กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB Money Matters with AFTERKLASS

รู้หรือไม่ ‘หุ้นตก’ มีหลายระดับ ชวนรู้จักศัพท์แสงพื้นฐาน ที่หลายคนอาจยังไม่รู้!

น้อง ๆ คนไหนที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับหุ้นหรือการลงทุนอยู่ คงได้ยินคำว่า ‘หุ้นตก’ ผ่านหูผ่านตามาบ้าง ซึ่งเราก็เชื่อว่าภาพจำคำว่าหุ้นตกของน้อง ๆ คงจะต้องเป็นภาพเส้นกราฟสีแดงที่ดิ่งจากสูงลงต่ำ จนแดงไปหมดทั้งกระดาน ดูเป็นสถานการณ์ที่น่ากังวลมาก

แต่! ในหลักสากลคำว่าหุ้นตกไม่ได้มีแค่ความหมายเดียวอย่างที่เราเข้าใจกัน เพราะมีการแบ่งระดับหุ้นตกออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับ Pullback ระดับ Correction และระดับ Crash ซึ่งแต่ละระดับก็มีความผันผวนของหุ้นที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นใครที่สนใจเรื่องหุ้น ต้องทำความเข้าใจให้ดี!

ระดับ Pullback 🟡

เป็นคำที่ใช้เรียกหุ้นตกในระดับเล็กน้อยประมาณ 5-10% จากจุดสูงสุด ซึ่งช่วงนี้เป็นจังหวะที่นักลงทุนหลายคนเลือกใช้เป็นโอกาสที่จะช้อนซื้อ เนื่องจากเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นจะร่วงลงระยะสั้นเท่านั้น เฉลี่ยประมาณ 1 เดือน ก่อนที่จะกลับขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับขึ้นมาสวย ๆ ได้ทุกครั้งเสมอไป เพราะแม้จะเป็นหุ้นตกระดับ Pullback หรือเล็กน้อย แต่ก็ต้องวิเคราะห์เพิ่มเติมด้วย ซึ่งบางครั้งก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำหุ้นถึงตก สำหรับกรณีหุ้นตกลงมาไม่ถึง 5% จะไม่ถูกจัดว่าเป็นระดับใดเลย เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามปกติ

ระดับ Correction 🟠

สำหรับระดับนี้เป็นช่วงที่หุ้นตกลงมา 10-20% จากจุดสูงสุด เหตุผลที่หุ้นตกได้ในระดับนี้ส่วนใหญ่จะมีสาเหตุในระดับมหภาค เช่น นโยบายของภาครัฐบางอย่างที่มีผลต่อเศรษฐกิจ เหตุการณ์ด้านการเมือง หรือภาวะฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ ทำให้ผลประกอบการของบริษัทที่ซื้อหุ้นไว้ไม่เป็นไปตามที่คาด โดยทั่วไปจะกินเวลาประมาณ 3-4 เดือน ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มทยอยขายกัน แต่ภาวะหุ้นตกในระดับนี้ บางครั้งอาจมองเป็นเรื่องบวกได้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่มีมูลค่าสูงเกินจริง ซึ่งนักลงทุนชาวไทยบางคนให้นิยามว่าเป็นภาวะ ‘ปรับฐาน’ 

ระดับ Crash🔴

เป็นภาวะที่หุ้นตกลงมาในระดับที่มากกว่า 20% จากจุดสูงสุด ซึ่งสถานการณ์นี้จะสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนผู้ถือหุ้นนั้น ๆ ได้มากที่สุด เพราะเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรง เป็นไปได้สูงที่ธุรกิจจะอยู่ในสภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง เช่น มีการล้มละลายของธนาคารขนาดใหญ่ หรือบริษัทขนาดใหญ่ประกาศล้มละลาย จนส่งผลให้ธุรกิจในเครือต้องเสียหายไปด้วยแบบโดมิโน นำไปสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งกินเวลานานตั้งแต่ 10 เดือน ไปจนถึง 24 เดือนทีเดียว นอกจากนี้กว่าจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลานานหลายปี

เห็นไหมว่า ‘หุ้นตก’ ที่เราได้ยินกันมายาวนาน ไม่ได้เป็นคำที่มีความหมายว่าต้อง ‘น่ากลัว’ เสมอไป เพราะแม้จะเป็นคำที่มีความหมายโดยรวมคือภาวะหุ้นตกเหมือนกัน แต่ด้วยระดับที่แตกต่างกันทำให้เกิดสถานการณ์ที่ต่างกันออกไป บางครั้งก็สามารถมองเป็นโอกาสได้ด้วย ดังนั้นนอกจากจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีแล้ว ยังต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับศัพท์ที่ใช้ในตลาดหุ้นเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์และจัดการกับพอร์ตหุ้นได้ทันเวลา

และใครที่ชอบเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับการเงินการลงทุนแบบนี้☝️ ติดตาม AFTERKLASS ไว้เลย เดี๋ยวครั้งหน้าเราจะมีคำศัพท์อื่น ๆ มาแนะนำกันอีกแน่นอน

เขียนบทความโดย : พี่ ๆ ทีมงาน AFTERKLASS

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

พี่เพียงฟ้า

พี่เพียงฟ้า นิสิตนิเทศ จุฬาฯ