยและให้ Tips ในการทำข้อสอบทันที ทำให้นักเรียนสามารถวางแผนในการพัฒนาศักยภาพของตนต่อไปได้ในอนาคต
ใครที่กำลังวางแผนเข้าคณะในฝัน อย่างคณะแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำในไทยและต่างประเทศและต้องใช้ BMAT ในการยื่น ต้องไม่พลาดกิจกรรมที่จะจัดขึ้นครั้งนี้นะครับ
ประสบการณ์ Warwick “BMAT Super Tips” พร้อมช่วงพิเศษเฉลยข้อสอบโดยกูรูสายตรงของ Warwick Institute ที่มีประสบการณ์สอนมากกว่า 10 ปี
มาลองข้อสอบจริง พร้อมฟังเฉลยคำตอบทันที เพื่อที่จะทำให้น้องๆ ได้เทคนิคเด็ด อาวุธลับ แบบที่ไม่เคยได้จากที่ไหนมาก่อน
พบกันวันที่ 7 กรกฎาคม 2562
เวลา 9.00 – 12.00 น.
ณ Warwick Institute
ชั้น 12A อาคารสยามพิวรรธน์ทาวเวอร์ (ด้านหลังสยามดิสคัฟเวอรี่)
เรียกได้ว่าหากสงสัยหรือทำไม่ได้ข้อไหน ก็รู้คำตอบได้ทันที พร้อมรับคำแนะนำและเคล็ดลับวิธีการเตรียมตัวทำให้เรารู้หนทางในการพัฒนาตนเองต่อไปในอนาคต
ดูรายละเอียดกิจกรรม สอบถามพี่ๆ ทาง Facebook LINE @warwick ลงทะเบียนออนไลน์ตรงนี้เลย!
เปิดให้ลงทะเบียนแล้ววันนี้ – 5 กรกฎาคม 2019 (รับจำกัดเพียง 40 ที่นั่ง)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 02-658-4880
รายละเอียดการสอบ BMAT
การสอบ BMAT ใช้เวลา 2 ชั่วโมง และเป็นการสอบแบบ Pen-and-paper Test โดยแบ่งข้อสอบออกเป็น 3 Section ดังนี้
Secion 1: Aptitude and Skills
ความถนัดและทักษะ จำนวน 35 คำถามแบบมีตัวเลือก เวลา 60 นาที คะแนนเต็ม 9.0
Section 2: Scientific Knowledge and Applications
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และการนำไปประยุกต์ใช้ จำนวน 27 คำถามแบบมีตัวเลือก เวลา 30 นาที คะแนนเต็ม 9.0
Section 3: Writing Task
การสอบข้อเขียน จำนวน 3 คำถาม โดยเลือกหนึ่งหัวข้อจากจำนวนทั้งหมด 3 หัวข้อ เวลา 30 นาที คะแนนเต็ม 5.0 และ A โดยการพิจารณาคะแนนใน Section 3 นี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ
- ความมีคุณภาพของเนื้อหา (Quality of Content) ซึ่งจะมีช่วงคะแนนจาก 1 ไปจนถึง 5 โดย 5 คะแนนจะเป็นการเขียนเนื้อหาได้ดีที่สุดและไม่มีข้อบกพร่อง
- ความถูกต้องแม่นยำในการใช้คำศัพท์ ไวยกรณ์ และโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ (Quality of English) โดยจะมีช่วงคะแนนจาก A ไปจนถึง E ซึ่ง A หมายถึงการใช้ภาษาในการเขียนโดยดีที่สุดและมีความผิดพลาดน้อยที่สุด
ดังนั้นคะแนนเต็มของ 3 Sections จึงเป็น 9+9+5 = 23 และ A หรือเรียกสั้นๆ ว่า 23A
หากน้องๆ อยากติดคณะชั้นนำ อย่างแพทยศาสตร์ จุฬาฯ หรือมหิดล พี่ขอแนะนำให้มีคะแนนทั้ง 3 Sections รวมกันอย่างน้อย 16C นะครับ